xs
xsm
sm
md
lg

“จิรายุ” แย้ม ฝ่ายค้านจ่อยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ในสมัยประชุมหน้า อัดรัฐบาลหยุดวุ่นวายเรื่องส่วนตัวมาสนใจเรื่องประชาชนบ้าง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จิรายุ” แย้ม ฝ่ายค้านจ่อยื่นอภิปรายไม่ลงมติ ม.152 ในสมัยประชุมหน้า อัดรัฐบาลหยุดวุ่นวายเรื่องส่วนตัว มาสนใจเรื่องประชาชนบ้าง ขู่กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ใช้ พ.ร.บ.คำสั่งเรียก หลังออกหนังสือเชิญ 3 ครั้ง

วันนี้ (1 ต.ค.) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์การมหาชน และกองทุน กล่าวว่า ในช่วงของการปิดสมัยประชุมนี้ พรรคเพื่อไทยมีนโยบายให้ประธานกรรมาธิการในส่วนของพรรคเพื่อไทย ได้ดำเนินการตรวจสอบกระทรวง ทบวง กรมต่างๆ และทำสรุปส่งให้พรรคผ่านสำนักงานปราบโกงทุกสัปดาห์ เพื่อเตรียมพร้อมในการเปิดสมัยประชุมต่อไปในเดือนพฤศจิกายน 2564 ซึ่งอาจจะมีการยื่นอภิปรายเป็นการทั่วไปแบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นครั้งที่สำคัญที่จะชี้ให้ประชาชนเห็นว่าฝ่ายค้านได้ทำงานอย่างเต็มที่ หลายเรื่องที่อภิปรายไม่ไว้วางใจและติดตามตรวจสอบ แต่รัฐบาลก็ไม่เคยตั้งคณะกรรมการ หลายประเด็นตนก็ไปยื่นร้องถึงนายกรัฐมนตรี ก็ตั้ง “ลูกพี่สอบลูกน้อง” และบางเรื่องก็ดองเรื่องเอาไว้ และที่สำคัญ การแก้ไขในเรื่องการทุจริตของรัฐบาลปัจจุบันมีมากมายหลายกระทรวง ทบวง กรม และไม่ได้มีการแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างจริงจัง สนใจแต่จะลงพื้นที่แบ่งพรรคแบ่งพวก แบ่งกลุ่มแบ่งก้อนกัน ซึ่งประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร

“จึงอยากฝากไปยังรัฐบาล ท่านอย่าเพิ่งวุ่นวายอะไรกับเรื่องของส่วนตัวมากมายนัก กรุณายุ่งและวุ่นวายความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากจะเป็นประโยชน์ยิ่ง อะไรที่เป็นเชิงนโยบาย อะไรที่เป็นการแก้ไขปัญหาทุจริตก็ทำ ไม่ใช่พอฝ่ายค้านไปแตะอะไร ก็ออกมาแอกชันหน่อย อันนี้ถือว่าพี่น้องประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไร” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ ยังกล่าวต่อว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ดำเนินการแก้ไขอะไรนอกจากแก้ต่าง พูดเอาดีใส่ตัว และโยนให้ข้าราชการประจำ ซึ่งตนได้ติดตามโดยเฉพาะ 2 กระทรวง ที่อภิปรายไป คือ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กับ กรมทรัพยากรน้ำบาดาล กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยในส่วนของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลนั้น ได้เรียกเอกสารไปถึง 2 ครั้ง และเมื่อวานได้ลงนามหนังสือส่งไปเป็นครั้งที่ 3 จึงขอเรียนไปยังส่วนราชการว่า พ.ร.บ.คำสั่งเรียกที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าบังคับใช้ไม่ได้มีเพียง 2 มาตรา แต่มาตราอื่นยังบังคับใช้ เช่น มาตรา 15 ที่มีทั้งโทษจำและปรับ ดังนั้น หากไม่ส่งเอกสารหรือมีเจตนาบิดพลิ้วที่จะไม่ให้ความร่วมมือฝ่ายนิติบัญญัติ ซึ่งเป็นฝ่ายตรวจสอบฝ่ายบริหาร โดยตนจะรอจนถึงวันที่ 5 ตุลาคม 2564 ซึ่งหากครั้งที่ 3 นี้ ยังไม่มาอีกก็จะใช้อำนาจหน้าที่ตามกฎหมายของฝ่ายนิติบัญญัติ


กำลังโหลดความคิดเห็น