รองนายกรัฐมนตรี เผย ครม. จัดระเบียบ ส่ง รมต. เข้าสภาฯ ตอบกระทู้ฯ มอบ ‘อนุชา’ ช่วยงานวิปรัฐบาล ยัน ให้ความสำคัญกม.รอเข้าพิจารณาฯ เผย ‘กกต.’ ส่งไทม์ไลน์ กม.เลือกตั้ง ให้แล้ว รอชัดเจนหลังประกาศใช้รธน. ฉบับแก้ไข
วันนี้ (9 พ.ย.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีการพูดคุยกับนายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ และรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ว่า ได้พูดคุยกันหลายอย่าง ตนจึงให้สอบถามรายละเอียดจากนายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม รัฐบาลต้องให้ความสำคัญต่อกฎหมายที่จะเข้าสภาฯ ในสมัยประชุมนี้ ได้แก่ กฎหมายลูก 2 ฉบับที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง และกฎหมาย กยศ. ซึ่งรัฐบาลยังไม่ส่งไปให้วิป และยังมีกฎหมายเกี่ยวกับเรื่องการศึกษา และพระราชบัญญัติ (พรบ.) วิธีปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์ และพ.ร.บ.พินัยหลวง ซึ่งกฎหมายเหล่านี้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ยกให้เป็นกฎหมายกลางที่มีความสำคัญ หากออกกฎหมายเหล่านี้มาได้ก็จะได้ไม่ต้องไปแก้ไขกฎหมายอะไรอีกหลายอย่าง ทีละฉบับ แต่ใช้กฎหมายกลางเหล่านี้เข้าไปแทน จึงถือเป็นกฎหมายที่สำคัญ ส่วนกฎหมายการเงิน ที่จะต้องเข้าสภาฯ ในสมัยประชุมก็ยังไม่มี
ผู้สื่อข่าวถามว่า กฎหมายเลือกตั้งนั้น ทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะเป็นผู้เสนอเองหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า กกต. จะต้องส่งมาให้รัฐบาล เพราะ กกต. เสนอเองไม่ได้ ต้องให้ครม. เป็นผู้เสนอ ซึ่งกกต. ได้แจ้งความคืบหน้าไทม์ไลน์ของเรื่องนี้เข้ามาแล้ว ส่วนจะส่งให้รัฐบาลได้เมื่อไหร่นั้น คงรอให้รัฐธรรมนูญประกาศใช้ก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า เท่าที่ได้พูดคุยกับนายนิโรธ แล้วเชื่อว่าจะสามารถควบคุมเสียงในสภาฯ ได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ เพราะไม่ได้มีความคุ้นเคยกับนายนิโรธ ซึ่งก็ต้องช่วยกันหลายฝ่าย เนื่องจากจะโยนให้ประธานวิปคนเดียวก็คงไม่ได้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี ที่ฝ่ายค้านระบุว่า หากรัฐมนตรีจะไม่ไปตอบกระทู้ถามสด จะต้องออกเป็นมติครม. ใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ในรัฐในรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดไว้อย่างนั้น หากรัฐมนตรีไม่ไปตอบ ก็แปลว่าต้องเลื่อน แล้วต้องบอกให้สภาฯ รู้ ไม่ใช่อยู่ดีๆ หายไป ซึ่งเขาก็ต่างบอกกันทั้งนั้น ส่วนกรณีที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ผ่านมาเป็นอุบัติเหตุ ที่ร้อยวันพันปีจะเกิดขึ้นสักครั้งหนึ่ง เนื่องจากครม. ไม่เคยประชุมในวันพฤหัสบดี แต่ครั้งนี้นายกรัฐมนตรี ติดภารกิจต่างประเทศ จึงได้เรียกประชุมครม. ในวันพฤหัสบดีนั้น และก็ไม่ได้จะรู้หรอกว่าจะมีกระทู้ถามสดมากน้อยขนาดไหน คือรู้ว่ามี แต่ไม่รู้ว่ามีมากน้อย และปรากฏว่าเป็นกระทู้สดด้วยวาจา เกิดขึ้นมาทันทีทันใด 3 กระทู้ กระทู้ทั่วไปอีก 3 กระทู้ และกระทู้แยกถามในห้องเล็กห้องน้อยอีก 6 กระทู้ รวมทั้งหมดจึงเป็น 12 กระทู้ ซึ่งครม. จะต้องอยู่ประชุมครม. และใน 12 กระทู้นั้น เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับนายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งนายวราวุธ ยังมีภารกิจอยู่ที่อยู่ที่สกอตแลนด์ จนวันนี้ก็ยังไม่ได้กลับมา
นอกจากนี้ยังมีกระทู้ของกระทรวงกลาโหม ซึ่งพล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมก็ได้ไปตอบ ซึ่งก็แก้ปัญหาแล้วว่า ในวันพฤหัสบดีที่ 11 พฤศจิกายนนี้ จะมีกระทู้ถามสด 3 กระทู้ พรรคร่วมรัฐบาลก็ตกลงกันว่า จะถอยออกมาเพื่อให้เป็นกระทู้ของฝ่ายค้านทั้งหมด ทั้งที่ปกติจะต้องแบ่งกันทั้งฝ่ายค้าน และรัฐบาล เพื่อจะให้รัฐมนตรีได้ไปตอบ กระทู้ถามสดของฝ่ายค้านทั้ง 3 กระทู้นั้น และยังมีการตกลงกันแล้ว ว่า ต่อไปนี้หากมีกระทู้ที่กระทรวงไหนไม่มีรัฐมนตรีว่าการ หรือรัฐมนตรีช่วยว่าการ ไม่ว่างไปตอบ ก็อาจจะมอบให้ตน นายอนุชา หรือนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นผู้ไปตอบแทน แต่ก็คงไม่ดีเหมือนกับเจ้ากระทรวง แต่อย่างน้อยก็มีคำตอบที่จะตอบได้ นั่นหมายความว่า ต่อไปกระทู้ถามสดจะมีรัฐมนตรีไปตอบอย่างแน่นอน จะทำให้ปัญหาหมดไป
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่พรรคกล้า เสนอให้รัฐบาลแต่งตั้งคณะกรรมการกลั่นกรอง มาตรา 112 ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายวิษณุ กล่าวว่า ใครเสนอตนไม่ทราบไม่เคยได้ยิน และไม่รู้เรื่องดังกล่าว และไม่มีการพูดคุย