xs
xsm
sm
md
lg

“ท่านใหม่” ชี้ มียุทธการ “ล้มสถาบันฯ” สู่สาธารณรัฐ “เด็กทอน” เล่นแรง “ซากีย์” “หมอวรงค์” จวก แก้ รธน.หลงทาง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ท่านใหม่” ชี้ มียุทธการ “น้ำเซาะทราย ล้ม “สถาบันฯ” ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
สั้นแต่ชัดเจน! “ท่านใหม่” ชี้ มียุทธการ “น้ำเซาะทราย ล้ม “สถาบันฯ” เปลี่ยนประเทศสู่สาธารณรัฐ สุดเสื่อมเด็กธนาธร แขวะ “ซากีย์” กินหมูสกปรก “ลูกก๊วน” เหยียดศาสนา? “หมอวรงค์” ซัด แก้ไข รธน.ไม่ตรงปัญหาประเทศ

ภาพ โพสต์ ท่านใหม่ ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (16 พ.ย. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น ท่านใหม่ แฉยุทธการ กัดเซาะ สถาบันฯ-เปลี่ยนประเทศ!

โดยระบุว่า อย่างที่ทราบกันดี การชุมนุมต่างๆ หรือการเคลื่อนไหวทางการเมืองของกลุ่มที่ต่อต้านสถาบันฯ ไม่ได้เพิ่งเกิดขึ้น แต่เป็นขบวนการที่จงใจฝังรากลึก แทรกซึมในสังคม โดยมุ่งเน้นไปที่เด็กและเยาวชน ที่หลงเชื่ออะไรได้ง่ายๆ โดยใช้วิธีปล่อยข่าวปลอม ข่าวบิดเบือน อีกทั้งการชุมนุมที่ผ่านมา ก็ได้รับการผลักดันและสนับสนุนจากกลุ่มการเมืองที่ยอมทำทุกอย่าง เพื่อได้อำนาจมาครอบครอง

ล่าสุด ม.จ.จุลเจิม ยุคล หรือ ท่านใหม่ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวสั้นๆ ว่า

“ยุทธการ น้ำเซาะทราย พยายามเซาะ สถาบันพระมหากษัตริย์ ให้ล้ม เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศชาติ ให้เป็นสาธารณรัฐ”

ภาพ เด็กธนาธร แขวะ “ซากีย์” กินหมูสกปรก ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
หลังจากนั้น ได้มีข้อความที่น่าสนใจ เข้ามาแสดงความคิดเห็นภายในโพสต์ดังกล่าวของ ม.จ.จุลเจิม เป็นจำนวนมาก อาทิเช่น

“ฝั่งล้มล้างมีแผนระยะยาว ไม่สงบสุขซักที ความไม่สงบทางการเมือง จะทำเราเสียโอกาส ที่จะ focus ในการพัฒนาประเทศ และเป็นตัวเลือกลงทุนของต่างชาติ สงสารประเทศครับ”

“เงินทำให้ผู้ใหญ่ตาลุก แล้วนำข่าวเท็จไปฝังหัวเด็กที่อารมณ์กำลังพลุ่่งพล่านไม่รู้จริงและไม่แยกแยะ ข่าวจอมปลอมจาก ออนไลน์เยอะมาก จนคนเชื่อ…แต่ตู่ก็จะแก้ไขปัญหาคนที่ไม่เข้าใจต่อไป อธิบายต่อไป อย่างไม่เหนื่อยกับเรื่องนี้ค่ะ พ่อแม่บางคนมาขอร้องให้ตู่มาพูดคุยกับลูกเขา ซึ่งได้ผลบ้างไม่ได้บ้าง แต่ตู่ก็จะทำต่อไปค่ะ”

“เห็นแล้วก็ไม่แปลกใจบางลิงก์บางโพสต์คนระดับเก่าแก่ไปกดไลก์ ทั้งที่เข้าไปอ่านข้างใน จะเห็นว่า ลิงก์นี่มันมีแต่คนที่คอมเมนต์หมิ่นทั้งนั้น คนเราไม่เห็นบ้านเมืองสถาบันหลักสำคัญ ตัวเราเองก็มีอะไร คิดแต่เอาแต่ใจตัวเราไม่ได้ อะไรที่เห็นแล้วไมรักผ่านได้ก็ผ่านไป ไปกดไลก์ยังมองตีความ ไลก์ทำไมชอบรึชัง หากระบบไม่เตือนว่าคือเพื่อนเราก็ไม่เห็น ดีว่าแคปทันเก็บเอาไว้ดูจำไว้ว่าไอ้นี่มันเป็นคนเช่นนี้ เก็บลิงก์มาทัน”

