รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดิน ส่งศาล รธน. ตีความร่างแก้ไข รธน. ปมบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ขัด รธน. อัดไม่ฟังเสียงประชาชน ลักไก่แก้ หวังกินรวบ คุยนัก กม.ตรวจคำร้องแล้วมั่นใจ ปชช.ชนะแน่
วันนี้ (28 ก.ย.) นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม รักษาการหัวหน้าพรรคไทยภักดี เข้ายื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน ผ่านนายวทัญญู ทิพยมณฑา รองเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้พิจารณาและส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย กรณีรัฐสภาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติมฉบับที่ ... พ.ศ... เรื่องการเลือกตั้งจากบัตรหนึ่งใบไปสู่บัตรสองใบอาจเป็นการทำลายสิทธิของประชาชนและเอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองใหญ่ในการเลือกตั้ง โดย นพ.วรงค์ กล่าวว่า เหตุที่ต้องมายื่นขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งศาลรัฐธรรมนูญเนื่องจากร่างรัฐธรรมนูญที่มีการแก้ไขนั้นขัดหลักการเพราะตอนเสนอขอแก้ไขขอแค่ 2 มาตรา แต่มาลักไก่แก้ 3 มาตราด้วยการเพิ่มการแก้ไขมาตรา 86 จึงเป็นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญเกินกว่าหลักการ ส่วนที่ขัดเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ คิดว่าคนจะแก้ไม่ได้ศึกษาเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญ 60 ที่เขียนไว้ชัดเจนว่าการเลือกตั้งในอดีตที่ใช้บัตรสองใบ ทำให้ ส.ส.ไม่ทำหน้าที่ตัวแทนประชาชน แต่ไปทำหน้าที่ตัวแทนพรรคการเมือง เจ้าของพรรค และที่สำคัญคือทิ้งเสียงข้างน้อย คนชนะกินรวบ จึงแก้มาใช้ระบบจัดสรรปันส่วนผสม เพื่อให้ทุกคะแนนมีความหมาย
นอกจากนี้ เมื่อมาเขียนเป็นรัฐธรรมนูญ 60 จะไม่ใช้คำว่าบัตรเลือกตั้งเพื่อจะได้ไม่ต้องเกิดการบังคับให้มีการพิมพ์บัตรเลือกตั้ง ที่เหมือนกับการถอยหลังไปเป็น 10 ปี แต่จะใช้คำว่าคะแนน หรือคะแนนเสียง เพื่อเปิดช่องให้มีการใช้เครื่องลงคะแนนอิเล็กทรอนิกส์ หรือแอพพลิเคชันต่างๆ ได้ในอนาคตโดยไม่ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่ที่สำคัญ การแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญนี้ขัดต่อรัฐธรรมนูญ 3 มาตรา คือ มาตรา 77 ซึ่งกำหนดไว้ชัดเจนว่าการจะแก้ไขกฎหมายใด ต้องรับฟังความเห็นประชาชน แต่รัฐสภากับลุกลี้ลุกลน ไม่เคยรับฟังความเห็นประชาชน แก้ไขรอบนี้แก้แบบยกเครื่อง ทำให้การนับคะแนนเลือกตั้งต่างจากเดิม บัตรใบเดียวที่เคยผ่านการสำรวจความคิดเห็นประชาชนสูงถึง 77.6 % การจะเปลี่ยนจากบัตรใบเดียวเป็นสองใบจึงต้องถามความเห็นประชาชน แต่ก็กลับไม่มีการสอบถาม
ส่วนมาตรา 85 กำหนดไว้ว่า ผู้มีสิทธิเลือกตั้งมีสิทธิลงคะแนนได้คนละหนึ่งคะแนน แต่มาตรา 83 ในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญให้มีบัตรเลือกตั้งสองใบเท่ากับผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงได้ 2 คะแนน
“เรามายื่นผู้ตรวจการแผ่นดินตามเงื่อนไขที่มาตรา 213 ของรัฐธรรมนูญซึ่งคุ้มครองสิทธิเสรีภาพประชาชน หากถูกตัดสิทธิหรือลิดรอนสิทธิสามารถยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ การที่ร่างรัฐธรรมนูญได้กำหนดบัตรเลือกตั้งสองใบ คือ ผู้ชนะกินรวบ ที่สำคัญ บัตรเลือกตั้งใบเดียวทำให้ทุกคะแนนเสียงมีความหมายสามารถนำมาคำนวณตำแหน่งที่นั่ง ส.ส.ได้ การที่รัฐสภาไปตัดสิทธิประชาชนซึ่งเป็นคนที่มีพลังและมีความหมายมากในระบบจัดสรรปันส่วนผสม แล้วกลับเลือกไปใช้บัตรเลือกตั้งสองใบที่ให้เฉพาะผู้ชนะกินรวบเท่านั้น จึงต้องมาร้องศาลรัฐธรรมนูญผ่านทางผู้ตรวจการแผ่นดิน หากภายใน 60 วันผู้ตรวจการแผ่นดินยังไม่มีท่าที ก็จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญโดยตรง เพราะเราต้องการให้ประเทศดำเนินการบนหลักการของความถูกต้อง ไม่ใช่หลักของพวกมากลากไปที่จะทำให้เกิดเผด็จการรัฐสภาแล้วปัญหาเก่าๆ ก็จะกลับมาอีก” นายวรงค์ กล่าวและว่า นักกฎหมายมือดีของประเทศไทยหลายท่าน ได้ดูคำร้องที่ยื่นผู้ตรวจการแผ่นดินแล้ว ทุกท่านยืนยันว่าประชาชนชนะแน่ ขอให้สบายใจได้
นายวทัญญู กล่าวว่า ทางสำนักงานฯก็จะเร่งรวบรวมข้อเท็จจริง ข้อกฎหมาย เพื่อเสนอต่อที่ประชุมผู้ตรวจการแผ่นดินโดยเร็ว ซึ่งสถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อโควิดไม่มีผลต่อการทำงานของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพราะใช้การประชุมแบบออนไลน์ และกฎหมายกำหนดกรอบเวลาไว้ก็จะต้องเร่งทำงานอยู่แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การมายื่นคำร้องของ นพ.วรงค์ ครั้งนี้ ก็ไม่มีมวลชนเดินทางมาให้กำลังใจจำนวนหนึ่ง โดยตอนแรก นพ.วรงค์ เข้าใจว่า สามารถยื่นตรงต่อศาลรัฐธรรมนูญได้ จึงได้นัดหมายมวลชนไปรอที่หน้าสำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ แต่เมื่อทราบว่าจะต้องยื่นผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินก่อน จึงได้นำมวลชนเดินเท้ามายังสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน