“ธรรมนัส” ยอดขุนพล “อัศวิน-นอมินี” “ลุงป้อม” ได้ที่ชอบๆ แบบนี้ กทม.เป็นของ พปชร.จะเหนียมไปใย ? **เปิดตัวพรรค “ดร.ซุป” คนดังเพียบทั้ง พี่เอ้ พี่แอ๊ด พี่ติ๊ก แพนเค้ก สุดท้ายเฟกนิวส์

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**“ธรรมนัส” ยอดขุนพล “อัศวิน-นอมินี” “ลุงป้อม” ได้ที่ชอบๆ แบบนี้ กทม.เป็นของ พปชร.จะเหนียมไปใย ?

ภายหลัง “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา อดีต ผบ.ตร. ประกาศต่อหน้าผู้สมัคร ส.ก. ตัดสินใจจะไม่ลงชิงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแล้ว ด้วยเหตุผลที่เชื่อกันว่า ทางหนึ่งต้องการเปิดทางให้ “รุ่นพี่” พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. และอีกทาง ไม่อยากสร้างความลำบากใจให้ “ผู้ใหญ่” ที่เคารพรักกันต้องมาเลือกสนับสนุนใครคนใดคนหนึ่ง

ว่ากันว่า “บิ๊กแป๊ะ” ก่อนจะตัดสินใจครั้งนี้ได้ไตร่ตรองมาได้สักพักใหญ่ๆ แล้ว จากการประเมินท่าทีของ “พี่วิน” พล.ต.อ.อัศวิน ซึ่งก่อนหน้านี้ ไม่ได้แสดงท่าทีว่าจะตัดสินใจอนาคตทางการเมืองของตัวเองอย่างไร แต่เมื่อมีสัญญาณจาก “ผู้กองธรรมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมจะสนับสนุนตัวเอง แทนการส่งผู้สมัครในนามพรรค ก็ตกลงปลงใจจะขอสู้ในสนามเลือกตั้ง กทม. ขอกลับมาเป็นผู้ว่าฯ กทม.ต่อ ทำให้ “บิ๊กแป๊ะ” ยอมถอย

แถมได้คำมั่นสัญญาจาก “ผู้กอง” พปชร.จะส่งผู้สมัคร ส.ก. ลงแข่งทีมงานอิสระของ “บิ๊กแป๊ะ” และสั่ง ส.ส.กทม. ของ พปชร.เป็นแบ็กอัพเสริมอีกชั้น

เรียกว่าเป็น “นอมินี” เสริมใยเหล็กเป็นออปชัน พร้อมจะห้ำหั่นแคนดิเดตตัวเต็งอย่าง “ชัชชาติ สิทธิพันธุ์” อดีต รมว.คมนาคม ผู้ที่โพลทุกสำนักยกให้เป็นคู่แข่งที่แข็งแกร่งสุดในปฐพี ได้สูสีดูดี๋

เจอออปชันจาก “ผู้กอง” แบบนี้ สำหรับ พล.ต.อ.อัศวิน ก็ยากจะปฏิเสธ ด้วยสัมพันธ์ส่วนตัว และทีมงาน ส.ก. ของทั้งคู่ยังสนิทชิดเชื้อกันอีก หากจะทำการตลาดหาเสียงลงพื้นที่ “ธรรมนัส=อัศวิน” หรือ “อัศวิน=ธรรมนัส” จะเสริมส่งในเชิงการเมืองได้

อย่างที่ว่าไว้ จากนี้ ชาว กทม. ขอให้จำไว้เลย เห็นหน้า “อัศวิน” ก็เท่ากับเห็นหน้า “ธรรมนัส”... จัดกันไป!!


ยิ่งเวลานี้ดูเหมือน “ผู้กองธรรมนัส” กำลังมั่นอกมั่นใจเต็มที่ในศักยภาพตัวเอง เป็นน้องรักของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และหัวหน้าพรรค พปชร.ที่เชื่อมั่นมาก ว่า ตัวเองเป็นมือทำงาน เป็น “ยอดขุนพล” ในสายตาลุงป้อม ที่จะขาดเสียไม่ได้กับสนามเลือกตั้ง การวางแผนเชิงชั้นเข้าขั้นมีผลงานเป็นที่ประจักษ์ใน ตจว.มาแล้ว ขณะที่สนามกทม. จึงขันอาสาขอดูแลเอง พร้อมกับหอบหิ้ว “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค คู่ดูโอคนโปรดลุงอีกคนมาดูแลเรื่องเงินๆ ทองๆ

