xs
xsm
sm
md
lg

แนะกสทช.ชุดใหม่รื้อกองทุน USO ให้สอดคล้องภารกิจ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วงการสื่อสารโทรคมนาคมฝากความหวัง กสทช.ชุดใหม่เร่งสางขยะใต้พรมกองทุน USO ให้สอดคล้องภารกิจ ชี้บทบาทกองทุนแทบไม่มีผลงานที่จับต้องได้
จากการที่คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือ “กองทุน USO” ใน กสทช.เตรียมทบทวนแผนการดำเนินการกองทุน ฉบับที่ 3 จะใช้ในช่วงปี 2565-2569 โดยมีการคาดการณ์กันว่า คณะกรรมการบริหารกองทุนคงจะมีการทบทวนและปรับลดค่าธรรมเนียมที่เรียกเก็บจากผู้ประกอบการโทรคมนาคมที่ได้รับใบอนุญาตจาก กสทช.เพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธี เพื่อลดแรงกดดันจากสังคมในสภาพเศรษฐกิจที่ย่ำแย่ในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังคงมีแผนเดินหน้าผุดโครงการเพื่อใช้เงินมือเติบต่อไปอีก 5 ปี

แหล่งข่าวในวงการโทรคมนาคม เปิดเผยว่า ความหวังของประชาชนในเวลานี้ จึงอยู่ที่ กสทช.ชุดใหม่ที่วุฒิสภากำลังอยู่ระหว่างสรรหาและแต่งตั้งจะได้เข้ามารื้อสิ่งที่ซุกไว้ และสางปัญหาดังกล่าว เพื่อให้ค่าธรรมเนียม USO ซึ่งก็เป็นเม็ดเงินที่มาจากประชนที่ใช้บริการโทรคมนาคม จะได้ถูกใช้อย่างคุ้มค่าเพื่อประโยชน์ของประชาชนผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึงบริการโทรคมนาคมอย่างแท้จริง

ทั้งนี้ ที่ผ่านมากองทุน USO ถูกวิพากษ์วิจารณ์มาโดยตลอดว่ามีการถลุงงบกันมือเติบโดยปราศจากการตรวจสอบ สร้างภาระแก่ผู้ประกอบการ แต่กสทช.ก็อ้างว่า กองทุนฯ ยังคงมีภารกิจที่ต้องลงทุนขยายโครงข่ายโทรศัพท์ และบริการโทรคมนาคมในพื้นที่ห่างไกล จึงมีการผลักดันโครงการต่าง ๆ ออกมาอย่างต่อเนื่อง และใช้งบมือเติบราว “สามล้อถูกหวย” บางโครงการมีการลงทุนซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่ให้บริการอยู่แล้ว

อย่างโครงการให้บริการสัญญาณโทรศัพท์เคลื่อนที่ในพื้นที่ชายขอบ 1,890 หมู่บ้าน หรือโครงการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 3,912 หมู่บ้าน ,โครงการศูนย์ USO Net และ โครงการพัฒนาทักษะ ICT ให้กับประชาชน ซึ่งแต่ละโครงการที่ดำเนินการไป สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน( สตง.) ที่ลงไปตรวจสอบเคยมีรายงานว่า เต็มไปด้วยปัญหาไม่สามารถติดตั้งอุปกรณ์ให้แล้วเสร็จตามกำหนด และไม่สามารถควบคุมดูแลการปฏิบัติงานของผู้ให้บริการให้เป็นไปตามแผนดำเนินงาน หลายโครงการติดตั้งล่าช้าเป็นปี

