xs
xsm
sm
md
lg

ปลัด พม.โต้เครือข่ายชุมชนฯ ยัน’จุติ’ไม่เคยแทรกแซงงานกระทรวง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปลัด พม.โต้ เครือข่ายชุมชนฯ ยันร่างกม. องค์กรไม่แสวงรายได้ฯม่จำกัดสิทธิ์ภาคสังคม ระบุปรับลดงบอุดหนุนกลุ่มเปราะบางเป็นเรื่องของสภา ย้ำ’จุติ ‘ไม่เคยล้วงลูก หรือแทรกแซงการทำงาน ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน

วันนี้(17 ก.ย. 64) นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เป็นประธานแถลงผลงาน 2 ปี ของกระทรวง พม. ภายใต้การนำของนายจุติ ไกรฤกษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว รองปลัด พม. ในฐานะโฆษกกระทรวง พม. และนางสาวพรรณทิพย์ เพชรมาก รองผู้อำนวยการสถาบันพัฒนาองค์กรชุมชน (องค์การมหาชน) หรือ พอช. ร่วมแถลงข่าว

นางพัชรี กล่าวว่า จากกรณี เครือข่ายองค์กรชุมชนและองค์กรภาคประชาสังคมทั่วประเทศได้มีแถลงการณ์ ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของกระทรวง พม. จึงต้องชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับประชาชน เนื่องจากมีหลายข้อที่ไม่เป็นความจริงและเป็นข้อมูลบิดเบือนความเป็นจริง อาทิ

1. กระทรวง พม. มีทัศนคติเชิงลบต่อองค์กรภาคประชาสังคม องค์กรชุมชน และงานด้านสวัสดิการชุมชน จากท่าทีการเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการดำเนินงานขององค์กรไม่แสวงรายได้หรือกำไรมาแบ่งปันกัน อันเป็นกฎหมายที่มีเจตนาควบคุม ปิดกั้นและจำกัดสิทธิเสรีภาพการรวมกลุ่มขององค์กรภาคสังคม นั้น ข้อเท็จจริงคือพระราชบัญญัติดังกล่าว มีการเสนอโดย 2 กระทรวง ไม่ใช่กระทรวง พม. เพียงกระทรวงเดียว ซึ่งการแก้ไขพระราชบัญญัติดังกล่าวของกระทรวง พม. ไม่ได้ปิดกั้นประชาชน

2. กระทรวง พม.ไม่ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมกลุ่มเปราะบางทางสังคม สะท้อนจากการลดงบประมาณส่วนนี้ลง ขอชี้แจงว่า กระทรวง พม. ได้เสนอของบประมาณประจำปีนี้มากกว่าปีที่ผ่านมา แต่เนื่องจากต้องเสนอขอความเห็นชอบจากสำนักงบประมาณ ซึ่งต้องผ่านความเห็นชอบกรรมาธิการและวุฒิสภา โดยมีการปรับลดงบประมาณลงในส่วนของงบการฝึกอบรม งบลงทุน การก่อสร้าง งบประมาณจ้างเหมาบริการ ซึ่งงบประมาณเหล่านี้ ไม่ได้กระทบถึงภาคประชาชน ในขณะที่งบประมาณที่ถึงภาคประชาชนไม่ได้ถูกปรับลดแต่อย่างใด โดยเราได้รับงบเพิ่มมากขึ้นจากปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเงินอุดหนุนเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เงินปรับปรุงบ้านผู้สูงอายุ และเงินค่าจัดการศพผู้สูงอายุ

3. มีการแทรกแซงหรือส่อเจตนาที่จะเข้าไปมีบทบาทในการกำหนดการแต่งตั้งผู้บริหารของรัฐวิสาหกิจและองค์กรมหาชนในกำกับของกระทรวง พม. ทำให้เกิดความเสียหายต่อองค์กร และการดำเนินงานของของขบวนองค์กรชุมชนทั้งประเทศ เพื่อหวังประโยชน์ทางการเมือง ซึ่งขัดต่อรัฐธรรมนูญและการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ขอชี้แจงว่า พอช. และการเคหะแห่งชาติ (กคช.) ซึ่งเป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวง พม. โดย รมว.พม. ไม่เคยเข้าไปแทรกแซงการทำงานแต่อย่างใด อาทิ บอร์ด พอช. ยังคงเป็นชุดเดิม

“กระทรวง พม. มีผลงานมากมายเด่นชัดในรอบ 2 ปีที่ผ่าน โดยการนำของนายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พม. ไม่เคยทอดทิ้งประชาชน เราดูแลประชาชนในทุกมิติ ตลอดช่วงระยะเวลา ซึ่ง รมว.จุติ ให้ความสำคัญกับภาคประชาชน และกระทรวง พม.ยินดีรับฟังข้อเสนอแนะ หากอะไรที่กระทรวง พม.ทำไปแล้วไม่ตอบสนองความต้องการประชาชน ยังมีปัญหาอุปสรรคอยู่ เราพร้อมปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับการคุ้มครองช่วยเหลือเท่าเทียมกันโดยเราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ดังนั้นขอความร่วมมือภาคประชาชน หากไม่เข้าใจการทำงานอะไร เรายินดีจะรับฟัง และพร้อมปรับเปลี่ยน เพื่อเดินไปด้วยกัน” นางพัชรี กล่าว

ด้านน.ส.พรรณทิพย์ชี้แจงเพิ่มเติมโดยยืนยันว่างบประมาณ พอช. ในการแก้ไขปัญหาชุมชนได้ลงสู่ชุมชนโดยตรง ทั้งโครงการบ้านมั่นคง บ้านพอเพียงชนบท สวัสดิการชุมชน ตลอดจนสนับสนุนชุมชนผู้มีรายได้น้อย ซึ่ง รมว.จุติ ไม่เคยเข้าแทรกแซงไม่ว่าเรื่องบุคลากรและงบประมาณ นอกจากนี้ ในส่วนของการแต่งตั้งโยกย้าย ยังเป็นหน้าที่ของบอร์ด พอช. โดยเร็วๆ นี้ จะมีการสรรหา ผู้อำนวยการ พอช.คนใหม่ ซึ่ง รมว.จุติ ได้กำชับให้ดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย
นางพัชรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับการช่วยเหลือประชาชน ในแถลงการณ์ข้อหนึ่งระบุว่า ช่วงโควิด-19 กระทรวง พม.และ รมว.จุติ ไม่ได้ดูแลประชาชน หรือไม่เคยลงพื้นที่ช่วยเหลือประชาชน ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด ในความเป็นจริงรมว.จุติ ได้กำชับเจ้าหน้าที่เสมอว่า ประชาชนคือคนในครอบครัวต้องเข้าช่วยเหลือในเวลาที่รวดเร็ว ให้ช่วยเหลือเสมือนญาติพี่น้อง ภายใน 3 ชั่วโมง โดยกระทรวง พม. เป็นหนึ่งในกระทรวงที่ผู้บริหารได้ลงพื้นที่ด้วยตัวเองอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการเรา มีเรา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน พม.จะตามไปช่วย ฯลฯ


กำลังโหลดความคิดเห็น