ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ เตรียมขึ้นศาลอาญานัดสืบคดีหมิ่นประมาท “อดีต ceo ปณ.ไทย” ลั่น พร้อมรับทุกคดีหากได้ปกป้องประโยชน์ของชาติ เปรย พร้อมเป็นตัวแทน ปชช.หากคนไทยยังศรัทธาพลังธรรมใหม่
วันนี้ (25 ต.ค.) เมื่อเวลา 08:30 น. นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ เปิดเผยว่า ในวันนี้ตนต้องไปศาลอาญาฯรัชดา ในคดีที่นางสมร เทอดธรรมภูมิ อดีตกรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ได้ฟ้องตนในข้อหาหมิ่นประมาท จากเหตุการณ์ที่ตนและสหภาพแรงงานไปรษณีย์ไทย ร่วมกันต่อสู้เปิดโปงการทุจริตในไปรษณีย์ไทย โดยเป็นขั้นตอนการกำหนดพยานและนัดวันสืบคดี ซึ่งมีตนป็นจำเลยคนที่ 1 ประธานสหภาพแรงงานไปรษณีย์เป็นจำเลยคนที่ 2 และเลขาธิการสหภาพแรงงานเป็นจำเลยที่ 3 นอกจากนี้นางสมร ยังยื่นฟ้องคดีแพ่ง เรียกค่าเสียหาย จากจำเลยทั้งสามคนด้วย โดยมีการนัดพร้อมในวันที่ 9 ธันวาคม 64
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ นพ.ระวี กล่าวว่า ตนไม่มีความกังวลใจ เพราะคดีดังกล่าวตนได้รับมา เนื่องจากการทำหน้าที่เป็นตัวแทนของประชาชน ในการปกป้องงบประมาณของชาติที่เป็นภาษีของประชาชนทุกคน ที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มสหภาพไปรษณีย์ ถึงข้อมูลการใช้งบประมาณสร้างตู้ไปรษณีย์ยักษ์มูลค่า 7.1 ล้านบาท และการใช้งบประมาณปรับปรุงที่ทำการไปรษณีย์ 4 สาขา มูลค่า 32 ล้านบาท ซึ่งทั้ง 2 โครงการพบว่ามีความผิดปกติในการจัดซื้อจัดจ้าง และมีแนวโน้มว่าอาจจะมีการทุจริต ตนก็ต้องเข้ามาตรวจสอบ
“ถ้าผมมัวแต่กลัวว่าจะถูกฟ้องร้องดำเนินคดี ผมก็ไม่สมควรที่จะเข้ามาทำหน้าที่ ส.ส.ไม่สมควรมารับเงินเดือนตรงนี้ ในเมื่อประชาชนศรัทธาในตัวของผมและพรรคพลังธรรมใหม่ จึงเลือกพวกเราเข้ามาเป็นตัวแทน ผมก็พร้อมเผชิญกับคดีความต่างๆ ทุกเรื่อง หากสามารถยับยั้งไม่ให้เกิดความเสียหายขึ้นกับประเทศได้ ผมเคยประกาศนโยบายของพรรคพลังธรรมใหม่ก่อนการเลือกตั้งแล้วว่า จะไม่ยอมปล่อยให้มีเรื่องการทุจริตและคอร์รัปชั่นเกิดขึ้น ซึ่งวันนี้ถึงจะถูกฟ้องร้อง ดำเนินคดี แต่พวกเราภูมิใจที่ได้ออกมาต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติอย่างเต็มที่” นพ.ระวี กล่าว
นพ.ระวี กล่าวต่อว่า นี่เป็นเรื่องปกติที่การต่อสู้เพื่อแก้ไขการทุจริตและคอร์รัปชันของประเทศไทยที่ ผู้เข้าต่อสู้เปิดโปงการทุจริตจะต้องถูกตอบโต้ในทุกๆ รูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการฟ้องอาญา ฟ้องแพ่ง หรือ การกดดันในรูปอื่นๆ เช่น กล่าวหาเอาผิดทางวินัย ตัดเงินเดือน ฯลฯ ตนยินดีและพร้อมเสมอในการต่อสู้คดี เพื่อแก้ไขทุจริตของประเทศไทย สักวันหนึ่ง ถ้าประชาชนคนไทยพร้อมใจลุกขึ้นมา ร่วมกันแก้ไขการทุจริตและคอรัปชั่น ถึงวันนั้นนโยบายคอร์รัปชัน 0% ของพรรคพลังธรรมใหม่ก็มีโอกาสที่จะเกิดขึ้นและใกล้เคียงกับ คำพูดที่ว่าถ้าประเทศไทยไร้การทุจริตและคอร์รัปชัน ถนนทุกสายในประเทศไทยจะปูด้วยทองคำ