“เรื่องแบบนี้ไว้ใจไม่ได้ครับ…ถ้าสังคมไม่ออกมาคัดค้านคนพวกนี้ จะคิดว่าความคิดของพวกเขาเป็นสิ่งที่ถูกต้อง และจะทำให้คนอื่นเชื่อตามไปด้วย….ตัวอย่างที่ชัดเจนคงจะเห็นแล้วว่าความไม่เด็ดขาดในการบังคับใช้กฎหมายของรัฐบาล และความใจดีของฝ่ายตุลาการ ทำให้สิ่งที่ผิดกลายเป็นสิ่งที่ถูกต้องในสายตาของคนพวกนี้….ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ได้อย่างไร…”

ขณะเดียวกัน THE TRUTH ยังโพสต์ประเด็น เด็กธนาธร แขวะ “ส.ว.ซากีย์” กินหมูสกปรก พร้อมแซะ “จุฬาราชมนตรี” ลูกก๊วนรีบตามมาเหยียดศาสนา?

เนื้อหาระบุว่า สืบเนื่องจาก ในวันนี้ (16 พ.ย. 64) รัฐสภา มีการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญฉบับภาคประชาชนที่ร่วมกันลงชื่อเสนอต่อรัฐสภา คือ “ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ” ที่มีการเคลื่อนไหวภายใต้แคมเปญขอคนละชื่อ-รื้อระบอบประยุทธ์ ที่ดำเนินการโดยกลุ่ม Re-solution ซึ่งมีแกนนำหลัก คือ ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการเลขาธิการคณะก้าวหน้า และ พริษฐ์ วัชรสินธุ หรือ ไอติม

ภาพ โพสต์ นายธนาพล อิ๋วสกุล ขอบคุณภาพจากเพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH
ซึ่งก่อนหน้านี้ ในวันที่ 15 พ.ย. 64 นายธนาพล อิ๋วสกุล บรรณาธิการบริหารสำนักพิมพ์ฟ้าเดียวกัน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว Thanapol Eawsakul ว่า

“พรุ่งนี้เรามาดูกันนะครับว่า ซากีย์ พิทักษ์คุมพล สมาชิกวุฒิสภา ที่ได้ตำแหน่งเพียงเพราะเขาเป็นบุตรของ อาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี (ในโควตา ที่เผด็จการมอบให้สำนักจุฬาราชมนตรี) จะรับประทานของสกปรก “กินหมู” กับบรรดา สมาชิกวุฒิสภา อีก 249 คน ที่ประกาศจะโหวตล้มร่างรัฐธรรมนูญของประชาชน ที่จะยกเลิกวุฒิสภา เดินหน้าสภาเดี่ยวหรือไม่”

หลังจาก นายธนาพล โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไปนั้น ได้มีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็น ในทำนองเชิงแซวเสียดสีศาสนา ดังนี้ “อิสลามกินหมู นี้มันเชื่อได้เหรอครับ” “ไม่กินหมูครัช กินแต่ขี้เผด็จการ” “เอาอะไรกับชีอะห์ เคร่งซะที่ไหน”

ซึ่งก่อนหน้านี้ นายธนาพล ก็ได้โพสต์ถึงประเด็นท่าทีของ พรรคพลังประชารัฐ ที่มีต่อ รัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวอีกด้วยว่า

“น่าสนว่า การที่ร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่ประชาชนเข้าชื่อ ยกเลิกวุฒิสภากลายเป็นสภาเดี่ยว ฝ่ายรัฐบาล จะลงมติเช่นไร

สำหรับพรรคพลังประชารัฐ แบไต๋ออกมาแล้วว่าจะโหวตคว่ำ แต่สำหรับพรรคประชาธิปัตย์ ที่ก่อนหน้านี้ หาเสียงว่าเข้าร่วมรัฐบาล เพื่อจะมาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น จะโหวตเช่นไร

ถ้าโหวตคว่ำ ครั้งหน้าก็เตรียมเป็นพรรคต่ำ 40 ได้เลย”

ภาพ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม  จากแฟ้ม
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์เฟซบุ๊ก Warong Dechgitvigrom ระบุว่า

“#เสนอแก้รัฐธรรมนูญแบบหลงทาง

ฟังการอภิปรายของผู้ต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวันนี้ (16 พ.ย. 2564) ต้องการสภาเดี่ยว ปรับที่มาของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ และผลพวงจากการรัฐประหาร เพื่อต้องการเพิ่มอำนาจทุกอย่างมาที่ ส.ส.

