ข่าวปนคน คนปนข่าว
** หูย...“น้องตู่” หวานใส่ “พี่ป้อม” แค่เห็นหน้าก็รู้ใจ สลัด สภาพพพ..กาสะลองกับซ้องปีบ!
การพบหน้ากันระหว่างพี่น้อง 2 ป. “น้องตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กับ “พี่ใหญ่ป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เข้าร่วมประชุมด้วยกันที่ตึกภักดีบดินทร์ เมื่อวาน (13 ก.ย.) กลายเป็นจุดสนใจจากสื่อพรึ่บพรั่บ!
เนื่องเพราะถือเป็นพบหน้าออกสื่อเป็นครั้งแรกของทั้งคู่ หลังเกิดเหตุการณ์ปลด “ผู้กอง” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และ “อ.แหม่ม” นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ 2 รัฐมนตรีช่วยของพรรคพลังประชารัฐ ที่เชื่อกันว่า เป็นความร้าวลึกระหว่างพี่น้อง 3 ป.
ภาพที่เห็นและจากปากคำของพยาน บอกว่า “น้องตู่” เป็นฝ่ายเดินเข้าหา ยกมือไหว้ทักทายพี่ป้อม ด้วยท่าทีสีหน้าที่เป็นปกติ แถมมีคงมีกระเซ้าเย้าแหย่ ยิ้มร่าสลับกับเสียงหัวเราะ ไม่ได้มีท่าทีว่าขัดแย้งกัน หรือ งอนกันอย่างที่เป็นข่าว แถมฉากจากลายังแสดงความรักและห่วงใย ด้วยการเดินควงแขน “น้องประคองพี่” ส่งถึงรถพี่ป้อม พร้อมกับยกมือไหว้ลา
เป็นที่น่าสังเกตว่า งานนี้ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร ไม่ได้ปริปากพูดอะไร มีเพียงคำตอบห้วนๆ สั้นของ “ลุงตู่” กับสื่อที่พยายามจะถาม อย่างเช่น สบายใจแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ ตอบว่า “สบายใจทุกวัน สบายใจทุกวันละ”
เมื่อถามว่า เมื่อสักครู่มีภาพปรากฏการทักทายและกอด พล.อ.ประวิตร นายกฯตอบว่า "ทำไม ผมก็กอดทุกวันนั่นแหละ ตั้งแต่เด็กแล้ว"
งานนี้แสดงว่า “พี่น้อง 2 ป.” โอเคกันแล้วใช่หรือไม่ ลุงตู่ มีอารมณ์ทันทีกล่าวว่า “เลิกสักที เลิกสักที ฉันกับ พล.อ.ประวิตร น่ะ เลิกสักที”
นายกฯ ยืนยันว่า ไม่จำเป็นต้องเคลียร์อะไรกับ พล.อ.ประวิตร แค่เห็นหน้าก็รู้ใจ ต่างคนต่างรู้ใจซึ่งกันและกัน “ใครว่าเราทะเลาะกัน ไม่มี พวกผมไม่มีทางทะเลาะกัน ผมมีวันนี้ได้เพราะพี่ป้อม”
นี่เป็นภาพที่สื่อออกมา แต่จะเพียงพอที่จะสยบสลัด “สภาพพพ” ของความขัดแย้ง 3 ป. ผู้มีอำนาจได้หรือไม่ คงต้องดูกันต่อไป เพราะการเมืองช่วงนี้เรียกว่าเข้าสู่โหมดความแน่นอน คือ ความไม่แน่นอน อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ คลื่นลมรุนแรงไม่ต่างกับมรสุมในฤดูฝน
