xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ ขอบคุณกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายกรัฐมนตรี ขอบคุณกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย มอบสิ่งของอุปโภคบริโภค ช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม ย้ำ รัฐบาลเร่งบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ลดความเสียหายแก่ประชาชน

วันนี้ (25 ต.ค.) นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย วันนี้ (25 ตุลาคม 2564) เวลา 08.45 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้ นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าพบ เพื่อรับมอบสิ่งของบริจาคจากกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และส่งมอบแก่ นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ โดยมี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายประทีป กีรติเรขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และ นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมด้วย

ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธีรับมอบสิ่งของบริจาค เครื่องบริโภคอุปโภค มูลค่า 2,960,604 บาท จากผู้บริหารกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เพื่อมอบให้แก่ปลัดกระทรวงมหาดไทย เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป โดยนายกรัฐมนตรี ชื่นชม และขอบคุณ นายโรเบิร์ต แคนเดลิโน ผู้บริหารระดับสูงยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และคณะผู้บริหาร ที่มอบสิ่งของบริจาคในครั้งนี้ สะท้อนว่า คนไทยไม่ทิ้งกันในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ทั้งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และปัจจุบันคือสถานการณ์น้ำท่วม ที่รัฐบาลกำลังเร่งแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็วที่สุด ด้วยการบริหารจัดการน้ำของประเทศทั้งระบบ

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ประเทศไทยเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้ยังต้องประสบปัญหาสถานการณ์อุทกภัย ประกอบกับความผันผวนของสภาพอากาศ และฝนที่ไม่ตกตามฤดูกาล มีปริมาณมากบ้างน้อยบ้าง รัฐบาลจึงต้องวางแผนการบริหารจัดการน้ำของประเทศทั้งระบบครบวงจร ตั้งแต่ตอนบน ตอนกลาง และตอนล่าง ของประเทศ โดยสั่งการให้กระทรวงมหาดไทย ร่วมกับ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สทนช. หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งระบายน้ำที่ยังท่วมขังสู่ทะเล โดยเฉพาะการระบายน้ำจากแม่น้ำท่าจีนสู่ภาคตะวันออก อาจส่งผลให้ระดับน้ำในแหล่งน้ำตามธรรมชาติสูงขึ้น เพราะเป็นคูคลองที่มีความตื้นและเล็ก จึงต้องมีการขุดลอกควบคู่กับการกักเก็บน้ำไว้ใช้ และมีการบริหารจัดการระบายน้ำออกอย่างเหมาะสม ซึ่งขณะนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำ ซึ่งมีระยะทางการสูบ 10 กิโลเมตร เพื่อเร่งดึงน้ำ จูงน้ำ และตัดตอนน้ำออกไปด้านข้างให้ได้มากที่สุด และเก็บกักน้ำไว้ในทุ่งต่างๆ รวมทั้งไร่นาของประชาชนโดยเร็ว ขณะเดียวกัน ก็เร่งช่วยเหลือดูแลเยียวยาพื้นที่รองรับน้ำดังกล่าวด้วย






กำลังโหลดความคิดเห็น