เมื่อวันที่ 30 ส.ค. 64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ์ ปลัดประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ในส่วนของสำนักนายกรัฐมนตรีนั้น ตนได้มีคำสั่งขยายวันเวิร์ก ฟรอม โฮม 95% ถึงวันที่ 14 กันยายน 2564 โดยมอบหมายผู้บริหารสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี (สปน.) ทุกคน ดำเนินการภารกิจประจำที่สำคัญ ดังนี้ 1. ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรีติดตามงานตามนโยบายรัฐบาล ข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีและประเด็นการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน ผ่านระบบการประชุมทางไกล 2. คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการและคณะทำงานตามกฎหมาย ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีและที่เกี่ยวข้อง ประชุมผ่านระบบการประชุมทางไกล 3. รับเรื่องราวร้องทุกข์และข้อเสนอแนะผ่าน 4 ช่องทาง คือ โทร.สายด่วน 1111 ตู้ ป.ณ.1111 เวปไซต์และแอปพลิเคชันไลน์ และประสานการแก้ไขปัญหากับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นายธีรภัทร กล่าวว่า 4. ประสานและติดตามงานการคุ้มครองผู้บริโภค 5. ติดตามการขับเคลื่อนการบริหารจัดการที่ดีและการพัฒนาศูนย์ราชการสะดวกของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทั่วประเทศผ่านระบบการประชุมทางไกล 6. ประสานงานทุกกระทรวงเพื่อสร้างการรับรู้และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ผลงานรัฐบาลและผลงานของทุกกระทรวง 7. ประสานงานจิตอาสาภาครัฐช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 การพัฒนาพื้นที่และการสนับสนุนแก้ไขปัญหาภัยพิบัติทางธรรมชาติ 8. ติดตามสถานการณ์การเกิดสาธารณภัยและภัยพิบัติทั่วประเทศ โดยเฉพาะปัจจุบันเรื่องอุทกภัย และประสานสนับสนุนการแก้ไขปัญหา
นายธีรภัทร กล่าวว่า สำหรับภารกิจสนับสนุนการแก้ปัญหาวิกฤตโควิด-19 ที่สำคัญ ดังนี้ 1. รับเรื่องร้องทุกข์และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับโควิด-19 เสนอ ศบค. และ ศปค.ศบค. ทุกวัน 2. จัดถุงยังชีพและถุงกำลังใจ ช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางและกลุ่มเป้าหมายสำคัญ 3. ประสานงานการแก้ไขปัญหาวิกฤตโควิด-19 ผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง 4. มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ สปน. ทุกคนติดตามข่าวสารจาก ศบค. และโฆษก ศบค. รวมทั้งให้ช่วยประชาสัมพันธ์ต่อทุกกลุ่มเป้าหมาย 5. ร่วมเป็นคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการชุดต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 เช่น การบริหารจัดการหน้ากากอนามัย และการรับบริจาคเงินและทรัพย์สินการแก้ไขปัญหาโควิด-19 เป็นต้น
นายธีรภัทร กล่าวว่า การทำงานการให้บริการและช่วยเหลือประชาชนยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อยเรื่องทั่วไป สามารถแก้ไขปัญหาได้มากกว่า 92% และเรื่องที่เกี่ยวกับสถานการณ์โควิด-19 สามารถแก้ไขปัญหาต่างๆตามข้อร้องเรียนได้มากกว่า 99.57% ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับทราบข้อมูลและสั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทุกครั้งให้ช่วยแก้ไขปัญหาของประชาชนทุกเรื่องโดยเร็ว