“วิษณุ” ชี้ วิปรับฟังเสียงสะท้อนฝ่ายค้าน ย้ำต้องแก้ปัญหาคุมองค์ประชุม บอก รธน.ตกไปเสนอใหม่ได้ แนะควรเอาความผิดพลาดครั้งนี้เป็นบทเรียน
วันนี้ (18 พ.ย.) เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่การประชุม ได้ชิงปิดประชุมสภาฯ ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง เนื่องจากมีสมาชิกร่วมประชุมน้อย ว่า วันที่ 17 พ.ย.มีการประชุมร่วมรัฐสภา สมาชิกอยู่กันครบถ้วน และเห็นใจเนื่องจากประชุมทั้งวันและประชุมหลายสภา ทั้งประชุมรัฐสภา และประชุมสภาผู้แทนราษฎร ช่วงบ่ายตนไปชี้แจงร่าง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เห็นว่า มีสมาชิกครบองค์ประชุม แต่เกินมาไม่มาก เขาอาจไปประชุมกรรมาธิการอยู่ก็ได้ เมื่อเสร็จการพิจารณาเรื่องดังกล่าว เข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เครื่องสำอาง อภิปรายกันสักพักถึงเวลาสมาชิกไม่อยู่ ซึ่งเขาอาจไปพักกันหรือไม่ และก็เป็นไปอย่างที่เห็น
เมื่อถามว่า หลังจากนี้ ต้องประสานให้ ส.ส.รัฐบาล ควบคุมเรื่ององค์ประชุมมากกว่านี้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า การทำให้องค์ประชุมครบ เป็นหน้าที่ของ ส.ส.ทุกคน โดยเฉพาะพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจำเป็นต้องอยู่ เพราะเป็นการเสนอกฎหมายของรัฐบาล ซึ่งเรื่องนี้ขอให้วิปไปจัดการ
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุว่า ส.ส.ฝ่ายค้าน อยู่ได้ แต่ทำไม ส.ส.รัฐบาล อยู่ไม่ได้ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ ส่วนที่ฝ่ายค้านระบุหลังจากนี้ จะอยู่ประชุมเพื่อลงมติ แต่ไม่ขอแสดงตัวเป็นองค์ประชุมให้นั้น ก็ขอบคุณที่บอกให้รู้ วิปคงได้ยินแล้ว ก็คงไปเตรียมการ
เมื่อถามถึงกรณีรัฐสภาตีตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เสนอโดย นายพริษฐ์ วัชรสินธุ กับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 135,247 คน หากจะเสนอเข้ามาอีกสามารถทำได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ ส่วนกระบวนการทุกอย่างทำใหม่หมด
เมื่อถามว่า เรื่องนี้มีผู้ผูกโยงกับการเคลื่อนไหวนอกสภาด้วย จะทำให้เรื่องต่างๆ วุ่นวายหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่น่าจะวุ่นวาย หากวุ่นวายใครที่มีหน้าที่ก็จัดการไป เพราะถ้าทำไม่ให้วุ่นวายสามารถทำได้ ส่วนที่ผู้เสนอบอกว่าจะเดินหน้าต่อนั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ก็เสนอได้อีก เสนอได้ทุกวัน ปีที่แล้วเดินมาทีนึงแล้ว ปีนี้ก็เดินอีก ถ้าต่อไปจะเดินอีกก็ไม่ได้แปลกอะไร ถ้าหากตรงใจถูกใจก็อาจจะได้รับความเห็นชอบเพิ่มมากขึ้นก็ได้
“ก็ต้องรู้จักเอาสิ่งเหล่านี้มาเป็นบทเรียนด้วยว่าทำไมถึงไม่ผ่าน ถ้าจะให้ผ่านต้องทำอย่างไร ซึ่งก็อาจจะไม่ผ่านหมด บางคำขอคงต้องเลือกเอาประเด็นสำคัญที่ตกไป เพราะมีเรื่องไปผูกกับงบประมาณ 3,000 ล้านบาท เพื่อทำประชามติ” นายวิษณุ กล่าว