พล.อ.ประวิตรช่วยชาวบ้านเมืองกาญจน์ มอบถุงยังชีพ สุขาลอยน้ำ เรือ อ.ท่าม่วง-อ.บ่อพลอย ติดตามสถานการณ์ลุ่มน้ำแม่กลอง เร่งแก้น้ำท่วม-น้ำแล้ง ฝากย้ำ จนท.คุมเข้มชายแดนป้องกันต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง-ค้ายาเสพติด ยับยั้งการระบาดโควิด-19 ในคราวเดียวกัน
วันนี้ (20 ต.ค.) พล.ต.พัชร์ชศักดิ์ ปฏิรูปานนท์ ผช.โฆษกประจำรอง นรม. เปิดเผยว่า วันนี้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ/ผอ.กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ไปปฏิบัติราชการ เพื่อตรวจติดตามการบริหารจัดการน้ำ รวมถึงการรักษาความมั่นคงพื้นที่ชายแดนในพื้นที่ จ.กาญจนบุรี ซึ่งมี รมช.กลาโหม, รมช.การคลัง และ รมช.คมนาคมร่วมคณะ โดยมี นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผวจ. ให้การต้อนรับ
เมื่อ 08.30น. พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทางถึงบริเวณเขื่อนแม่กลอง อ.ท่าม่วง จ.กาญจนบุรี โดยได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ตามแนวชายแดนจาก ตร.ภูธร จ.กาญจนบุรี และกองกำลังสุรสีห์ ในการป้องกัน และการจัดระเบียบชายแดนเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย รวมทั้งป้องกันปัญหาแรงงานหลบหนีเข้าเมือง และยาเสพติด จากนั้นได้รับทราบสถานการณ์น้ำในภาพรวมจาก ผวจ.และ แนวทางการบริหารจัดการน้ำ การเตรียมรับน้ำหลากปี 64 และเตรียมการสำหรับฤดูแล้งในปีถัดไป รวมถึง การบริหารจัดการน้ำของเขื่อนแม่กลอง และคลองจระเข้สามพัน จากกรมชลประทาน ทั้งนี้ ลุ่มน้ำแม่กลองมีพื้นที่ราว 30,836 ตร.กม. (19.27 ล้านไร่) เขื่อนแม่กลองเป็นเขื่อนเพื่อการทดน้ำ มีความยาว 117.50 ม. ก่อสร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ. 2513 สามารถส่งน้ำครอบคลุมพื้นที่ 7 จังหวัด ได้แก่ จ.สุพรรณบุรี, จ.กาญจนบุรี, จ.นครปฐม, จ.ราชบุรี, จ.สมุทรสาคร, จ.สมุทรสงคราม และ จ.เพชรบุรี
จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้กล่าวมอบนโยบาย โดยกำชับให้ทุกหน่วยงานเฝ้าระวังพื้นที่เสี่ยงน้ำหลาก เตรียมแผนเผชิญเหตุให้พร้อม รวมถึงแผนการช่วยเหลือเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ ให้อนุกรรมการทรัพยากรน้ำจังหวัดเร่งจัดทำแผนเพื่อบรรเทาอุทกภัยและภัยแล้งให้เสร็จโดยเร็ว กรมชลประทาน (ชป.) เตรียมจัดสรรน้ำในฤดูแล้ง โดยเฉพาะด้านอุปโภคบริโภค ร่วมกับการประปานครหลวง และสำหรับพื้นที่ชายแดน จ.กาญจนบุรี ในฐานะรองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ขอให้หน่วยงานด้านความมั่นคงเข้มงวดการจัดระเบียบแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองและป้องกันยาเสพติดอย่างจริงจัง และรองรับ ยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 ด้วย
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตรได้ทำพิธีกดปุ่มเปิดน้ำชุมชน ต.ทุ่งกระบ่ำ อ.เลาขวัญ จ.กาญจนบุรี ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อให้ประชาชนได้มีน้ำดื่ม น้ำใช้ที่สะอาดตลอดทั้งปีโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ และได้มอบถุงยังชีพจำนวน 1,000 ถุง, สุขาลอยน้ำ 2 หลัง และเรือ 1 ลำ ให้แก่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในพื้นที่ ต่อจากนั้นได้พบปะผู้นำชุมชนที่มาให้การต้อนรับอย่างเป็นกันเอง ก่อนเดินทางต่อไปยังเขื่อนศรีนครินทร์ อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี โดยได้รับทราบสถานการณ์น้ำของเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ์จาก ผอ.เขื่อนทั้ง 2 แห่งตามลำดับ ซึ่งในปัจจุบันเขื่อนศรีนครินทร์มีความจุที่ระดับกักเก็บ 17,775 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้การ 4,731 ล้าน ลบ.ม. และเขื่อนวชิราลงกรณ์มีความจุที่ระดับกักเก็บ 8,860 ล้าน ลบ.ม. ปริมาณน้ำใช้การ 4,335 ล้าน ลบ.ม. จากนั้น พล.อ.ประวิตรได้มอบนโยบายให้ทุกหน่วยงานเตรียมแผนกักเก็บน้ำสำรองทั้งผิวดินและใต้ดินไว้รองรับในฤดูแล้งหน้า พร้อมกำชับ สทนช. ให้ร่วมกับ ชป.และ กฟผ.กำหนดแผนการจัดสรรน้ำของอ่างเก็บน้ำ โดยคำนึงถึงการใช้น้ำให้ครอบคลุมทุกภาคส่วน และให้เร่งรัดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว รวมถึงเน้นการประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้ และมีส่วนร่วมสนับสนุนการแก้ปัญหาน้ำของประเทศไปด้วยกัน
ในช่วงบ่ายวันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร และคณะได้เดินทางต่อไปยัง อ.บ่อพลอย จ.กาญจนบุรี เพื่อมอบถุงยังชีพจำนวน 2,000 ถุงแก่พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย พร้อมให้กำลังใจ และกำชับ จังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งฟื้นฟู ช่วยเหลือเยียวยาอย่างรีบด่วน ณ หอประชุม อบต.หลุมรัง (ผู้แทนรับมอบ) ก่อนเดินทางกลับ กทม.โดยสวัสดิภาพ