โฆษก พปชร.ป้อง “บิ๊กป้อม” ไปน่าน ฐานะรองนายกฯ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ขอ พท.ส่งเสริมเพื่อ ปชช.

โฆษกพลังประชารัฐ โต้เพื่อไทย กล่าวหา “บิ๊กป้อม” ลงพื้นที่ขายนโยบาย ย้ำเดินทางน่าน ในฐานะรองนายกฯ มุ่งพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน เชื่อมจังหวัด เชื่อมเศรษฐกิจ วอน “ชลน่าน” ช่วยส่งเสริมเพื่อประชาชน โดยไม่คำนึงว่าเป็นผลงานของใคร

วันนี้ (29 พ.ย.) ดร.พัชรินทร์ ซำศิริพงษ์ ส.ส.กทม. เขต 2 ในฐานะโฆษกพรรคพลังประชารัฐ ระบุถึงกรณีที่ พรรคเพื่อไทย โดย นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรค ที่ได้แถลงข่าวกล่าวหาว่า การลงพื้นที่ของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ทำนองว่า เป็นการขายของเชิงนโยบาย นำโครงการสร้างถนน-สร้างสะพาน มาขายให้ประชาชนในพื้นที่ ว่า นี่ไม่ใช่การมาหาคะแนน แต่เพราะ พลเอก ประวิตร ท่านเป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่กำลังแก้ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานให้กับประชาชน ซึ่งแน่นอนว่า เป็นไปตามแนวทางการพัฒนาของรัฐบาล ซึ่งเราพัฒนาในทุกพื้นที่ ไม่ใช่เป็นการมาขายของ หรือมุ่งหวังเพียงแค่พื้นที่ทางการเมือง อย่างที่ถูกวิจารณ์

โดยขณะนี้ พลเอก ประวิตร ได้ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ในการพัฒนาเศรษฐกิจ และการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ภาคเหนือ โดยที่ผ่านมา รัฐบาลได้ให้การสนับสนุนโครงการต่างๆ จำนวนมาก เพื่อรองรับสถานการณ์การขาดแคลนน้ำ ซึ่งในปี 66-67 จะมีโครงการสำคัญ อีก 8 โครงการ ครอบคลุมการซ่อมแซม การก่อสร้าง ระบบส่งน้ำ, ฝาย, บ่อบาดาล, อ่างเก็บน้ำ รวมทั้งการขุดลอก เพื่อการแก้ปัญหาน้ำทั้งระบบ ในส่วนของการพัฒนาเศรษฐกิจจากโครงการก่อสร้างสะพาน และถนนเชื่อมโยงเศรษฐกิจภูมิภาค ได้ให้กรมทางหลวง เร่งรัดโครงการก่อสร้าง เส้นทางเชื่อม จ.น่าน-พะเยา กับสะพาน และเส้นทาง ผาเวียง-ปากนาย จึงนับว่าเป็นทั้งการเชื่อมถนน เชื่อมจังหวัด และเชื่อมเศรษฐกิจภูมิภาค

ดร.พัชรินทร์ ย้ำว่า การลงพื้นที่ของ พลเอก ประวิตร นั้น เพื่อเร่งรัดการดำเนินงานให้เห็นเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อชาวน่าน โดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ควรจะชื่นชมว่า รัฐบาลไม่เลือกปฏิบัติ แต่กลับกล่าวโจมตีว่า พลเอก ประวิตร ใช้อำนาจรัฐ ไปจังหวัดน่าน ไปขุดเอาโครงการ สร้างถนน สร้างสะพาน ที่เป็นความต้องการของประชาชนมาขาย ซึ่งการกล่าวเช่นนี้ กลับเป็นการยอมรับว่า รัฐบาลเข้าใจถึงปัญหาของประชาชนอย่างแท้จริง และลงมือปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม จึงอยากวิงวอนถึง นพ.ชลน่าน ว่า สิ่งใดที่เป็นประโยชน์อย่างแท้จริงกับประชาชนแล้ว ขอให้ช่วยกันสนับสนุนส่งเสริมให้บรรลุเป้าหมายเพื่อประชาชน โดยไม่คำนึงว่าเป็นผลงานของใคร