“เสกสกล” เห็นด้วยผลสำรวจความคิดเห็น ซูเปอร์โพล ประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเปิดประเทศ 1 พ.ย. หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ ขอคนค้านมั่นใจระบบสาธารณสุขของไทยจะมีมาตรการที่เข้มข้น และทำทุกวิถีทางลดการระบาดเชื้อโควิด-19
วันนี้ (17 ต.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เห็นด้วยกับผลสำรวจความคิดเห็น ซูเปอร์โพล เรื่องการเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้ โดยประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 76.9 เห็นด้วยกับนายกรัฐมนตรีที่เลือกตัดสินใจในจุดที่เหมาะสมควบคุมโรคไปพร้อมกับการเดินหน้าปากท้อง และ ร้อยละ 73.9 ประชาชนเชื่อมั่นในระบบสาธารณสุขและบุคลากรทางการแพทย์ไทยในการจัดหาและกระจายฉีดวัคซีนให้ประชาชนอย่างทั่วถึงภายใต้การนำของ นายกฯประยุทธ์ เป็นการแสดงให้เห็นว่านายกฯ รัฐบาล และสาธารณสุข แก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ได้ แม้ว่าจะไม่ได้เห็นผลทันที แต่ขณะนี้พบว่ามีผู้ป่วยค่อยๆ ลดลง และมีผู้หายป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อยถือเป็นนิมิตหมายที่ดีของประเทศไทย
ส่วนการเปิดประเทศนั้นนอกจากจะเกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของประเทศแล้ว ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ภาคธุรกิจยังสามารถกลับมาทำงานมีรายได้อีกครั้ง แต่สำหรับคนที่ยังไม่มั่นใจในการเปิดประเทศครั้งนี้ ตนเองขอให้เชื่อมั่นว่านายกฯ รัฐบาลและสาธารณสุข จะมีมาตรการที่เข้มข้นเพื่อดูแลนักท่องเที่ยว และประชาชนคนไทย ไม่ให้เกิดการระบาดแพร่เชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอีกและจะทำทุกวิถีทางเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ประชาชนกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
“ขณะนี้ ศบค.ก็ได้คลายล็อกหลายกิจกรรม กิจการ แล้วเพื่อสอดรับกับการเปิดประเทศที่กำลังจะมาถึง รวมถึงเร่งฉีดวัคซีนให้กับประชาชนในประเทศให้ได้มากที่สุดในการสร้างภูมิคุ้มกัน และตนเองขอให้ความมั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อรองรับกับการเปิดประเทศครั้งนี้ แต่ทั้งนี้ ก็ต้องได้รับความร่วมมือจากประชาชนทุกคนในประเทศด้วยในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ทำให้ประเทศไทยกลับมาเป็นดินแดนแห่งความสุขมีรอยยิ้มที่สดชื่นกลับมาอีกครั้งหนึ่ง หลังจากที่ต้องทนทุกข์กลับโควิดร้ายมาเกือบสองปี
“นายกฯได้กล่าวไว้เสมอว่า ลำพังนายกฯคนเดียวคงทำไม่สำเร็จทุกเรื่องจึงต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทุกหน่วยงานตลอดจนพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งประเทศที่จะต้องให้ความร่วมมือช่วยกันในการเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย. นี้ เพื่อเตรียมรับการท่องเที่ยวกระตุ้นเศรษฐกิจให้ประเทศพลิกฟื้นกลับมาให้ได้ ประเทศไทยต้องชนะถ้าคนไทยทุกคนร่วมมือร่วมแรงร่วมใจกัน”