xs
xsm
sm
md
lg

“ธรรมนัส” คิกออฟแจกฟ้าทะลายโจร 1 ล้านต้น สู่เกษตรกรพื้นที่ ส.ป.ก.ตั้งเป้าแปรรูปส่งออกสร้างรายได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“รมช.ธรรมนัส” เปิด “Kick Off ฟ้าทะลายโจร 1 ล้านต้น สู่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน” เริ่มต้นแจกต้นฟ้าทะลายโจรให้เกษตรกร 10 จังหวัด ก่อนมอบอีก 62 จังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ ตั้งเป้าดันสมุนไพรไทยทุกชนิดสู่ภาคอุตสาหกรรมแปรรูป หวังสร้างอาชีพ สร้างรายได้เกษตรกร เผยคุยหลายประเทศเปิดตลาดรองรับแล้ว

วันที่ 1 ก.ย. 2564 ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธาน เปิดงาน “Kick Off ฟ้าทะลายโจร 1 ล้านต้น สู่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน” ณ ศูนย์ส่งเสริมและขยายพันธุ์พืชในเขตปฏิรูปที่ดิน ตำบลพระยาบันลือ อำเภอลาดบัวหลวง จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวถึงความสำคัญของพืชสมุนไพร ว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เป็นปัญหาสำคัญเร่งด่วนของประเทศไทยในขณะนี้ รัฐบาลนำโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายให้ความช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบในทุกระดับและทุกมิติ และเล็งเห็นความสำคัญของการนำพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรมาเป็นทางเลือกประโยชน์ในการรักษาโรค รวมถึงสนับสนุนให้มีการผลิตและสร้างมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะก่อให้เกิดรายได้ให้กับเกษตรกร เพื่อให้แนวนโยบายดังกล่าวสามารถดำเนินการ ได้สำเร็จตามเป้าหมาย จึงได้แต่งตั้งคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น และแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ตามที่ได้กำหนดไว้ วัตถุประสงค์มุ่งเน้นการพัฒนา สมุนไพรไทยทั้งระบบ เพื่อให้เกิดความมั่นคงทางด้านสุขภาพและความยั่งยืนทางด้านเศรษฐกิจ


สำหรับการจัดงาน “Kick Off ฟ้าทะลายโจร 1 ล้านต้น สู่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดิน” ในวันนี้ นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่มีความสำคัญยิ่ง โดยเฉพาะพี่น้องเกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินที่จะได้รับต้นฟ้าทะลายโจรเพื่อนำไปใช้ประโยชน์ท่ามกลางการระบาดของโรคโควิด-19 และเป็นการเตรียมการของเกษตรกรและเครือข่ายเพื่อยกระดับการพัฒนาฟ้าทะลายโจรสู่ภาคอุตสาหกรรมต่อไป ซึ่งจะต้องอาศัยความร่วมมือของทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะกลไกของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงพาณิชย์ ภาคอุตสาหกรรม รวมถึงเครือข่ายเกษตรกร และสถาบันเกษตรกร


ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวย้ำว่า การขับเคลื่อนปลูกพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจร ถือ เป็นภารกิจสำคัญและเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งรัฐบาลโดยคณะรัฐมนตรึได้มีมติขับเคลื่อนอย่างเป็นระบบ ด้วยการตั้งคณะกรรมการนโยบายการบริหารจัดการพืชสมุนไพรฟ้าทะลายโจรและพืชสมุนไพรอื่น โดยมี พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน พร้อมทั้งมีรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นกรรมการ ตนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้รับมอบหมายให้รณรงค์ปลูกพืชสมุนไพร ซึ่งประเทศไทยมีหลายชนิด ขณะที่การแพทย์แผนไทยอยู่กับคนไทยมายาวนาน และภาคการเกษตรเป็นอาชีพที่มีความสำคัญของคนไทย วันนี้เราอย่ามองแค่การผลิต เราต้องมองตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ ต้องผลันไปสู่ภาคอุตสาหกรรมการแปรรูปพืชสมุนไพร โดยตนได้คุยกับหลายประเทศรองรับตลาดไว้แล้ว

