อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ถอนแจ้งความ “วัชระ” คดีฐานทำให้เสื่อมเสีย อ้างพยานโยงเรื่องพูดเงินใต้โต๊ะ 500 ล้าน สร้างสภาใหม่
วันนี้ (15 ก.ย.) นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ กล่าวว่า สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 7 ได้มีหนังสือแจ้งคำสั่งขอยุติดำเนินคดีกับตนต่อผู้กำกับ สน.พหลโยธิน จากกรณีที่ นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ได้แจ้งความดำเนินคดีกับตนในข้อหา “ใส่ความผู้อื่นต่อบุคคลที่ 3 โดยประการที่น่าจะทำให้ผู้อื่นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นหรือถูกเกลียดชัง จากกรณีที่ได้ออกมาเปิดโปงเรื่องมีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้านบาท จากโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภา”
กรณีนี้มาจากเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63 นายวัชระ ยื่นหนังสือขอให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พิจารณาตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า คำพูดของนายพรเพชร “มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้าน” เป็นความจริงหรือไม่ ? หากเป็นเรื่องจริง ใครคือคนทำเงินจำนวนมหาศาลนี้หล่น ใครเก็บเงินที่หล่นไว้ และการกระทำดังกล่าวผิดกฎหมาย ป.ป.ช.และกฎหมายอาญาอื่นๆ หรือไม่ ขณะเดียวกัน ก็ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน 500 ล้านบาท สืบหาผู้ร่วมกระทำผิด และติดตามยึดทรัพย์กลับมาเป็นของแผ่นดิน
นายวัชระ กล่าวว่า ตนได้เบาะแสมาจากการสืบพยานปากที่ 13 ของจำเลยในคดีที่ นายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช.ได้ฟ้องคดีหมิ่นประมาทเรื่องการทุจริตงบ ICT ในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จำนวน 8,648 ล้านบาท โดยพยานคนดังกล่าวได้ให้การต่อหน้าศาลอาญาห้อง 904 ว่า คณะข้าราชการระดับสูงของสภาได้เข้าไปรับนโยบายจากนายพรเพชร วิชิตชลชัย เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งประธาน สนช.โดยนายพรเพชรกล่าวถึงโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่า “อะไรก็ไม่พร้อม แต่ให้เดินหน้าต่อไป มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้าน” ซึ่งคำพูดดังกล่าวออกจากปากของผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อีกทั้งคำให้การของพยาน ก็ผ่านการสาบานต่อศาลแล้ว จึงน่าเชื่อว่าต้องเป็นเรื่องจริง
จากนั้น นายพรเพชร ได้แถลงข่าวที่รัฐสภา ว่า ตนได้ขอให้ข้าราชการระดับสูงดูแลเรื่องการก่อสร้างอาคารรัฐสภาเป็นไปด้วยความเรียบร้อยจริง แต่ไม่เคยพูดเรื่องเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้านบาท จึงถือว่าถูกใส่ความ ประโยคนี้ถือว่าทำร้ายอย่างแสนสาหัส ทำให้เสียหาย ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาเกียรติยศและชื่อเสียง จึงจำเป็นต้องดำเนินคดีกับนายวัชระทั้งคดีอาญา คดีแพ่งและทุกคดีที่ดำเนินการได้ ทั้งที่ในชีวิตไม่เคยคิดฟ้องร้องใคร โดยมอบหมายให้ น.ส.ภัณฑิลา กิติโยดม นิติกร สนง.เลขาธิการวุฒิสภาแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาทนายวัชระ ที่ สน.พหลโยธิน เมื่อวันที่ 8 ก.ค. 63 ซึ่งพนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้อง แต่อัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนสอบปากคำนายพรเพชรถึง 3 ครั้ง แต่ไม่มีความคืบหน้า คดีจึงค้างมา 1 ปีเศษ จนกระทั่งล่าสุดได้มีการถอนแจ้งความดำเนินคดีนายวัชระแล้ว เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 64 และอัยการสั่งให้ยุติคดีเมื่อวันที่ 8 ก.ย. 64
ก่อนหน้านี้ นายวัชระ ได้ส่งเอกสารราชการเป็นการถอดเทปชวเลขของสำนักรายงานการประชุมและชวเลขของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเป็นเอกสารที่เชื่อถือได้ ต่ออัยการ โดยมีการระบุถึงคำพูดของนายพรเพชร ว่า “รัฐสภาแห่งใหม่เหมือนสิ่งที่หลอกหลอนตน ดูแล้วก็แทบช็อก บอกว่า สร้างได้ 6 เปอร์เซ็นต์ ก็เลยไปเอาสัญญามาดูก่อนที่ ส.ว.สมชาย จะอภิปรายว่ามีเงินตกหล่นอยู่ 500 ล้าน 1 พันล้านบาท ก็เลยตรวจดูสัญญา ไม่เห็นมีสัญญาที่ไหนแย่เท่าฉบับนี้”
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ประกาศว่าจะปราบโกงมา 7 ปี ได้ยินหรือไม่ นายวัชระ กล่าว