ศาล รธน.นัดวินิจฉัย 2 มาตรา พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ ขัด รธน.หรือไม่ 22 ธ.ค.นี้ หลัง “วิชัย-รัชฎา” ผู้ต้องหาคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย ใช้สิทธิร้อง
วันนี้ (3 พ.ย.) ศาลรัฐธรรมนูญได้มีการอภิปรายเพื่อนำไปสู่การวินิจฉัยในคดีที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ส่งคำโต้แย้งของ นายวิชัย กฤษดาธานนท์ และ นายรัชฎา กฤษดาธานนท์ ในคดีหมายเลขดำที่ 2 14/2561 และคดีหมายเลขดำที่ 289/2561 ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 212 ว่า พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบพ.ศ. 2559 มาตรา 21 วรรคสองขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 วรรคสาม มาตรา 26 วรรคหนึ่ง และมาตรา 29 วรรค 4 และ พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ 2559 มาตรา 22 ขัดหรือแย้งต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 25 มาตรา 26 และมาตรา 29 วรรคสองหรือไม่ โดยศาลรัฐธรรมนูญเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้จึงไม่ทำการไต่สวนตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ 2561 มาตรา 58 วรรคหนึ่งโดยกำหนดนัดแถลงด้วยวาจาปรึกษาหารือและลงมติในวันพุธที่ 22 ธันวาคม 2564 เวลา 09:30 น
สำหรับ นายวิชัย และ นายรัชฎา เป็นเจ้าของบริษัทอสังหาฯเป็นผู้กู้เงินธนาคารกรุงไทย ซึ่งตกเป็นจำเลยในคดีฟอกเงินกู้แบงก์กรุงไทย ซึ่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองมีคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วให้จำคุกคนละ 12 ปี ร่วมกับพวกโดย นายวิชัย นายรัชฎา และกลุ่มอดีตกรรมการบริษัทเอกชนในเครือกฤษดาฯ รวม 6 คนนั้น ก็ถูกอัยการยื่นฟ้องความผิดฟอกเงินการทุจริตปล่อยกู้ดังกล่าวต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบเช่นกันด้วย