นายกฯ เปิดโครงการนำร่องบริการส่งยาและเวชภัณฑ์ด้วยโดรนในพื้นที่ จ.สิงห์บุรี บอกไม่ได้บ่น แต่ขอเห็นใจสถานการณ์ที่เผชิญวันนี้ ทั้งโควิด-น้ำท่วม-น้ำมันแพง รบ.เต็มที่ทำให้ปชช.เดือดร้อนน้อยที่สุด
วันนี้ (20ต.ค.) เมื่อเวลา 15.40 น. ที่วิทยาลัยเทคนิคสิงห์บุรี ต.บางพุทรา อ.เมืองสิงห์บุรี จ.สิงห์บุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานและกล่าวเปิดโครงการ “ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทย Delivers Wellness” ว่า วันนี้ตนเดินทางมาให้กำลังใจและพบปะประชาชนหลายจุดด้วยกัน ทั้งการช่วยเหลือติดตามความก้าวหน้าการแก้ปัญหาระยะเร่งด่วน ระยะปานกลาง ระยะยาว เราจะแก้ปัญหาอุทกภัยโดยเฉพาะประชาชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ ซึ่งงบประมาณหลายโครงการที่ลงไปแล้ว พร้อมตรวจโครงการ “ส่งสุขภาพดีให้คนไทย #จากใจไปรษณีย์ไทย Delivers Wellness” และตรวจเยี่ยมทดลองนำร่องการใช้โดรนนำจ่ายยาและเวชภัณฑ์ในพื้นที่สิงห์บุรี ถือเป็นโครงการช่วยอำนวยความสะดวกประชาชนให้เข้าถึงบริการสาธารณสุข แม้จะมีเหตุจำกัดด้านการขนส่งจากโควิดและปัญหาอุทกภัย
นายกฯกล่าวว่า ประเทศไทยเดินหน้าด้วยเทคโนโลยีและดิจิทัล สิ่งสำคัญคือระบบโลจิสติกส์ และมีระบบ 5 จี ที่จะเกิดประโยชน์สูงสุดในหลายด้าน ที่รัฐบาลต้องขับเคลื่อนด้วย 5 จี ให้ประชาชนให้มีรายได้ที่เพียงพอ และในอนาคตเทคโนโลยีดิจิทัลจะใช้ได้มากขึ้น เป็นสิ่งที่เราดีใจเพราะได้เริ่มต้นมานานพอสมควร ซึ่ง 5 จี เราเริ่มให้ประชาชนใช้ไปบ้างแล้วเช่นการจ่ายเงิน ทั้งหมดมีข้อมูลครบถ้วนสมบูรณ์ในขณะนี้ ไม่ว่าจะโครงการคนละครึ่งหรือต่างๆ ทุกคนอยู่ในระบบตรงนี้ ไม่ใช่ต้องไปควบคุมประชาชน แต่ต้องการให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐให้ได้มากที่สุด
นายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์วันนี้ที่เผชิญหน้ากันต้องเห็นใจภาครัฐนิดนึง ไม่ได้บ่นไม่ได้อะไรทั้งสิ้น มาเจอปัญหาสถานการณ์โควิดที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในโลกใบนี้ แต่ก็เป็นโอกาสที่เราจะพัฒนาระบบสาธารณสุขที่ดีเป็นอันดับแรกๆ เมื่อเราแก้ปัญหาเป็นระยะๆไปก็ดีขึ้นเป็นลำดับ ในส่วนที่สองคือปัญหาอุทกภัยที่เข้ามาจากพายุ ซึ่งเราจำเป็นต้องลดความเดือดร้อนให้เร็วที่สุด ปัญหาที่สามคือราคาน้ำมันขึ้นไปตามกลไกตลาดโลก ต้องเข้าใจตรงนี้ด้วยเช่นกัน รัฐบาลพยายามทำเต็มที่ให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด อย่างไรก็ตามวันนี้ดีใจทราบว่าทั้งหมดเป็นการริเริ่ม เมื่อริเริ่มแล้วต้องก้าวให้เร็ว ก้าวให้ไว ก้าวให้ทันโลก เราทำตรงไหนได้ทำให้ก่อน และวันนี้ให้นโยบายกับรมว.ดีอีเอส ซึ่งเป็นคนสิงห์บุรีอยู่แล้ว แต่เราเป็นรัฐบาลต้องดูแลทุกพื้นที่ สิงห์บุรีต้องดูแล จังหวัดอื่นต้องดูแลไปด้วย วันนี้การทำงานเราบูรณาการทั้งแผนเงิน แผนคน และแผนงาน ร่วมกัน
นายกฯกล่าวอีกว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนให้มีการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการพัฒนาระบบบริการสาธารณสุขให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น สอดรับกับมาตรการที่ประชาชนยังคงต้องรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ตลอดจนการเฝ้าระวังการเกิดโรคอุบัติใหม่ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต โดยส่งเสริมการปรับตัวสู่การแพทย์วิถีใหม่ ปรับเปลี่ยนรูปแบบการใช้บริการและให้บริการทางการแพทย์โดยการนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้ประโยชน์ เพื่ออำนวยความสะดวก และเกิดความปลอดภัยทั้งตัวผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ ตลอดจนทำให้ผู้ป่วยในทุกพื้นที่เข้าถึงบริการทางการแพทย์ได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม และขอยืนยันว่าในระบบเทคโนโลยีต่างๆเราจะทำทุกอย่างเพื่อสานต่อไปสู่คนรุ่นหลังให้ได้ใช้ประโยชน์มากที่สุด โลกปรับเราก็ต้องเปลี่ยน โดยเฉพาะโลกหลังโควิดมันไม่ใช่โลกแบบเดิมที่เราเคยอยู่ อนาคตลูกหลานต้องเผชิญอีกข้างหน้า จากนั้นนายกรัฐมนตรีชมการทดสอบการบริการส่งมะม่วงด้วยโดรนโดยไปรษณีย์ไทย