ผมอยากจะบอกพวกคุณว่า คุณพยายามสื่อว่า ปัญหาของชาติเกิดจากการรัฐประหาร แต่สิ่งที่คนกลุ่มนี้กดทับไว้ และไม่เคยพูดถึงเลย นั่นคือ เหตุการณ์ก่อนรัฐประหาร รัฐบาล นักการเมือง ได้ปู้ยี่ปู้ยำ ประเทศชาติอย่างไร ทำไมมวลมหาประชาชนนับล้านคนจึงออกมาขับไล่บนถนน

ผมอยากให้ลืมหูลืมตา อย่ามัวแต่สร้างวาทกรรม ให้เห็นรากที่มาของปัญหาประเทศ อย่างแท้จริง อย่าหลอกตัวเองว่าก่อนรัฐประหารเกิดอะไรขึ้นบ้าง เพราะยิ่งกดทับสิ่งเหล่านี้และไม่ยอมพูดถึง จะยิ่งหลงทางและแก้ปัญหาประเทศ แบบไม่ตรงจุด

ต่อให้เสนอแก้รัฐธรรมนูญกี่ร้อยฉบับ ถ้ายังกดทับเหตุการณ์ก่อนรัฐประหาร ทั้งเรื่องโคตรโกง ใช้อำนาจไม่ชอบโดยไม่นำออกมาตีแผ่ว่าเป็นชนวนปัญหา ก็ไม่มีทางแก้ปัญหาได้ และจะยิ่งนำไปสู่ความขัดแย้งหนักขึ้น เพราะประชาชนไม่ได้โง่อย่างที่พวกท่านต้องการกดทับไว้

ต้องรับรู้ไว้ด้วยว่าสังคมไทยถูกกดทับด้วย 3 สิ่งนั่น คือ นักการเมืองทุจริต ข้าราชการทุจริต และกฎหมายล้าสมัย”

แน่นอน, การเมืองร้อน ภาคต่อจากคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คดี 3 แกนนำ ม็อบราษฎร ปราศรัยล้มล้างการปกครองฯ ดูเหมือนจะมาอยู่ที่รัฐสภาแทน หลังจากมีการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน และกำลังจะลงมติผ่านวาระแรกหรือไม่

ทั้งนี้ แม้ว่า ฝ่ายผู้เสนอร่างฯ อย่าง นายปิยบุตร พยายามปลุกกระแสให้ประชาชนจับตามอง แถมขู่ประชาชนจะลงโทษ ส.ส. พรรคการเมืองที่โหวตคว่ำ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ดูเหมือน ด้วยสาระสำคัญที่ไม่ต่างจากเอาข้อเสนอของม็อบมาแปลงเป็นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยไม่สนใจว่า ผลกระทบ แถมบางคนเชื่อว่า เป็นการระบายความเคียดแค้น และอคติของคนบางกลุ่ม ที่มีต่อ สถาบันฯ กองทัพ ศาล องค์กรอิสระ ร่างฉบับนี้ จึงใส่เต็มองค์กรเหล่านั้น จนหลายคนถึงกับวิเคราะห์ว่า พวกเขาอาจไม่หวังที่จะผ่านสภาฯ เพียงแต่ทำเพื่อความสะใจ และใช้เป็นกลยุทธ์ชี้นำทางสังคมในเรื่องที่เสนอร่างเท่านั้น ซึ่งก็นับว่าน่าคิดอย่างมาก

ที่สำคัญไปกว่านั้น การมอบอำนาจทั้งหมดไปอยู่ที่สภาผู้แทนฯ ในขณะที่การเมืองไทย การเลือกตั้งของไทย อิสระในการตัดสินใจลงคะแนนเลือกตั้งของคนไทยส่วนใหญ่ ถ้าไม่โกหกตัวเอง ก็ต้องบอกว่า ส่วนมากซื้อสิทธิขายเสียง มีการใช้อิทธิพลทางการเมือง มีการซื้อ ส.ส. ฯลฯ

ไม่เพียงเท่านั้น นักการเมืองพร้อมแค่ไหนที่จะมีอำนาจล้นฟ้า? อำนาจที่ได้มาจะใช้เพื่อประชาชน หรือผลประโยชน์ส่วนตัว ปัญหาพวกมากลากไป ปัญหาเผด็จการรัฐสภา ปัญหาโกงกิน ทุจริตในหมู่เครือญาติและคนใกล้ชิด ที่เป็นมาในอดีต จนต้องทำให้ประชาชนเวียนลงถนนครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ใช่เพราะนักการเมืองโกงกินดอกหรือ???

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร ขึ้นอยู่กับรัฐสภาจะลงมติผ่านร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และผลออกมาอย่างไร ในเมื่อเราปกครองในระบอบประชาธิปไตย ก็ต้องยอมรับผลที่ออกมาให้ได้ ทำให้เด็กมันเห็นว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริง คือ อย่างไร หวังว่าจะไม่มีฝ่ายไหน นำเอาเรื่องนี้ไปปลุกระดมโจมตีกันอีก เลิกเสียทีนิสัยขี้แพ้ชวนตี หรือไม่จริง!?


กำลังโหลดความคิดเห็น