นั่นจึงเป็นที่มาของกระแสข่าวหนา ว่า “ธรรมนัส-นฤมล” จะคุมเกมเลือกตั้ง กทม. ก่อนหน้านี้ ต่อมาจึงปรากฏถึงการเสนอ “พล.ต.อ.อัศวิน” ที่โพลมาตามหลัง “ชัชชาติ” และ “พล.ต.อ.จักรทิพย์” มาเป็นนอมินีให้ พปชร. ให้ลุงป้อมพิจารณาขอไฟเขียว เพราะเมื่อ พปชร. จะไม่ส่งคนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. ดังที่ พล.อ.ประวิตร ยืนยัน ด้วยมีข้อจำกัดทางกฎหมาย “อัศวิน” ก็มาเข้าล็อกพอดิบพอดี

แน่นอนว่า พอ “โป๊ะแตก” พปชร.จะหนุน “อัศวิน” เพราะ “บิ๊กแป๊ะ” เปิดทาง เกมนี้จึงไม่ผิดความคาดหมายที่ “พี่ใหญ่ 3 ป.” จะเล่นบท “ไม่รู้ๆๆ” สำทับด้วยว่ากับ “บิ๊กแป๊ะ” ยังรักกันดีเหมือนเดิม

ยังไม่ได้คิดว่าจะสนับสนุนใคร และ ไม่ได้มอบหมายให้ “ธรรมนัส-นฤมล” ดูแล กทม.ตามที่เป็นข่าว เพราะตัวเองเหมาหมด ดูแลเองทั่วประเทศ ทั่วราชอาณาจักร เรียกว่า “ลีลาลุง” ทำให้เกิดถามตามมาว่า เอ๊ะยังไง ?


ส่วน “ธรรมนัส” ยอดขุนพลคู่ใจลุง ก็บอกว่า ยุทธศาสตร์การเลือกตั้งในพื้นที่ กทม.ของพรรค เป็นเรื่องของประธานยุทธศาสตร์พรรค และว่าตัวเองไม่ได้เป็นผู้ดูแลในพื้นที่กรุงเทพฯ แต่ดูในภาพรวม ส่วนการส่งผู้สมัคร ส.ก.และ ผู้ว่าฯ กทม.นั้น จะส่งในนามพรรคหรือนามอิสระ ก็ขึ้นอยู่กับนโยบาย และการตัดสินใจของ “ลุงป้อม”

สำหรับกับ “บิ๊กแป๊ะ” ร.อ.ธรรมนัส ยืนยันว่า ไม่มีความขัดแย้ง การที่ “พล.ต.อ.จักรทิพย์” ประกาศถอนตัวนั้น คงมีเหตุผลของท่าน และท่านก็ไม่ได้บอกอะไร เมื่อวานตนเองก็ยังงงว่า ทำไมถึงถอนตัว

...กับพี่แป๊ะ เปรียบเหมือน “คอหอยกับลูกกระเดือก” คบกันมาตั้งแต่เด็กๆ กับพี่แป๊ะรักกันขนาดไหน เกิดมาทุกวันนี้เพราะพี่แป๊ะช่วย ก็คุยกันทุกวัน

ว่ากันมาก็ว่ากันไป... ไม่รู้คุยกันทุกวันยังไง ทำไมพอมีข่าว “พี่แป๊ะ” ถอนตัว “น้องธรรมนัส” ถึงงงๆ

เอาเป็นว่า นาทีนี้ ทั้ง “ลุงป้อม-ธรรมนัส” ดูจะพร้อมใจกันสับขาหลอก ดูเหมือนเหนียมๆ ทั้งที่เกมการเมืองก็เดินไปตามที่คนก็รู้ๆ กัน

แหม! ลุงมี "ธรรมนัส" ยอดขุนพล ข้างกาย มี “อัศวิน-นอมินี” บิ๊กแป๊ะ เปิดทาง ได้ที่ชอบๆ แบบนี้ ฝันหวาน กทม.จะเป็นของ พปชร.จะมัวเหนียมไปใย?



