บอร์ดจัดซื้อจัดจ้างฯ เวียนหนังสือ “ยกเว้น” ระเบียบ 4 ข้อ จัดซื้อวัคซีนของหน่วยงานรัฐ ที่ติดเงื่อนไขจัดซื้อ เฉพาะยี่ห้อ “ซิโนฟาร์ม” หรือกับผู้ขายรายอื่นในลักษณะเดียวกัน หลังหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง ทั้ง “อปท.- รัฐวิสาหกิจ” แห่สนใจจำนวนมาก เหตุติดเงื่อนไข “หากหน่วยงานของรัฐ ไม่ยอมรับเงื่อนไข” จะไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อวัคซีนได้
วันนี้ (23 ส.ค. 64) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ได้มีหนังสือ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.2/ว 778 ลงวันที่ 19 ส.ค. 2564
เวียนถึง ปลัดกระทรวง อธิบดี อธิการบดี เลขาธิการ ผู้อำนวยการ ผู้บัญชาการ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ผู้ว่าการ หัวหน้ารัฐวิสาหกิจ ผู้บริหารท้องถิ่น และหัวหน้าหน่วยงานอื่นของรัฐ
หนังสือระบุถึงเรื่อง การอนุมัติ “ยกเว้น” การปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 สำหรับการจัดซื้อวัคซีนของหน่วยงานของรัฐกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือผู้ขายรายอื่น ที่กำหนดเงื่อนไขในลักษณะเดียวกัน
ล่าสุด กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) กระทรวงมหาดไทย ได้มีหนังสือเวียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด และท้องถิ่นจังหวัด ทั่วประเทศ แจ้งให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทราบและถือปฏิบัติ
แจ้งว่า ปัจจุบันมีหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง มีความจำเป็นต้องดำเนินการในการป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19
โดยเฉพาะการจัดซื้อวัคซีนซิโนฟาร์มกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ให้แก่ประชาชน หรือเจ้าหน้าที่ โดยมีเงื่อนไข ให้หน่วยงานของรัฐที่จัดซื้อต้องจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มให้แก่ราซวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อนำไปบริการฉีดให้ผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่เข้าไม่ถึงการรับวัคซีนหลักไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนวัคซีนที่หน่วยงานของรัฐจัดซื้อ
และหากหน่วยงานของรัฐ ที่จัดซื้อไม่ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว จะไม่สามารถดำเนินการจัดซื้อวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ได้
สำหรับการส่งมอบวัคซีนซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จะจัดส่งวัคซีนตามรายชื่อผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน ไปยังสถานพยาบาลที่หน่วยงานของรัฐได้ระบุไว้ ตามวันเวลาที่กำหนด
"ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวหน่วยงานของรัฐ ไม่ได้ดำเนินการลงทะเบียนเพื่อควบคุมพัสดุ การเบิกจ่ายพัสดุ และการโอนพัสดุที่มีคุณภาพดี ซึ่งยังไม่หมดความจำเป็น จึงเป็นกรณีที่ไม่ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. 2560"
ดังนั้น คณะกรรมการวินิจฉัยฯ จึงอนุมัติยกเว้น การปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าว ข้อ 203 ข้อ 204 ข้อ 205 และข้อ 215 วรรคหนึ่ง (3) สำหรับการจัดซื้อวัคซีน จากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ หรือผู้ขายรายอื่นที่กำหนดเงื่อนไขในลักษณะดังกล่าว
สำหรับระเบียบ ข้อ 203 กำหนดว่า “เมื่อเจ้าหน้าที่ได้รับมอบพัสดุแล้ว ให้ดำเนินการ ดังต่อไปนี้
(1) ลงบัญชีหรือทะเบียน เพื่อควบคุมพัสดุ แล้วแต่กรณี แยกเป็นชนิด และแสดงรายการตามตัวอย่างที่คณะกรรมการนโยบายกำหนด โดยให้มีหลักฐานการรับเข้าบัญชีหรือทะเบียนไว้ประกอบรายการด้วย สำหรับพัสดุประเภทอาหารสด จะลงรายการ อาหารสดทุกชนิดในบัญชีเดียวกันก็ได้” และ (2) “เก็บรักษาพัสดุให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ปลอดภัย และให้ครบถ้วน ถูกต้องตรงตามบัญชีหรือทะเบียน”
ข้อ 204 กำหนดว่า “การเบิกพัสดุจากหน่วยพัสดุของหน่วยงานของรัฐ ให้หัวหน้างานที่ต้องใช้พัสดุนั้น เป็นผู้เบิก”
ข้อ 205 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า “การจ่ายพัสดุ ให้หัวหน้าหน่วยพัสดุ ที่มีหน้าที่เกี่ยวกับการควบคุมพัสดุหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเป็นหัวหน้าหน่วยพัสดุ เป็นผู้สั่งจ่ายพัสดุ” และวรรคสอง กำหนดว่า “ผู้จ่ายพัสดุต้องตรวจสอบความถูกต้องของใบเบิกและเอกสารประกอบ (ถ้ามี) แล้วลงบัญชีหรือทะเบียนทุกครั้งที่มีการจ่าย และเก็บใบเบิกจ่ายไว้เป็นหลักฐานด้วย”
และข้อ 215 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า “หลังจากการตรวจสอบแล้ว พัสดุใดหมดความจำเป็นหรือหากใช้ในหน่วยงานของรัฐต่อไปจะสิ้นเปลือง ค่าใช้จ่ายมาก ให้เจ้าหน้าที่เสนอรายงานต่อหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ เพื่อพิจารณาสั่งให้ดำเนินการดามวิธีการ อย่างหนึ่งอย่างใด ดังต่อไปนี้ (3) โอน ให้โอนแก่หน่วยงานของรัฐ หรือองค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา 47(7) แห่งประมวลรัษฎากร
ทั้งนี้ ให้มีหลักฐานการส่งมอบไว้ต่อกันด้วย” ประกอบกับปัจจุบันมีหน่วยงานของรัฐหลายแห่ง มีความจำเป็นต้องดำเนินการในการป้องกัน ควบคุม การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยการจัดซื้อวัคซีนซีโนฟาร์มกับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้แก่ประขาชน หรือเจ้าหน้าที่ การดำเนินการจองวัคซีนดังกล่าว
"ซึ่งราชวิทยาลัยจุฬาภรณีมีเงื่อนไข ให้หน่วยงานของรัฐที่จัดซื้อต้องจัดสรรวัคซีนซีโนฟาร์มให้แก่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์เพื่อนำไปจัดสรร บริการฉีดให้ผู้ด้อยโอกาสและผู้ที่เข้าไม่ถึงการรับวัคซีนหลักไม่น้อยกว่าร้อยละ 10 ของจำนวนวัคซีน ที่หน่วยงานซองรัฐจัดซื้อ และหากหน่วยงานของรัฐที่จัดซื้อไม่ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าว จะไม่สามารถดำเนินการได้"