หลายๆ ครั้งก็จะเห็นแล้วว่า ไม่ต่างอะไรกับ “ละครโรงใหญ่” สิ่งที่เห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริง บอกไม่ปลดๆ วันต่อมาก็ปลด บอกไม่แตกแยกๆ ไม่ทะเลาะกัน กลับปรากฏว่า มีกรณี “ไลน์น้องถึงพี่” หรือ “พี่ว๊ากใส่น้อง” ระหว่างปิดห้องคุยกันจนตุ๊กกงตุ๊กแก ทำเนียบฯตกใจ
นั่นทำให้สงสัยกันว่า ความรักระหว่าง “พี่น้อง 3 ป.”หรือ ระหว่าง “น้องตู่-พี่ป้อม” ที่ว่ารักกันปานกลืนกิน ระหว่างนี้แอบเหมือน “ละครดัง” เมื่อไม่กี่ปีทีผ่านมาเรื่อง “กลิ่นกาสะลอง” หรือเปล่า
ในละครสะท้อนความรักของคู่พี่น้องสาวเหนือ “กาสะลอง” กับ “ซ้องปีบ” ที่แม้จะเป็นพี่น้องแฝดท้องเดียวกัน มี DNA เหมือนกันเป๊ะ แต่นิสัยใจคอแตกต่างกันลิบ แฝดน้องอย่างอินาง “ซ้องปีบ” ร้ายใส่พี่ “กาสะลอง” ชนิดที่แฟนละครเกลียดกันทั่วบ้านทั่วเมือง
งานนี้โลกแห่งเป็นจริงจะเหมือน “กาสะลอง-ซ้องปีบ” มั้ยก็โปรดติดตามกันต่อไป.
*“บิ๊กตู่” ส่งสวนขวดประดับม้า 9 ตัว อวยพรเบิร์ธเดย์ “หมอหนู” งานนี้มีความนัย??
วางการเมืองเรื่องหนักๆ ว่าด้วยความรักร้าวฉานระหว่างพี่น้อง 3 ป. พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และอนาคตของรัฐบาลไว้สักนิด... มาดูมิตรภาพระหว่าง “ลุงตู่” หัวหน้าคณะรัฐบาล กับพรรคร่วมกันบ้าง
มีรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้มอบหมายให้ “ประทีป กีรติเรขา” รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง เป็นตัวแทนมอบของขวัญให้กับ “หมอหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันเกิด 13 กันยายน ที่กระทรวงสาธารณสุข
นอกจากแสดงถึงมิตรภาพที่มีต่อกัน “ของขวัญ” ดังกล่าวยังเป็นสิ่งที่ถูกจับจ้องมองเป็นพิเศษ
ว่ากันว่าของขวัญ เป็นสื่อแทนใจครั้งนี้ ที่ ลุงตู่มอบให้หมอหนู เป็น “สวนขวด” ที่จัดแต่งมาในโหลแก้ว จำลองภาพสวนเหมือนจริง ด้วยพืชตระกูลมอสส์ ประดับด้วย ฝูงม้า นับจำนวนได้ 9 ตัว โดยมีม้าสีขาว ปะปนอยู่ในฝูง ซึ่งแสดงถึงผู้เลือกของขวัญช่างสื่อได้ตรงใจผู้รับ เพราะ ม้าในสวนขวดนั้น แทนสัญลักษณ์ปีเกิดของ “หมอหนู” ที่เกิดปีมะเมียได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ตามหลักความเชื่อก็ว่ากันว่า ม้าเป็นสัญลักษณ์ของความกล้า ความขยันความรวดเร็ว ชาติอาชาไนย ขณะเดียวกัน ม้าก็มี ความดื้อดึง พยศ แต่ก็แฝงไปด้วยพละกำลัง
ทุกอย่างมีความหมายดี ภาษาวัยรุ่นสมัยนี้ตัองบอกว่า “จึ้งมาก” แต่ก็นั่นแหละ ความที่ม้าอยู่ในสวนขวดโหลแคบๆ ก็มีคนอุตสาห์ตีความ งานนี้มีความนัย ? โดยว่าต้นไม้และม้า อยู่ในโหลแก้วอาจมีนัยยะว่า อยู่ในพื้นที่ที่จำกัด
อุเหม่..ช่างกระไรกัน ว่าจะไม่เครียดอยู่แล้วเชียว