นายกฯ เผย เตรียมลงพื้นที่ตรวจราชการ หลังใช้แต่ระบบออนไลน์ในช่วงโควิดระบาดหนัก ยืนยันรัฐบาลกับ ส.ส.ต้องทำงานร่วมกันได้ ไม่จำเป็นต้องเคลียร์ “บิ๊กป้อม” เพราะเห็นหน้าก็รู้ใจกัน กอดกันมาตั้งแต่เด็กแล้ว ย้ำยังไม่คิดนั่งหัวหน้า พปชร.ไม่ต้องมาถามดัก
เมื่อเวลา 14.50 น. วันที่ 13 ก.ย. ที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2564 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้หารือนอกรอบกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ประมาณ 10 นาที หลังจากนั้น เวลา 15.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากนี้ ได้มีการเตรียมการในการลงพื้นที่เพื่อตรวจราชการ เพราะในช่วงที่ผ่านมา สถานการณ์โควิด-19 ซึ่งตนก็ใช้วิธีการพูดโดยตรงผ่านระบบออนไลน์ และสั่งการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อสถานการณ์ดีขึ้น ทุกฝ่ายร่วมมือกันก็ได้มีการเตรียมการไว้ แต่จะต้องมีความปลอดภัยของทุกฝ่าย ตนเองก็ไม่อยากจะป่วย ไม่อยากถูกกักตัว ก็ต้องระมัดระวังให้ถึงที่สุด ขอบคุณทุกคนที่ให้เกียรติ ตนยินดีที่จะไปเยี่ยม และตอนนี้ก็มีปัญหาเรื่องของน้ำท่วมด้วย แต่เนื่องจากตนมีภารกิจ จึงได้มอบหมายให้รัฐมนตรีบางท่านได้ลงไปในพื้นที่แล้ว โดยเฉพาะพื้นที่ของตัวเองที่ดูแลประชาชนอยู่
“ยืนยันว่า รัฐบาลทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร ส.ส.ทำหน้าที่ในฝ่ายนิติบัญญัติ และได้รับฟังปัญหาจากประชาชนมา รัฐบาลก็ต้องทำงานร่วมกันให้ได้ก็แล้วกัน เรื่องใดที่เป็นเรื่องของการเมือง เรื่องของสภาก็เป็นเรื่องของ ส.ส.ในสภาที่จะว่ากันไปในเรื่องความเชื่อมั่นซึ่งกันและกัน ซึ่งทราบว่าเมื่อสักครู่สื่อมวลชนก็วิ่งไปถามดัก พล.อ.ประวิตร ว่า ผมเคลียร์กับพี่ป้อมหรือยัง ยืนยันว่าผมไม่จำเป็นต้องเคลียร์ เห็นหน้าก็รู้ใจ ต่างคนต่างรู้ใจซึ่งกันและกัน ยืนยันว่า ไม่มีปัญหาอะไรทั้งสิ้นในการทำงาน การดำเนินการอะไรก็ตามก็ขอให้เป็นไปตามกติกา ตามระบอบประชาธิปไตยของเรา อันไหนที่เป็นอำนาจของนายกฯ ที่ผมสามารถทำได้ผมก็ทำของผม ซึ่งไม่มีวันที่จะไม่เข้าใจกัน ยืนยันอีกครั้งนะครับ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า การเตรียมลงพื้นที่มากขึ้น ไม่ใช่เป็นการเตรียมพร้อมเพื่อจะมีการเลือกตั้งใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ได้เตรียม ตนต้องการไปดูว่าในช่วงที่ผ่านมา เมื่อเรากำหนดนโยบายไปแล้ว อนุมัติแผนและโครงการลงไปแล้ว รวมทั้งงบประมาณของรัฐและงบเงินกู้ลงพื้นที่ได้มากน้อยเพียงใด และความต้องการของประชาชนในพื้นที่ยังขาดตรงไหน ผ่าน ส.ส.ทุกพรรคการเมือง เวลาตนไปที่ไหนก็ยินดีที่จะพบกับ ส.ส.ทุกพรรคการเมือง และเคยพูดไว้แล้วว่า รัฐบาลนี้เป็นรัฐบาลของประชาชนทั้งประเทศ ตนต้องทำตรงนี้ ไม่ใช่แยกว่าเป็นพรรคนั้นพรรคนี้ เพราะประชาชนเป็นผู้เลือกท่านเข้ามา ตนมีหน้าที่ที่จะสนองต่อประชาชน พวกท่านเป็นกลไกตรงกลาง ตนก็ต้องดูแล เพียงแต่ขอทำให้ถูกต้อง
เมื่อถามว่า การเมืองก็เป็นเรื่องของการเมืองไป การบริหารก็เป็นเรื่องของนายกฯ หมายความว่า รัฐบาลกับการเมืองจะแยกออกจากกันเลยใช่หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้แยก จะแยกกันได้อย่างไร ตนก็ต้องฟังสภาและก็ตอบนโยบายสนองการเมืองอยู่แล้ว เพราะเวลาที่ตั้งรัฐบาลขึ้นมาก็มีนโยบายจากภาครัฐออกไป ซึ่งก็รับฟังความคิดเห็นมาจาก ส.ส.ทั้งพรรคร่วมรัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน เสร็จแล้วก็นำมาสู่การขับเคลื่อน ในทางปฏิบัติแยกกันไม่ได้อยู่แล้ว จะแยกกันได้อย่างไร
เมื่อถามย้ำว่า รวมถึงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะไปนั่งตำแหน่งหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐด้วยหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “เอ้ย ยังไม่คิดถึงตรงนั้นหรอก มันยังไม่ถึงอะไร ก็อย่าเพิ่งมาถามดักหน้าดักหลังผม มันไม่เกิดประโยชน์อะไรทั้งสิ้นในตอนนี้ เวลาวันนี้ก็ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน”
เมื่อถามว่า เมื่อสักครู่มีภาพปรากฏการทักทายและกอด พล.อ.ประวิตร นายกฯตอบว่า “ทำไม ผมก็กอดทุกวันนั่นแหละ ตั้งแต่เด็กแล้ว”
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวหลังถูกถามว่าวันนี้ตัดชุดข้าราชการใหม่ว่า “ชุดเก่ามันหลวม” ผู้สื่อข่าวถามว่าที่ผอมเพราะนายกฯ เครียดหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่ได้เครียด เครียดอะไรเล่า
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ พล.อ.ประยุทธ์ เดินกลับไปห้องทำงานบนตึกไทยคู่ฟ้า ได้หันมาพูดกับ นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) พร้อมกล่าวกับสื่อมวลชนว่า “ทำไมไม่ถามเขาว่าจะร่วมมือกับฉันอยู่ต่อไปหรือเปล่า ปัดโธ่” พร้อมกล่าวอีกว่า เอาประชาชนเป็นหลัก ทำตามความต้องการของประชาชน