xs
xsm
sm
md
lg

ซูเปอร์โพลเผย ปชช.พอใจผลเปิดประเทศ 2 สัปดาห์แรก แนะรัฐเตรียมแผนเผชิญเหตุรับมือโควิดระบาดรอบใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายนพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) เสนอผลสำรวจ เรื่อง "ความพอใจของประชาชน หลังเปิดประเทศช่วง 2 สัปดาห์แรก" กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ จำนวน 1,147 ตัวอย่าง ระหว่างวันที่ 11-13 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา พบว่า ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 77.7 พอใจต่อการบริหารจัดการ การเร่งฉีดวัคซีนต่อเนื่องให้เกิน 45% ตามแผนที่วางไว้ของรัฐบาล ในขณะที่ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 77.6 พอใจต่อภาพที่เห็นของการเปิดประเทศ การทำธุรกิจ การค้าการขายที่กลับมาคึกคักในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 77.2 พอใจต่อการเปิดประเทศและมาตรการต่างๆ กระตุ้นเศรษฐกิจ ธุรกิจและการควบคุมโรคที่มีผู้ติดเชื้อต่ำกว่าการคาดการณ์ ร้อยละ 76.9 พอใจต่อความสามารถกลับมาประกอบอาชีพ ทำมาหากินได้ตามปกติ ร้านค้าต่างๆ เริ่มเปิดธุรกิจ มีเงิน มีเศรษฐกิจในครัวเรือนที่ดีขึ้นใน 2 สัปดาห์แรกของการเปิดประเทศ ร้อยละ 76.7 พอใจต่อการบริหารจัดการภายในประเทศ ที่ทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิตภายในประเทศลดลงอย่างต่อเนื่อง ร้อยละ 75.8 พอใจที่ได้กลับมาใช้ชีวิตปกติ ผ่อนคลาย หลังจากกักตัวอยู่ที่บ้านยาวนาน ดีใจที่ได้กลับมาใช้ชีวิตวิถีใหม่ ควบคู่การควบคุมโรคเคร่งครัดไปพร้อมๆ กับการมีสังคมพบปะกันมากขึ้น และร้อยละ 75.6 พอใจที่โรงเรียนและสถานศึกษาเปิดเทอมให้เด็กนักเรียน นักศึกษาได้ไปเรียน

ที่น่าสนใจคือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 79.1 พอใจภาพรวมหลังจากการเปิดประเทศช่วง 2 สัปดาห์แระ ขณะที่ร้อยละ 20.9 ไม่พอใจ

ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 87.6 ต้องการเห็น แผนจัดระเบียบของรัฐบาลและการเผชิญเหตุการแพร่ระบาด จากสถานบันเทิง บ่อนพนัน แหล่งมั่วสุมต่างๆ และการชุมนุมทางการเมือง ร้อยละ 85.5 ต้องการให้ป้องกันดูแลแนวชายแดนทั้งทางบก และทางน้ำ จากการลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย การจัดการแรงงานต่างด้าว หรือการส่งกลับ และนำเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุจริตต่อหน้าที่ที่เกี่ยวข้องมาลงโทษตามกฎหมายสูงสุดที่อยู่ในกระบวนการการค้ามนุษย์ และจัดนำแรงงานผิดกฎหมายเข้าระบบให้ถูกต้องตามกฎหมาย ลดการทุจริต ร้อยละ 85.5 เช่นกัน ต้องการแผนการซักซ้อม เผชิญเหตุ ให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในด้านต่างๆ เช่น การแพร่ระบาดโควิด-19 ความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจากอุบัติเหตุและภัยธรรมชาติ คลัสเตอร์ใหม่จากกิจกรรมหมู่ในพื้นที่เปิดนำร่องและพื้นที่เตรียมพร้อมเปิดรับท่องเที่ยว เป็นต้น

นอกจากนี้ ส่วนใหญ่ หรือร้อยละ 85.4 ต้องการมาตรการทางสาธารณสุขและความปลอดภัยที่ชัดเจนรองรับการเปิดเทอม การเรียนการสอนให้เด็กและเยาวชน นักเรียน นักศึกษา ร้อยละ 84.4 ต้องการให้ประชาชนที่ยังไม่ฉีดวัคซีนเร่งออกมารับวัคซีนเพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศตามเป้าหมาย โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เพื่อลดการสูญเสีย โดยเฉพาะกลุ่มจังหวัดนำร่องเปิดประเทศ และร้อยละ 79.2 ต้องการให้เพิ่มและขยายพื้นที่การจัดแผนรองรับนักท่องเที่ยวและเศรษฐกิจมากขึ้น ในพื้นที่ที่ปลอดภัย ตามลำดับ

ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้สะท้อนให้เห็นว่า ประชาชนส่วนใหญ่พอใจค่อนข้างมากต่อการเปิดประเทศ การสามารถกลับมาใช้ชีวิตปกติตามวิถีใหม่ของการควบคุมโรค ส่งผลให้สังคมฟื้นมีชีวิตชีวาและผ่อนคลาย ไปมาหาสู่ ทำกิจกรรม การค้าได้ปกติ จากความจำเป็นที่รัฐต้องมีมาตรการควบคุมกิจกกรรมเข้มงวดต่อเนื่องยาวนานที่ผ่านมา

ดังนั้น การตัดสินใจเปิดประเทศได้ในจังหวะที่เหมาะสมก่อนปลายปี จึงเป็นจุดสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและแสดงถึงความสำเร็จในการป้องกันควบคุมโรคร่วมกันของทุกคน ซึ่งถือเป็นความกล้าตัดสินของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล รวมทั้งความรับผิดชอบสูงสุดของประชาชนทุกคน ทุกภาคส่วน ที่ต้องช่วยกันรักษาประคับประคองเพื่อความอยู่รอดของทุกชีวิตและการไปต่อของประเทศไปพร้อมกัน โดยเฉพาะประเด็นความเสี่ยงจากการลักลอบเข้าเมือง กิจกรรมการรวมตัวต่างๆ สถานบันเทิง แหล่งมั่วสุม ซึ่งเคยเกิดเป็นปัญหาในอดีต ต้องถือเป็นบทเรียนและความท้าทายสำคัญ ที่ต้องทำหน้าที่เข้มงวดที่สุดร่วมกัน เพื่อไม่ให้เราทุกคนต้องกลับไปปิดประเทศกันอีกเป็นอันขาด