“ดร.นฤมล” พร้อมทีมงาน ลงพื้นที่ฟังเสียงสะท้อนประชาชนเขตคลองเตย-วัฒนา เพื่อแก้ปัญหาปากท้องให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม รวบรวมข้อมูลทุกประเด็น สู่การวางนโยบาย ยกระดับคุณภาพชีวิตคนในชุมชน พร้อมฝากตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. เข้ามาทำงาน ดูแลประชาชนในพื้นที่ เดินหน้าโครงการ “เราจะไม่ทิ้งกัน” บรรเทาทุกข์มอบถุงยังชีพช่วยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
วันที่ 8 พฤศจิกายน 2564 ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะตัวแทนของพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ,ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนางสาวกรณิศ งามสุคนธ์รัตนา ส.ส.กรุงเทพฯ เขตคลองเตย-วัฒนา พรรคพลังประชารัฐ ได้ลงพื้นที่พร้อมกับนายต่อศักดิ์ ใหลสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.) คลองเตย และ นาย พลศักดิ์ แดงบัว ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร (ส.ก.)เขตวัฒนาพบปะประชาชนพูดคุย และรับฟังปัญหาความเดือดร้อนเรื่องปากท้องประชาชนซึ่งส่วนใหญ่ในพื้นที่ดังกล่าว เป็นกลุ่มผู้มีรายได้น้อย หาเช้ากินค่ำ และผู้ด้อยโอกาส ที่ต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนด้านระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน ซึ่งจำเป็นต้องแก้ปัญหาแบบบูรณาการทุกภาคส่วน ด้วยการผลักดันให้เป็นนโยบายเพื่อให้สามารถดำเนินการได้อย่างตรงตามเป้าหมายที่ชาวชุมชนต้องการ
ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ส.ส.ในพื้นที่ได้ดำเนินการด้านการส่งเสริมอาชีพ โดยร่วมกับกระทรวงแรงงานจัดฝึกอบรมอาชีพให้กับกลุ่มแม่บ้านในชุมชน ควบคู่ไปกับการสร้างงานและการสร้างรายได้ผ่านช่องทางออนไลน์ และยังคงดำเนินการยกระดับฝีมืออาชีพให้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสามารถต่อยอดการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น ในช่วงสถานการณ์ที่ต้องเผชิญกับโควิด 19 ขณะที่อีกหลายชุมชนเป็นชุมชนที่เข้าไปอยู่ในพื้นที่อาศัย ของหน่วยงาน และมีการจัดตั้งชุมชนขึ้นเอง แต่ยังขาดระบบสาธารณูปโภค โดย เฉพาะในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน จึงเข้าไปดำเนินการติดตั้งไฟส่องสว่าง ใช้ระบบโซล่าร์เซลล์ตามตรอกซอกซอยต่างๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับคนในชุมชน ขณะเดียวกัน ยังช่วยเหลือการเข้าถึงระบบด้านสาธารณสุขในช่วงการแพร่ระบาด ที่หลายชุมชนในพื้นที่ประสบกับปัญหาการแพร่ระบาดและเป็นคลัสเตอร์ โดยการช่วยเหลือผู้ป่วย ผู้ป่วยติดเตียง และผู้พิการ ด้วยการจัดหารถวีลแชร์ และบริการรถฉุกเฉินรับส่งผู้ป่วย เพื่อดูแลคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนให้ดีขึ้น รวมทั้งเป็นตัวกลางช่วยประสานงานกระทรวงศึกษาธิการ ในการจัดสรรวัคซีนป้องกันเชื้อโควิด-19 ให้กับเด็กนักเรียนในพื้นที่อีกด้วย
