xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” หนีบ “ธรรมนัส-นฤมล” ลงพื้นที่ระนอง-กระบี่ กำชับสกัดแรงงานลักลอบเข้าเมือง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ตรวจติดตามความคืบหน้างานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.กระบี่
“พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่ระนอง และกระบี่ กำชับเข้มสกัดกั้นแรงงานลักลอบเข้าเมือง และเร่งขับเคลื่อนจัดที่ดินทำกินและดึงภาคประชาชนร่วมแก้ปัญหา

วันนี้ (15 พ.ย.) พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 06.00 น. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางลงพื้นที่ภาคใต้ ตรวจติดตามความคืบหน้างานสำคัญตามนโยบายของรัฐบาลในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.กระบี่ โดยรับฟังการบรรยายสรุปจากหัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ณ ศาลากลาง จ.ระนอง ถึงการปฏิบัติงานในภาพรวม ด้านความมั่นคง สถานการณ์ด้านแรงงาน ยาเสพติดและมาตรการควบคุมป้องกันโรค

พล.อ.ประวิตร ได้ชื่นชมกับแนวคิด “ระนองโมเดล” ในความเข้มแข็งของมาตรการป้องกันและควบคุมโรคที่อาศัยการมีส่วนร่วมและความใส่ใจร่วมกันของกลุ่มพลังมวลชนในพื้นที่ ร่วมขับเคลื่อนภายใต้การนำของผู้นำท้องถิ่นระดับหมู่บ้าน ซึ่งสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็ว พร้อมย้ำว่า จว.ระนอง เป็นเส้นทางผ่านยาเสพติดและการลักลอบเข้าเมืองทั้งทางบกและทางทะเล จึงต้องคุมเข้มเฝ้าระวังและเข้มงวดกวดขัน เน้นงานเชิงรุกกับการลักลอบเข้าเมือง การใช้แรงงานผิดกฎหมาย การค้ามนุษย์และยาเสพติด รวมทั้งการลักลอบนำเข้ายางพาราผิดกฎหมาย ซึ่งกระทบต่อเกษตรกรโดยตรง โดยให้บูรณาการทำงานร่วมกันทั้งจุดผ่านแดน จุดผ่อนปรนและช่องทางธรรมชาติอย่างจริงจังและต่อเนื่อง พร้อมทั้งย้ำการปฏิบัติต่อผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเล ขอให้เป็นไปตามหลักสากลบนพื้นฐานของกฎหมายและพันธกิจระหว่างประเทศ คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม ผลกระทบต่อเด็ก สตรีและคนป่วยเป็นอันดับแรก

รองนายกรัฐมนตรี ยังแสดงความเป็นห่วงการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนและแรงงาน โดยขอให้สร้างการรับรู้และกระจายวัคซีนลงไปอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะกับกลุ่มเสี่ยงและผู้ใช้แรงงาน พร้อมย้ำว่า การลักลอบเข้าเมืองและแรงงานผิดกฎหมายยังถือเป็นความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่สำคัญ ที่ต้องเฝ้าระวังสูงสุดร่วมกันต่อไป ทั้งนี้ ขอให้สร้างความรู้ความเข้าใจกับแรงงานข้ามชาติและผู้ประกอบการ ให้การสนับสนุนมาตรการควบคุมโรคที่กำหนดไปพร้อมๆ กัน

จากนั้นได้เดินทางไปยังท่าเรือ ต.น้ำจืด อ.กระบุรี รับฟังสถานการณ์ป้องกันชายแดน จากหน่วยงานความมั่นคง โดยเน้นร่วมกันเฝ้าระวังกวดขันบังคับใช้กฎหมายกับการทำประมงผิดกฎหมาย ( IUU )และการค้ามนุษย์ และเดินทางต่อไปรับฟังการมีส่วนร่วมของภาคเอกชนและสถานประกอบการ บริษัท โกลด์เดิน ซีฟู๊ด อินเตอร์เนชั่นแนล ที่ถือเป็นตัวอย่างในการป้องกันและควบคุมโรคระหว่างผู้ประกอบการกับผู้ใช้แรงงาน และพบปะรับทราบปัญหาจากกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ต่อจากนั้น ได้เดินทางไปกระทำพิธีเปิดและร่วมกิจกรรมแหล่งท่องเที่ยว บ่อน้ำแร่ร้อนพรรั้ง ต.บางริ้น อ.เมือง เพื่อร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่








กำลังโหลดความคิดเห็น