ศาล รธน. วินิจฉัย ป.พ.พ.มาตรา 1448 ที่กำหนดการจดทะเบียนสมรสเฉพาะชาย-หญิง ไม่ขัด รธน.เรื่องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และความเสมอภาค แต่แนะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรตรา กม.รับรองสิทธิหน้าที่บุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศ
วันนี้ (17 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการพิจารณาวินิจฉัยกรณีศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง ส่งคำโต้แย้งของ น.ส.พวงเพชร เหงคำ และ นางเพิ่มทรัพย์ แซ่อึ๊ง ในคดีแพ่งหมายเลขดำที่ ยชพ 1056/2563 ของศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง กรณีขอจดทะเบียนสมรสของบุคคลหลากหลายทางเพศ เพื่อขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ป.พ.พ.) มาตรา 1448 ที่กำหนดเรื่องการสมรสของชาย-หญิง ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 4 มาตรา 5 มาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 27 หรือไม่ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 4 และมาตรา 5 เป็นบททั่วไป ที่วางหลักการคุ้มครองเกี่ยวกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์สิทธิเสรีภาพความเสมอภาคของบุคคลและความเป็นกฎหมายสูงสุดของรัฐธรรมนูญไว้โดยมิได้มีข้อความใดที่คุ้มครองสิทธิหรือเสรีภาพของบุคคลไว้เป็นการเฉพาะไม่จำต้องวินิจฉัยในส่วนนี้ จึงมีมติเป็นเอกฉันท์ว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1448 ไม่ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 27 วรรคหนึ่ง วรรคสองและวรรคสาม โดยมีข้อสังเกตว่ารัฐสภาและคณะรัฐมนตรีและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องสมควรดำเนินการตรากฎหมายเพื่อรองรับสิทธิ์และหน้าที่ของบุคคลผู้มีความหลากหลายทางเพศต่อไป
ทั้งนี้ กรณีดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก น.ส.พวงเพชร และ นางเพิ่มทรัพย์ คู่รักซึ่งมีเพศตามทะเบียนราษฎรเป็นเพศหญิง ได้ยื่นคำร้องขอจดทะเบียนสมรสเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 63 แต่ถูกนายทะเบียนปฏิเสธ ทั้งคู่จึงให้ทนายความยื่นคำร้องต่อศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อให้ศาลสั่งให้นายทะเบียนรับจดทะเบียนสมรสหากนายทะเบียนปฏิเสธก็ขอให้ศาลส่งคำโต้แย้งประเด็นข้อกฎหมายไปยังศาลรัฐธรรมนูญเพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาตรา 1448 ที่รองรับการสมรสเฉพาะชาย-หญิง ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่