**เปิดตัวพรรค “ดร.ซุป” คนดังเพียบทั้ง พี่เอ้ พี่แอ๊ด พี่ติ๊ก แพนเค้ก สุดท้ายเฟกนิวส์


อาจเป็นด้วย “อารมณ์ของสังคม” ที่ไม่ค่อยถูกตาถูกใจ กับพรรคการเมืองที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นซีกฝ่ายค้าน หรือรัฐบาล พอมีข่าวที่โพสต์กันในโซเชียลฯว่า “ดร.ซุป” ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์ อดีตเลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) และ อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การการค้าโลก (WTO) ตั้งพรรคการเมืองที่ชื่อว่า “พรรคไทยพัฒนา” โดยเป็นหัวหน้าพรรคเอง และมี “พี่เอ้” ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์” อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เป็นเลขาฯ พรรค

กรรมการบริหารพรรค ส่วนใหญ่เป็นคนที่มีชื่อเสียง เป็นที่รู้จักกันดีในวงสังคม...แม้จะไม่ถึงขั้น “ดรีมทีม” แต่เรียกได้ว่า “ไม่ขี้เหร่” ก็แล้วกัน อาทิ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ, “แพนเค้ก” เขมนิจ จามิกรณ์, “ติ๊ก” เจษฎาภรณ์ ผลดี, “แอ๊ด คาราบาว” ยืนยง โอภากุล, “ต๋อย”ไตรภพ ลิมปพัทธ์, พงศ์พัศ พงษ์เจริญ , สงกรานต์ เตชะณรงค์, พาที สารสิน ...


ชาวเน็ตเห็นชื่อพรรคและทีมงานแล้วคงถูกใจไม่น้อย เลยแชร์กันใหญ่ บรรดาผู้สื่อข่าวสายการเมืองแปลกใจว่า พรรคนี้ไปแอบตั้งกันขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไร จึงเช็กไปที่ กกต. ซึ่งเป็นผู้รับจดจัดตั้งพรรคการเมือง ปรากฏว่า ไม่มีชื่อ “พรรคไทยพัฒนา” อยู่ในระบบพรรคการเมืองที่กำลังดำเนินกิจการอยู่ โดยชื่อนี้เคยถูกยื่นขอจัดตั้งมานานแล้ว แต่ก็ถูกยุบไป และพ้นระยะเวลา 20 ปีแล้ว หากมีการยื่นขอจดในชื่อนี้ใหม่ก็สามารถทำได้ แต่ก็ไม่พบว่ามีใครมายื่นขอจดตั้งเป็นพรรคการเมือง

“ดร.ซุป” ตั้งพรรคการเมือง ก็เลยเป็น “เฟกนิวส์” ไป

แต่ระหว่างนั้นบรรดาผู้ที่ปรากฏชื่อเป็นกรรมการบริหารพรรค ต่างก็ถูกถามไถ่ อย่าง “แพนเค้ก” และ “ติ๊ก เจษฎาภรณ์” ต้องออกมาปฏิเสธผ่านทวิตเตอร์ ว่า ไม่ได้เล่นการเมือง มันเป็นเฟกนิวส์


แต่ก็มีคนเข้าไปถาม “ติ๊ก” ว่าอยู่พรรคไหน ชอบพรรคไหน ก็เลยเจอมุกตอบกลับมาว่า... อยู่พรรคที่จะล้อม “พร้อมที่จะรัก” ทำเอาชาวเน็ตอ่านแล้วก็อมยิ้มไปตามๆ กัน

หลังจากรู้ว่าเป็นเฟกนิวส์ ชาวเน็ตอาจรู้สึกขำๆ กับเรื่องนี้ เห็นเป็นเรื่องคลายเครียด แต่สำหรับคนโพสต์ ตอนนี้อาจจะไม่ขำแล้วก็ได้ เพราะ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 32 กำหนด ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งไม่ใช่พรรคการเมือง ใช้ชื่อ ชื่อย่อ ภาพ เครื่องหมายของพรรคการเมือง หรือถ้อยคำในประการที่น่าจะทำให้ประชาชนเข้าใจว่าเป็นพรรคการเมือง หรือใช้ชื่อที่มีอักษรไทยประกอบว่าพรรคการเมือง หรืออักษรต่างประเทศซึ่งแปล หรืออ่านว่าพรรคการเมือง หากฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้ง ปรับตามมาตรา 110

ยุคนี้ นอกจากจะต้องใช้วิจารณญาณในการเสพข่าวแล้ว เวลาจะโพสต์ จะแชร์ ก็ต้องระมัดระวังให้ดีด้วย