ประธานกรรมการ ป.ป.ช.ประกาศพร้อมจัดทีมร่วมงานกับทุกหน่วยงาน ผลักดันคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศ หรือ CPI หวังลดอันดับการทุจริตของประเทศไทยในระดับโลก
วันนี้ (13 ก.ย.) พล.ต.อ.วัชรพล ประสารราชกิจ ประธานกรรมการ ป.ป.ช.เป็นประธานในพิธีเปิด “กิจกรรมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการสรุปผลการผลักดันและบูรณาการติดตาม การยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต (Corruption Perceptions Index ; CPI) ของประเทศไทย” โดยมีผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากทุกภาคส่วน ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ของสำนักงาน ป.ป.ช.เข้าร่วมสัมมนาฯ ในรูปแบบออนไลน์ ผ่านระบบสื่ออิเล็กทรอนิกส์
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวว่า ประเทศไทยให้ความสำคัญกับการยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต โดยกำหนดเป็นเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนฉบับต่างๆ การยกระดับค่าคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต มีความเกี่ยวข้องกับหน่วยงานทุกภาคส่วน ไม่ใช่เป็นแต่เพียงหน้าที่ของหน่วยงานของรัฐหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่งเท่านั้น สำนักงาน ป.ป.ช. ในฐานะองค์กรหลัก จึงได้จัดกิจกรรมการสัมมนาเชิงปฏิบัติการสรุปผลการผลักดันและบูรณาการติดตามการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดัน และบูรณาการติดตามการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริต และเพื่อสนับสนุนให้การดำเนินการตามมาตรการ ความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. เกิดผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งส่งผลต่อการยกระดับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทยให้เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
พล.ต.อ.วัชรพล กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “TaC Team Thailand (Together against Corruption)” เพื่อเพิ่มคะแนนและลดอันดับ CPI ของประเทศไทย ระบุถึงการเสนอแนวทางในการเพิ่มคะแนน CPI ของประเทศไทยให้สูงขึ้น และลดอันดับของประเทศไทย จากลำดับที่ร้อยกว่าลงมาให้อยู่ในหลักสิบต้นๆ ตามเป้าหมายที่กำหนด ว่าสำนักงาน ป.ป.ช. พร้อมที่จะร่วมกับหน่วยงานที่คณะรัฐมนตรีได้มอบหมายให้เป็นเจ้าภาพในแต่ละแหล่งข้อมูล รวมทั้งหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง ด้วยการแต่งตั้งคณะทำงานหรือคณะบุคคล ผลักดันและขับเคลื่อนการดำเนินการต่างๆ ที่อยู่ในหน้าที่และอำนาจ
“สำนักงาน ป.ป.ช. ยินดีจะช่วยสนับสนุนการทำงานของทุกหน่วยงาน ทั้งในรูปแบบของข้อมูล ตลอดจนการมอบหมายผู้แทนเข้าร่วมเป็นคณะทำงาน เพื่อร่วมดำเนินงานขับเคลื่อนการยกระดับคะแนน CPI กับหน่วยงานต่างๆ อย่างใกล้ชิด และขอเชิญชวนให้หน่วยงานทุกภาคส่วน จัดตั้ง Strong องค์กรพอเพียงต้านทุจริต เพื่อให้เป็นกลไกที่สำคัญ ร่วมกันก้าวไปสู่เป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ คือ ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบต่อไป”