ศูนย์ข่าวศรีราชา - ตะวันออกมีเฮ! ปีนี้-ปีหน้าไม่เสี่ยงภัยแล้ง หลังฝนดีทำปริมาณน้ำในอ่างใหญ่ทุกแห่งใกล้เต็มความจุ ขณะที่อ่างบางพระ น้ำเต็มสุดในรอบ 46 ปี ส่งผลดีเทศกาลลอยกระทง ได้ปล่อยน้ำช่วยแหล่งท่องเที่ยว ขณะที่ชาวนาพานทอง-พนัสฯ ได้ทำนาปรัง
จากสถานการณ์ฝนตกหนักในหลายพื้นที่ของจังหวัดภาคตะวันออกในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลดีต่อปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำหลายแห่งในพื้นที่ 8 จังหวัดที่ประกอบด้วย ชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และนครนายก จนคาดว่าในปีนี้จนถึงปีหน้าเกษตรกร รวมทั้งภาคอุตสาหกรรมและการท่องเที่ยวจะไม่ขาดแคลนน้ำอย่างแน่นอน
นายทินกร เหลือล้น ผู้อำนวยการสำนักงานชลประทานที่ 9 เผยว่า ขณะนี้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 62 อ่างถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี โดยอ่างฯขนาดใหญ่ 7 แห่งขณะนี้มีปริมาณน้ำกักเก็บทั้งสิ้น จำนวน 1,492 ล้าน ลบ.ม. หรือคิดเป็น 92% ของความจุ
ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 55 แห่ง สามารถกักเก็บน้ำได้ทั้งสิ้น 945 ล้าน ลบ.ม. จากความสามารถในการกักเก็บรวม 930 ล้าน ลบ.ม. จึงคิดเป็น 101% ของความจุ จึงมั่นใจได้ว่าในปี 2564-2565 ปริมาณน้ำในพื้นที่ภาคตะวันออกจะเพียงพอต่อความต้องการใช้ในภาคครัวเรือน ภาคการเกษตร อุตสาหกรรมและการท่องเที่ยว
“เนื่องจากอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางขณะนี้มีปริมาณน้ำเต็มความจุแล้วแทบทั้งสิ้น ส่วนในปีถัดไปยังเชื่อว่าปริมาณน้ำที่เหลือในอ่างจะมีมากกว่าทุกๆ ปีซึ่งจะส่งผลดีต่อปริมาณน้ำต้นทุนในอ่างต่างๆ”
อย่างไรก็ดี หากเกิดวิกฤตขาดแคลนน้ำ อ่างเก็บน้ำบางพระยังสามารถผันน้ำจากคลองพระองค์ไชยานุชิต ได้มากถึงปีละ 70 ล้าน ลบ.ม. ลุ่มน้ำบางปะกง อีกประมาณปีละ 30 ล้าน ลบ.ม. และยังมีอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ จ.ระยอง ที่สามารถผันน้ำมาช่วยได้
ขณะที่นโยบายและแนวทางในการบริหารจัดการน้ำของอธิบดีกรมชลประทาน ที่เน้นย้ำเรื่องการให้ความสำคัญในการจัดการน้ำในทุกด้าน ทั้งการกระจายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ภาคอุตสาหกรรม การท่องเที่ยว และรักษาระบบนิเวศ โดยเฉพาะการเกิดขึ้นของโครงการ EEC นั้น
สำนักงานชลประทานที่ 9 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดภาคตะวันออก ได้มีการวางระบบท่อส่งน้ำเชื่อมโยงอ่างเก็บน้ำต่างๆ ในพื้นที่เพื่อให้สามารถจัดสรรน้ำในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำไว้อย่างครอบคลุมแล้ว
เช่น อ่างเก็บน้ำบางพระ อ่างเก็บน้ำประแสร์ อ่างเก็บน้ำคลองใหญ่ อ่างเก็บน้ำหนองค้อ ที่จะสร้างความเชื่อมโยงระหว่างการสนับสนุนน้ำใน จ.ชลบุรี และระยอง และในอนาคตยังมีโครงการที่จะวางระบบท่อส่งน้ำเชื่อมโยงเชื่อมจาก จ.สระแก้ว และ จ.ปราจีนบุรี
ขณะที่ นายทินกร สุทิน ผู้อำนวยการโครงการชลประทานชลบุรี เผยว่า ปริมาณน้ำที่มากจนเกือบเต็มความจุอ่างในปีนี้จะทำให้ผู้ปลูกข้าวในเขต อ.พานทอง และพนัสนิคม จ.ชลบุรี สามารถทำนาปรังได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องกังวลถึงปัญหาภัยแล้ง
โดยโครงการชลประทานชลบุรี ขอให้ความมั่นใจประชาชนในพื้นที่ว่าจะมีปริมาณน้ำใช้อย่างเพียงพอจนถึงปีหน้าอย่างแน่นอน
ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำบางพระ เต็มความจุอ่างในรอบ 46 ปี
ด้าน นายเกรียงศักดิ์ พุ่มนาค ผู้อำนวยการส่วนบริหารจัดการน้ำและบำรุงรักษา เผยว่า อ่างเก็บน้ำบางพระ จ.ชลบุรี เป็น 1 ในศูนย์กลางการกระจายน้ำในพื้นที่โครงการ EEC ที่มีระบบเชื่อมโยงเป็นโครงข่ายทั้งในพื้นที่ จ.จันทบุรี และระยอง โดยในปีนี้อ่างเก็บน้ำบางพระมีความจุมากถึง 117 ล้าน ลบ.ม. และมีปริมาณน้ำไหลลงอ่างเฉลี่ย 45 ล้าน ลบ.ม.ต่อปี
และในปีนี้ยังมีปริมาณน้ำท่าไหลลงอ่างตามธรรมชาติประมาณ 70 ล้าน ลบ.ม. สูบผันมาจากแม่น้ำบางปะกง 17 ล้าน ลบ.ม. และจากคลองพระองค์ไชยานุชิต 42 ล้าน ลบ.ม. จึงทำให้มีน้ำเต็มความจุครั้งแรกในรอบ 46 ปี
โดยสำนักงานชลประทานจะได้ระบายน้ำที่ใกล้ล้นสปิลเวย์ลงสู่ห้วยสุครีพ ซึ่งถือเป็นห้วยธรรมชาติซึ่งจะทำให้เทศกาลลอยกระทงในปี 2564 มีปริมาณน้ำมากเพียงพอ และขอให้ประชาชนในพื้นที่มั่นใจว่าการระบายน้ำลงสู่ห้วยธรรมชาติจะไม่ก่อให้เกิดน้ำท่วมพื้นที่ หรือสร้างความเดือดร้อนให้ประชาชน
