xs
xsm
sm
md
lg

“ไทยสร้างไทย” ชงอัปเกรด “ภูเก็ต” เป็นเขตปกครองพิเศษ เอื้อพัฒนา-ยืนหนึ่งท่องเที่ยว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“สุดารัตน์” นำทีม “ไทยสร้างไทย” ลงภูเก็ต รับฟังผู้ประกอบการ หวังปลุกการท่องเที่ยวให้กลับมายืนหนึ่ง ชูยกระดับเป็นเขตปกครองพิเศษ เอื้อการพัฒนา ด้าน “ปธ.หอการค้าฯ” ร้องแก้ไขสาธารณูปโภค ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลับมา

เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 64 ที่ ภูเก็ต โบ๊ทลากูน จ.ภูเก็ต คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย พร้อมด้วย แกนนำพรรค อาทิ นายโภคิน พลกุล, นายพงศกร อรรณนพพร, นายสามารถ แก้วมีชัย, น.ต.ศิธา ทิวารี รวมถึงคณะกรรมการนโยบายพรรคและทีมพรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่รับฟังปัญหาของผู้ประกอบการการท่องเที่ยวในพื้นที่


โดย คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวว่า การทำให้ภูเก็ตกลับมายืนหนึ่งในการเป็นห้องรับแขกให้กับคนทั่วโลก ต้องแก้ปัญหาหลายอย่าง เนื่องจากมีขั้นตอนเข้าประเทศมากมาย ในสหรัฐอเมริกา ลงจากเครื่องบินจะมีจุดฉีดวัคซีนฟรี ไม่มีขั้นตอนอะไรที่ยุ่งยาก จึงอยากเสนอให้รัฐมีมาตรการระยะสั้น ลดขั้นตอนให้นักท่องเที่ยวในภูเก็ตแซนด์บ็อก โดยตรวจฟรีโควิด รักษาฟรี มีประกันให้ ต้องลดเอกสาร ลดขั้นตอนในการเข้าประเทศ เปลี่ยนเป็นการใช้แอปพลิเคชั่นติดตามตัวนักท่องเที่ยวในการเข้าเมือง เพื่อให้ทันเปิดรับนักท่องเที่ยวช่วงปีใหม่ เพื่อให้คนไทยและผู้ประกอบการไม่เสียโอกาส

ส่วนมาตรการระยะยาว กำลังจะขอเข้าพูดคุยกับผู้ประกอบการและทำนโยบายเสนอรัฐบาลรวมทั้งจัดทำนโยบายให้พรรคไทยสร้างไทย โดยมีวิสัยทัศน์คือ ภูเก็ตต้อง “เป็นออฟฟิศของคนทั้งโลก เป็นห้องรับแขกของคนทั้งชาติ” โดยจะครอบคลุมในทุกเรื่อง ทั้งด้าน ท่องเที่ยว กีฬาสุขภาพ อุทยานต่างๆ ต้องสะดวกและมีการพัฒนา ให้ภูเก็ตเป็นเขตปกครองพิเศษ มีกฎหมายงบประมาณที่เราดูแลกันเอง โดยพรรคไทยสร้างไทยมีนโยบาย 4 กองทุน คือ กองทุน SMEs 100,000 ล้าน กองทุนท่องเที่ยว 100,000 ล้าน กองทุนวิสาหกิจชุมชน กองทุน Start Up

ขณะที่ นายโภคิน กล่าวว่า วิธีจะเปลี่ยนประเทศไทยเปลี่ยนทั้งประเทศไม่ได้ ต้องเปลี่ยนในส่วนที่พร้อมคือการทำเขตเศรษฐกิจพิเศษ ที่ผ่านมาท้องถิ่นอยู่ภายใต้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยกเว้นกรุงเทพฯ ที่จะอยู่ภายใต้อำนาจของคณะรัฐมนตรี ไทยสร้างไทยจึงสนับสนุนคนตัวเล็ก ที่ผ่านมากฏหมายต่างๆไม่ตอบโจทย์ มีขั้นตอนยุ่งยาก ขอเสนอให้เป็นone stop service เพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้

น.ต.ศิธา กล่าวว่า ในสมัยที่เป็นประธานบอร์ดการท่าอากาศไทย สนามบินรองรับนักท่องเที่ยวได้ 6 ล้านคน แต่ มีนักท่องเที่ยว 9-10 ล้านคน จึงได้มีนโยบายการขยายสนามบินเฟส 2 ทำให้ปัจจุบัน สนามบินภูเก็ตสามารถรองรับได้ถึง 12,000,000 คนต่อปี ซึ่งยังคงไม่เพียงพอต่อศักยภาพของจังหวัดภูเก็ตในอนาคต เมื่อสถานการณ์โควิดคลี่คลายลงในอนาคต ประกอบกับในปัจจุบันรูปแบบการทำงานของบริษัทต่างๆ จะทำเป็นเวิร์คฟอร์มโฮม เป็นส่วนใหญ่ โดยที่จังหวัดภูเก็ตมีศักยภาพ ที่จะดึงดูดคนทั้งโลกให้มาทำงานที่นี่ (Work From Here) ซึ่งภาครัฐควรจะสนับสนุนระบบสาธารณูปโภค และการอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อที่จะรองรับในส่วนนี้


ขณะที่ นายธนูศักดิ์ พึ่งเดช ประธานหอการค้าภูเก็ต กล่าวกว่า ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เป็นความหวังเป็นไอเดียที่ทำให้เราได้ไปต่อได้ เป็นการเปิดประตู ภูเก็ต เพื่อประสบความสำเร็จระยะยาว จะทำให้เปิดการท่องเที่ยวอย่างอื่นได้ ขณะนี้มีนักท่องเที่ยวเข้ามา 42,000 คน ยังอยู่ในไทย 20,000 คน และอยู่ในภูเก็ตจำนวน 4,000 คน เรื่องสาธารณูปโภค น้ำ ถนน ยังไม่ได้รับการแก้ไข หากยังไม่ได้รับการแก้ไขแล้วใครจะกลับมา เราอยากให้นักท่องเที่ยวมาเที่ยวได้ และอยู่อย่างปลอดภัยในหลายระดับ ทั้งคนไทยและต่างชาติ การแก้ปัญหาควรจะผ่อนปรนก่อน จากนั้นให้กู้เงินเพื่อต่อลมหายใจ และแก้กฎหมายในระยะยาว




กำลังโหลดความคิดเห็น