ศ.ดร.นฤมล กล่าวด้วยว่า การทำงานที่ผ่านมาได้ผลเป็นอย่างดี สามารถตอบสนองกับความต้องการของชุมชน เนื่องมาจากการที่ ส.ส.ลงพื้นที่รับฟังปัญหาด้วยตัวเอง และในอนาคตเชื่อว่าพรรคพลังประชารัฐจะสามารถเข้าถึงปัญหา และรับใช้ประชาชนได้มากขึ้นเพราะ ขณะนี้ พรรคอยู่ระหว่างการจัดทัพ เพื่อที่จะมีการว่งตัวผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร หรือ ส.ก. ที่พรรคพร้อมลงรับการเลือกตั้งที่จะมีขึ้นในอนาคต ซึ่งในทั้งสองเขตตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้แบ่งเขตเลือกสมาชิกสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร ส.ก.ไว้แล้ว โดยผู้สมัครทุกเขต พรรคล้วนแต่คัดสรรบุคลากร ที่มีทั้งความรู้ ความสามารถ และมีความตั้งใจจริงที่จะเข้ามาดูแลประชาชนและพัฒนาชุมชนให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ทั้งในด้านความเป็นอยู่ ความปลอดภัย สาธารณสุข และอื่นๆ
ศ.ดร.นฤมล กล่าวว่า ท่านเลขาฯ ธรรมนัส ได้เน้นย้ำว่าทางพรรคฯ มีความพร้อม แต่ก็ไม่ควรประมาท โดยได้กำชับให้ผู้สมัครส.ก. ลงพื้นที่ฟังเสียงสะท้อนความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งเขตคลองเตย และวัฒนา เพื่อรวบรวมและนำมาเป็นแนวทางในการจัดทำนโยบายช่วยเหลือประชาชนให้ครอบคลุมทุกมิติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ผ่าน สส ในกรุงเทพ
ทั้งนี้ ในพรรคได้มีการหารือ ร่วมกับ สส ทั้ง 12 คน ที่ค้องการให้มีการสนับสนุนผู้สมัคร สก และคนรุ่นใหม่ ที่มีความประสงค์จะเข้ามาทำงาน โดยจะเสนอไปยังพล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพปชร เพื่อนำไปสู่แผนการจัดทีมผู้สมัครในทุกเขต ผ่านการสนับสนุนของสส.และว่าที่สส. เพื่อจัดทีมการทำงานให้กับพี่น้องประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม และมั่นใจว่า ว่าที่ผู้สมัครส.ก. จะได้รับความไว้วางใจจากประชาชนในพื้นที่ และได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร เขตคลองเตย และเขตวัฒนา
นอกจากนี้ ศ.ดร.นฤมล ยังได้ลงพื้นที่ชุมชนเทพประทาน เขตคลองเตย กรุงเทพฯ เพื่อนำถุงยังชีพ “เราจะไม่ทิ้งกัน” มอบให้กับชุมชนในพื้นที่ ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น ซึ่งแทนความห่วงใยจาก พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มอบหมายให้ตนเองและคณะทีมงานเป็นตัวแทนในการมอบให้เพื่อบรรเทาความเดือดร้อน และลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
นางกรณิศ งามสุคณธ์รัตนา ส.ส. เขตคลองเตย -วัฒนา พปชร. กล่าวว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ก. ทั้งสองคนพร้อมที่จะเข้ามาดูแลประชาชนทั้งสองเขต ไม่ว่าจะเป็นความเดือดร้อนในเรื่องต่างๆ ทั้งด้านความเป็นอยู่ และ ด้านสุขอนามัย ซึ่งพร้อมทำงานเป็นทีม เพื่อดูแลประชาชนอย่างทั่วถึง แม้ว่าที่ผ่านมาการแข่งขันจะไม่ได้รับชัยชนะ แต่ ไม่เคยทิ้งประชาชน ยังดูแลต่อเนื่อง เพราะรู้ว่า ชุมชน ใน 2 เขต นี้ต้องการอะไร มีเรื่องเดือดร้อน พร้อม แก้ไขปัญหาและสนับสนุนให้ชุมชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