“วันนี้บ้านเมืองเกิดวิกฤตโรคระบาด ซึ่งไมรู้อีกนานแค่ไหน เราต้องปลุกกระแสคนไทยเอาของดีที่มีอยู่เข้ามาเป็นทางเลือกในการรักษาลักษณะของแพทย์แผนไทย ผมได้ให้นโยบายไว้ เรื่องนี้ขอให้ขับเคลื่อนอย่างเป็นรูปธรรม แบบบูรณาการซึ่งกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีความพร้อมทุกอย่าง หากขับเคลื่อนบูรณาการไปพร้อมกัน ก็จะสามารถช่วยเหลือเกษตรกรไทย ซึ่งเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศให้รอดพ้นวิกฤตไปได้” ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าว


ร้อยเอก ธรรมนัส กล่าวย้ำด้วยว่า นโยบายการปลูกพืชสมุนไพร ขับเคลื่อนมาตั้งแต่ปี 2562 ในหลายพื้นที่จังหวัดที่มีเขตปฏิรูปที่ดิน แต่ยังไม่เป็นนโยบายของภาครัฐ ทั้งนี้เมื่อมีมติคณะรัฐมนตรีขับเคลื่อนสมุนไพรขึ้นมา ถือเป็นความหวังใหม่ให้เกษตรกรไทยยกระดับคุณภาพขีวิตสร้างรายเพิ่มขึ้นด้วย

ด้าน ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. กล่าวว่า การจัดงานในครั้งนี้ อยู่ภายใต้โครงการขับเคลื่อนสมุนไพรฟ้าทะลายโจรต้านภัยโควิค-19 ในเขตปฏิรูปที่ดิน ตามนโยบายของ ร้อยเอก ธรรมนัส มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเริ่มต้นโครงการอย่างเป็นทางการในการสนับสนุนฟ้าทะลายโจรแก่เกษตรกรในเขตปฏิรูปที่ดินทั่วประเทศ จำนวน 1,000,000 ต้น แก่เกษตรกรจำนวน 100,000 ราย โดยให้เกษตรกรนำฟ้าทะลายโจรไปใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ ในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 พร้อมทั้งสนับสนุนองค์ความรู้การปลูกและการใช้ประโยชน์ที่ถูกต้องแก่เกษตรกร ซึ่งมีเป้าหมายการแจกจ่ายฟ้าทะลายโจรให้กับเกษตรกรให้แล้วเสร็จภายในเดือนธันวาคมนี้


วันนี้ได้ส่งมอบฟ้าทะลายโจรแก่ตัวแทนเกษตรกร 10 จังหวัดประกอบด้วยพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา นครปฐม อ่างทอง ชัยนาท ลพบุรี สุพรรณบุรี สระบุรี และสิงห์บุรี รวมไปถึงอีก 62 จังหวัด ซึ่งจะส่งมอบ ณ ส.ป.ก. จังหวัด พร้อมกันทั่วประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีการจัดแสดงนิทรรศการการขับเคลื่อนงานสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน พร้อมพิธีลงนามบันทึก ข้อตกลงความร่วมมือเรื่องการพัฒนาสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน ระหว่าง ส.ป.ก. กับกรมพัฒนาที่ดิน (พด.) และ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก (พท.) อันจะเกิดความร่วมมือการทำงานร่วมกันต่อไปในอนาคต โดยความร่วมมือระหว่าง ส.ป.ก. กับ พด. เป็นการร่วมมือกันพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานปัจจัยการผลิตพืชสมุนไพรในเขตปฏิรูปที่ดิน เพื่อให้เกษตรกรสามารถผลิตพืชสมุนไพรได้อย่างครบวงจรและมีประสิทธิภาพ มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับ ทั้งประเภทยา อาหาร อาหารเสริม เวชสำอาง และสินค้าบริการต่าง ๆ ส่งเสริมให้เกษตรกร เป็นผู้ประกอบการสมุนไพร สามารถบริหารจัดการสมุนไพร เชื่อมโยงผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศด้วย






















กำลังโหลดความคิดเห็น