รมต.สำนักนายกฯ ปัดข่าววาง “พีระพันธุ์” ให้เป็นนายกฯสำรอง ย้อนได้ยินมาจากไหน ยัน พปชร.ส่งชื่อ “ประยุทธ์” ชื่อเดียว ชี้ รธน.ฉบับแก้ไขมีผลต่อยุทธศาสตร์ทุกพรรค
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ว่า เป็นเรื่องดีที่นายพีระพันธุ์เข้ามาร่วมกันทำงาน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ดูเหมือนว่าเริ่มมีคนมาอยู่ในพรรคพลังประชารัฐมากขึ้น เพราะยังมี นายชื่นชอบ คงอุดม บุตรชายของนายชัชวาลล์ คงอุดม หัวหน้าพรรคพลังท้องถิ่นไท ย้ายจากพรรคพลังท้องถิ่นไทมาอยู่กับพรรคพลังประชารัฐด้วย นายอนุชา กล่าวว่า เป็นเรื่องธรรมดา แต่ไม่ได้หมายความว่ามีคนเข้า-ออกพรรคเป็นจำนวนมาก ยังเป็นส่วนน้อย
เมื่อถามว่า กรณีของนายชื่นชอบนั้นมีนัยทางการเมืองหรือไม่ และจะมีการยุบพรรคพลังท้องถิ่นไท มารวมกับพรรคพลังประชารัฐ ด้วยหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า ต้องดูว่าการเมืองในวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร มันต้องอ่านบริบทการเมืองตั้งแต่เรื่องรัฐธรรมนูญว่าถ้าแก้ไขแล้ว ใครจะคิดอย่างไร พรรคขนาดใหญ่ พรรคขนาดกลาง และขนาดเล็ก จะคิดอย่างไร ก็ต้องไปว่ากันตอนที่การแก้ไขรัฐธรรมนูญสะเด็ดน้ำแล้ว โดยตอนนี้ยังไม่มีการประกาศรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขออกมา เราจึงยังพูดอะไรไม่ได้ เพียงแต่ทุกคนรอดูแนวโน้มว่าจะเป็นอย่างไร
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถือเป็นความเคลื่อนไหวตามปกติของพรรคการเมืองใช่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า เป็นเรื่องปกติ แต่มันเกี่ยวข้องกับเรื่องรัฐธรรมนูญ โดยขอให้รอดูแล้วกันว่าหลังจากมีการประกาศรัฐธรรมนูญฉบับแก้ไขออกมาแล้ว พรรคการเมืองต่างๆ จะต้องขยับตัวในเรื่องความคิดต่อประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องบัตรลงคะแนนเลือกตั้ง 2 ใบ ที่ถือเป็นประเด็นสำคัญสำหรับแนวคิดหรือยุทธศาสตร์ของพรรคการเมืองในวันข้างหน้า
เมื่อถามว่า ตอนนี้หลายๆ คนประเมินกันว่ากำลังจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นแล้ว นายอนุชา กล่าวว่า ไม่จริง ไม่มีสัญญาณ ไม่มีอะไรแม้แต่นิดเดียว เป็นการประเมินกันเอง
ผู้สื่อข่าวถามถึงการได้ร่วมคณะกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปลงพื้นที่ต่างๆ หลายครั้ง คิดว่าหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ประชาชนจะยังเลือก พล.อ.ประยุทธ์ อีกหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า คิดว่ายังมีประชาชนส่วนหนึ่งที่ยังรักนายกรัฐมนตรี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคใต้ที่ตนเชื่อว่ามีประชาชนเยอะมากที่ยังรักนายกฯ ตนคิดว่าถ้าในอนาคตได้มีการชี้แจงทำความเข้าใจ หรือได้ทราบในวิถีทางต่างๆ ตนคิดว่ามีประชาชนที่รักนายกฯเพิ่มขึ้น
เมื่อถามว่า พื้นที่ใดที่เป็นจุดอ่อนซึ่งนายกฯต้องรุกเข้าไปเพิ่ม นายอนุชา กล่าวว่า ยังไม่รู้ ยังไม่มีจุดอ่อน เมื่อถามว่า พรรคพลังประชารัฐยังเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ชิงตำแหน่งนายกฯเพียงชื่อเดียวใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า ใช่ๆ เพราะยังไม่มีสัญญาณอะไรเป็นอย่างอื่น
เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายมองว่านายพีระพันธุ์อาจมาเป็นนายกฯสำรอง นายอนุชากล่าวว่า ไม่มี ไม่เคยได้ยิน นิดเดียวก็ยังไม่เคยได้ยิน บอกหน่อยว่าไปได้ยินกันมาจากไหน