“ที่ปรึกษาชวน” ยันสภาพิจารณาร่าง กม.ส.ส.ทุกฉบับ ไม่มีดองของฝ่ายค้าน แต่บางครั้งมีการเล่นเกม-พูดซ้ำซาก วอนทุกฝ่ายใช้เวลาให้คุ้มค่า อยู่ในครบองค์ประชุม
วันนี้ (30 พ.ย.) นพ.สุกิจ อัฒโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษกร ชี้แจงต่อกรณีที่ นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล ระบุว่า สภามักจะแทรกคิววาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ของรัฐบาลตลอด ขณะที่ร่างพ.ร.บ.ของ ส.ส.ไม่มีแม้แต่ฉบับเดียว โดยยกตัวอย่างร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่งคณะกรรมการรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่เสนอโดยส.ส.พรรคก้าวไกล ถูกดองมา 2 ปี โดยยืนยันว่า ร่าง พ.ร.บ.ทุกฉบับ ไม่ว่าจะเสนอโดยใคร จะได้รับการบรรจุระเบียบวาระอย่างแน่นอน โดยในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) เป็นต้นไป สภาจะมีการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ของ ส.ส. และประชาชนจะได้รับการนำเข้าพิจารณาสภา โดยเฉพาะร่าง พ.ร.บ.ยกเลิกคำสั่ง คสช.ได้มีการ บรรจุในวาระที่ 5.6 ในเรื่องค้างพิจารณา
นพ.สุกิจ กล่าวว่า ต้องเข้าใจว่า การบรรจุวาระและพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ขึ้นอยู่กับข้อบังคับด้วย โดยระยะแรกต้องยอมรับว่ามีการเสนอร่างกฎหมายเข้ามาน้อยมาก เนื่องจากมีข้อกำหนดและขั้นตอนต่างๆ มาก อาทิ ต้องผ่านการรับฟังความเห็น ตรวจสอบผลกระทบต่างๆ แต่ในระยะหลังมีการเสนอเข้ามามาก ทางประธานสภาก็บรรจุเข้าตามระเบียบวาระ แต่ร่าง พ.ร.บ.ของรัฐบาลที่เสนอเข้ามามักจะเป็นเรื่องเร่งด่วน ต้องใช้ในการบริหารแผ่นดิน จึงจำเป็นต้องเลื่อนขึ้นมาพิจารณาในวาระแรกๆ ขณะที่ร่างของส.ส.เสนอเป็นเรื่องธรรมดาก็จะบรรจุไว้ในวาระทั่วไป
นอกจากนี้ แม้ประธานจะกำหนดให้ทุกวันพุธเป็นวันพิจารณาร่าง กม. แต่จะเห็นว่ามีปัญหาจุกจิกหลายเรื่อง เช่น กำหนดให้วิปแต่ละฝ่ายไปตกลงว่าจะใช้เวลาเท่าไหร่เพื่อให้การพิจารณาเป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่เคยทำได้ เพราะบางครั้งก็มีการเล่นเกมกันมาก หรือมีผู้อภิปรายจำนวนมากและซ้ำประเด็น ในอดีตประธานสภาจะไม่อนุญาตให้อภิปรายซ้ำประเด็น แต่ในยุคนี้ประธานใจดีให้ทุกคนได้พูด จึงจะเห็นว่าบางร่างใช้เวลามาก บางครั้งมีการเสนอเรื่องด่วนเข้ามา ก็ต้องเลื่อนกัน
“จึงขอความร่วมมือจากฝ่ายพรรคการเมืองให้ใช้เวลาอย่างคุ้มค่า และอยู่ให้ครบองค์ประชุมเพื่อให้การพิจารณาร่างกฎหมายเดินไปได้ เพราะการพิจารณาร่างกฎหมายเป็นเรื่องสำคัญ จะต้องมีการลงมติ จึงไม่สามารถใช้ข้อบังคับการประชุมสภาที่ 88 ให้ผ่านไปโดยไม่ต้องลงมติได้” ที่ปรึกษาประธานสภา กล่าว