วิปรัฐบาล ย้ำเสนอร่าง พ.ร.ป.การเลือก ส.ส.- พรรคการเมือง ร่วมกันเพื่อเอกภาพ คาดเสนอรัฐสภาได้เดือนธันวาคมนี้ “ชินวรณ์” ย้ำ บัตร 2 ใบเพิ่มความเป็นประชาธิปไตย ป้องกันบัตรเขย่ง ชี้ ไพรมารีโหวตเป็นภาระพรรคการเมือง ปฏิบัติจริงไม่ได้
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาล กล่าวความคืบหน้าการเสนอร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และ ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง ของพรรคร่วมรัฐบาล ว่า ที่ประชุมวิปรัฐบาลมีความเห็นว่าจะร่วมกันเสนอให้เป็นร่างเดียวกัน เพื่อให้มีความเป็นเอกภาพ เพราะเป็นกฎหมายสำคัญประกอบรัฐธรรมนูญ และที่สำคัญ เป็นกฎหมายที่ต้องดำเนินการให้เสร็จภายใน 180 วัน หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้ และขณะนี้วิปรัฐบาลได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อที่จะยกร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว และได้มีการประชุมครั้งแรกไปแล้ว โดยได้มีการกำหนดกรอบต่างๆ และในสัปดาห์นี้จะให้แต่ละพรรคการเมืองได้ส่งร่างที่แต่ละพรรคได้ยกร่างกันมา ในส่วนของพรรคร่วมรัฐบาลนั้น จะแก้ไขเฉพาะประเด็นที่สำคัญเพื่อให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่เกี่ยวข้องกับบัตรเลือกตั้ง 2 ใบเท่านั้น โดยจะสามารถนำเข้าสู่ที่ประชุมวิปรัฐบาลเพื่อพิจารณาครั้งสุดท้ายให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และคาดว่าภายในเดือนธันวาคมก็จะสามารถยื่นต่อประธานรัฐสภาได้
“ระบบบัตร 2 ใบนั้น มีข้อดีที่ทำให้มีความเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ทำให้พรรคการเมืองเข้มแข็ง และทำให้อิทธิพลของการซื้อเสียงลดลง และที่สำคัญยังส่งเสริมเสรีภาพทางการเมืองให้กับประชาชนสามารถเลือกทั้งพรรคและตัวบุคคลได้ ซึ่งเป็นไปตามโมเดลรัฐธรรมนูญปี 2540 ที่ทำให้พรรคใหญ่มีความเข้มแข็งขึ้น แต่ก็จะกระทบกับพรรคขนาดเล็กในเรื่องของการคิดคำนวณสัดส่วน ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่จะใช้วิธีคิดสัดส่วนโดยตรง ข้อดีอีกประการคือจะไม่มีระบบบัตรเขย่งและจะไม่มี ส.ส.ปัดเศษ” นายชินวรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ นายชินวรณ์ ยังกล่าวถึงการแก้ไข พ.ร.ป.พรรคการเมือง ว่า วิปรัฐบาลมีความเห็นร่วมกัน เพื่อส่งเสริมให้พรรคการเมืองสามารถแสวงหาสมาชิกพรรคได้ง่ายขึ้นภายใต้บริบทของพรรคการเมืองในระบอบประชาธิปไตย โดยเห็นว่าไม่ควรเก็บค่าธรรมเนียมในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค หรือหากจะเก็บก็ขอให้น้อยที่สุด เพราะการเก็บค่าธรรมเนียบถือเป็นข้อจำกัดในการส่งเสริมเสรีภาพของประชาชนในการเข้าร่วมพรรคการเมืองที่เป็นช่องทางสำคัญในระบอบประชาธิปไตย รวมถึงจะแก้ไขในเรื่องการดำเนินการที่จะแก้ไขในเรื่องการจัดทำไพรมารี่โหวตที่เคยมีมาตามรัฐธรรมนูญปี 2560 ซึ่งถือเป็นสิ่งตกค้างจากรัฐธรรมนูญปี 2560 ที่ร่างโดยผู้ที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง จึงต้องยอมรับว่สเมื่อเราต้องการมีระบบพรรคการเมืองที่เข้มแข็งในระบอบประชาธิปไตย เราควรที่จะให้อำนาจพรรคการเมืองในการสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมือง
“ระบบไพรมารี่โหวตนั้น เป็นระบบที่เป็นซากของรัฐธรรมนูญปี 60 ที่สร้างขึ้นมาโดยไม่จำเป็น และปฏิบัติไม่ได้จริง ที่ผ่านมา ก็เป็นเรื่องที่ทำให้เป็นภาระของพรรคการเมือง และประชาชนก็ไม่ได้มีส่วนร่วมอย่างจริงจัง” นายชินวรณ์ กล่าวทิ้งท้าย