ตรวจแถวหลังร่าง รธน.วาระ 3 ผ่าน 3 พรรคใหญ่ ไม่แตกแถว 149 ส.ว.พรึ่บยกมือผ่านสายอดีตนายทหาร ส่วนผบ.เหล่าทัพ พร้อมใจไม่ลงคะแนน พรรคเล็กคว่ำหวั่นสูญพันธุ์ 10 ส.ว.ยี้กลับไปสู่ระบบพรรคใหญ่กินรวบ ขณะที่ 66 ส.ว.จากหลากหลายกลุ่มงดออกเสียง
วันนี้ (10 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมรัฐสภา เพื่อลงมติร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) ในวาระที่สามโดยเสียงเห็นชอบร่างฯ ทั้งหมด 472 คะแนน แบ่งเป็น ฝั่ง ส.ส ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะเจ้าของร่างฯ พรรคพลังประชารัฐ และ พรรคเพื่อไทย ฝั่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) 149 คะแนน พบว่า ส่วนใหญ่เป็นทั้ง ส.ว.สายอดีตนายทหาร และสายอดีตนักวิชาการ เป็นต้น ขณะที่ผู้บัญชาการเหล่าทัพชุดปัจจุบัน พร้อมใจกันตบเท้าไม่แสดงตัวมาลงคะแนนใด
ส่วน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา พรรคพลังประชารัฐ ที่เพิ่งพ้นตำแหน่ง รมช.เกษตรและสหกรณ์ ไม่ได้ลงคะแนนแต่อย่างใด
สำหรับเสียงไม่เห็นชอบต่อร่างฯ ทั้งหมด 33 คะแนน แบ่งเป็นฝั่งของ ส.ส. 23 คะแนน ได้แก่ พรรครวมพลังประชาชาติไทย ทั้งพรรค ที่แสดงจุดยืนชัดเจนมาตั้งแต่วาระแรก รวมถึงพรรคเล็กบางส่วน ได้แก่ พล.ต.ทรงกลด ทิพย์รัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรครวมพลังชาติไทย นายพิเชษฐ สถิรชวาล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยประชาธรรมไทย นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ นายพีรวิทย์ เลื่องลือดลภาค ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยรักธรรม นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ นายวิรัตน์ วรศสิริน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย น.ส.นภาพร เพชร์จินดา ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย นายวัชรา ณ วังขนาย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย
ขณะที่ฝั่ง ส.ว. 10 เสียง พบว่า มีทั้ง ส.ว.สายอดีตนายทหาร อดีตนายตำรวจ สายอดีตนักวิชาการ ได้แก่ พล.อ.ธวัชชัย สมุทรสาคร, นายเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์, นายพลเดช ปิ่นประทีป, พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร, พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม, นายเสรี สุวรรณภานนท์, พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์, นายอนุศาสตร์ สุวรรณมงคล, นายออน อาจกระโทก, นายอำพล จินดาวัฒนะ
ส่วนเสียงที่มีการงดออกเสียง 187 คะแนน แบ่งเป็นฝั่ง ส.ส. 121 เสียง ได้แก่ พรรคภูมิใจไทย และ พรรคก้าวไกล ทั้งพรรค ที่แสดงจุดยืนชัดว่า มีมติงดออกเสียง โดยเฉพาะพรรคภูมิใจไทย ที่แสดงจุดยืนชัดมาตั้งแต่วาระ 2 จะไม่ร่วมสังฆกรรม เนื่องจากมองว่าประชาชนไม่ได้ประโยชน์ แต่เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของพรรคการเมือง รวมถึงพรรคเล็กบางส่วน
ส่วนฝั่ง ส.ว. 66 เสียง พบว่า ส่วนใหญ่เป็นสายนักวิชาการ อดีต สนช. นักธุรกิจ กลุ่ม 40 ส.ว. เอ็นจีโอ และสายองค์กรต่อต้านการทุจริต อาทิ นายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ นายสมชาย แสวงการ นายเจด็จ อินสว่าง นายประมนต์ สุธีวงศ์ นายปานเทพ กล้าณรงค์ราญ พญ.คุณหญิงพรทิพย์ โรจน์สุนันท์ นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย นายตวง อันทะไชย นายคำนูณ สิทธิสมาน นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ เป็นต้น