ขณะที่บริการโครงข่ายอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (OLT) บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสาธารณะ Wi-Fi หมู่บ้าน, บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงสำหรับหน่วยงานของรัฐในรูปแบบ Wi-Fi โรงเรียน และ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล และ ศูนย์อินเทอร์เน็ต (Uso Net) ภายในโรงเรียน ก็เต็มไปด้วยปัญหา การให้บริการไม่สอดคล้องกับสภาพความจำเป็นภายในหมู่บ้าน หรือหมู่บ้านส่วนใหญ่ต่างมีบริการอินเทอร์เน็ตของเอกชนเข้าถึงพื้นที่อยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังมีรายงานของ สตง.ที่เห็นว่า กองทุน USO ควรปรับปรุงโครงการที่ดำเนินการไปให้มีความชัดเจนและเหมาะสมอย่างเป็นรูปธรรมกว่านี้ เพราะบางโครงการซํ้าซ้อนกับหน่วยงานอื่น อย่างกระทรวงศึกษาที่มีงบสนับสนุนบริการอินเทอร์เน็ต พร้อมจัดเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อการเรียนการสอนให้กับนักเรียนภายในโรงเรียนอยู่แล้ว หรือบางโครงการไปติดตั้งอุปกรณ์ให้บริการสัญญาณโทรศัพท์ในบริเวณริมถนนที่ไม่มีบ้านเรือนตั้งอาศัยอยู่ หรือพื้นที่โดยรอบจุดติดตั้งเป็นพื้นที่เกษตรกรรม เป็นต้น

ทั้งนี้ในภาวะปัจจุบัน ที่ผู้ประกอบการน้อย-ใหญ่ต่างสำลักพิษเศรษฐกิจ จากผลพวงไวรัสโควิด-19 ประกอบกับบทบาทและภารกิจหลักของกองทุนที่ได้ดำเนินการไปก่อนหน้ายังมีหลายโครงการที่กองทุนจำเป็นต้องเคลียร์หน้าเสื่อหรือเก็บงานเป็นจำนวนมาก ขณะที่ภาระกิจหลักที่กองทุนจะต้องดำเนินการก็ลดน้อยลง หรือแทบไม่หลงเหลือกิจกรรมอื่นให้ดำเนินการแล้ว จึงไม่สมควรที่จะสร้างภาระใหม่ทับถมปัญหาเดิมจนกลายเป็นดินพอกหางหมู ทุกฝ่ายจึงเห็นว่า กสทช.น่าจะได้ทบทวนบทบาทของกองทุน USO ทบทวนแผนกองทุนฉบับที่ 3 ที่จะนำมาใช้ในช่วงปี 2565-69 นี้ให้มีความสอดคล้องกับยุคสมัย

โดยกองทุนควรทบทวนการนำงบประมาณการสร้างศูนย์ USO Net และการใช้งบประมาณจำนวนมากเกินเหตุในการพัฒนาทักษะด้าน ICT กับประชาชน รวมทั้งทบทวนอัตราค่าธรรมเนียมจัดเก็บเข้ากองทุน ให้เกิดความเหมาะสมสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน โดยควรลดอัตราจัดเก็บค่าธรรมเนียมให้สอดคล้องกับภารกิจที่เหลืออยู่เท่านั้น เพื่อให้โอเปอเรเตอร์สามารถลงทุนขยายโครงข่ายอย่างเต็มกำลังความสามารถ หรือสร้างประโยชน์ด้านอื่นๆ ที่จะช่วยเหลือประชาชนได้อย่างแท้จริง

“ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เสียงสะท้อนต่อโครงการลงทุนต่างๆ ของกองทุน USO ที่ถลุงเม็ดเงินไปหลายหมื่นล้าน แต่เราก็ยังคงเห็นข่าวของเด็กในพื้นที่ห่างไกล ต้องไปนั่งเรียนออนไลน์ตากแดดอย่างยากลำบากหรือต้องเดินทางไปไกลหลายกิโล เพื่อหาสัญญาณโทรศัพท์ในการเรียนออนไลน์ ทั้งที่พื้นที่เหล่านั้นเป็นพื้นที่เป้าหมายของ กสทช. สิ่งเหล่านี้เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นผลงานที่ย่ำแย่ของโครงการ USO และส่วนหนึ่งของปัญหาก็มาจากความบกพร่องไม่ทันโลกของโครงการ USO ด้วย”


กำลังโหลดความคิดเห็น