เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้อง ป.ป.ช. สอบ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ ส่อผิดจริยธรรมร้ายแรงปมท้าชกนายกฯ ชี้เป็นวิสัยอันธพาล ไม่เหมาะสมเป็น ส.ส.
วันนี้ (23 ส.ค.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เข้ายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยการกระทำของ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์ โพสต์รูปภาพพร้อมข้อความในเฟซบุ๊ก ว่า “เพื่อทางออกของบ้านเมืองแบบสันติไม่มีใครต้องเสียเลือดเสียเนื้อ โดยขออนุญาตเป็นตัวแทนประชาชน ขอท้าชกกับนายกรัฐมนตรีนั้น” ส่อผิดจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
“พฤติการณ์และการแสดงออกในเรื่องของการท้าตีท้าต่อยดังกล่าวเป็น “วิสัยอันธพาล” ไม่ใช่พฤติกรรมของ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ หากแต่เป็นการประดิษฐ์วาทกรรมในลักษณะนักเลงโต คับบ้านคับเมือง ถือเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ไม่เหมาะสมของการทำหน้าที่ในฐานะตัวแทนของประชาชน จนถูกสาธารณชนวิพากษ์วิจารณ์การแสดงออกดังกล่าวอย่างมากมาย สร้างความเสื่อมเสียให้เกิดขึ้นกับสถาบันนิติบัญญัติของชาติโดยชัดแจ้ง ซ้ำร้ายยังโพสต์ท้าทายนักการเมืองด้วยกันในลักษณะต่อให้ 2 รุม 1 อีก ทั้งนี้ หน้าที่หลักของฝ่ายนิติบัญญัติ คือ การผดุงไว้ซึ่งกฎหมายที่ดี ปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยหรือบกพร่อง และตรากฎหมายใหม่ๆ เพื่อคุ้มครองประชาชน ส่งเสริมความยุติธรรม โอกาสทางการแข่งขันที่เป็นธรรมและเท่าเทียม ปกป้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง สร้างโอกาสที่ดีในชีวิต และรวมถึงตรวจสอบการทำงานของฝ่ายบริหารมิใช่หรือ แต่การมาท้าชกผู้นำประเทศเยี่ยงนี้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของตนผิดไปหรือไม่”
ดังนั้น การกระทำและการแสดงออกดังกล่าว ถือได้ว่าเป็นการไม่ประพฤติตนอยู่ในกรอบศีลธรรมอันดี ขัดต่อความสงบเรียบร้อยของประชาชน ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง ส.ส. ที่สามารถชี้ให้เห็นว่าเป็นการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมฯ 2561 อย่างร้ายแรง ในข้อ 6 ข้อ 12 ข้อ 17 ประกอบข้อ 27 วรรคสอง ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 219 กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระร่วมกันกําหนด มาตรฐานทางจริยธรรมไว้ เพื่อใช้กำกับ ดูแล และลงโทษ ส.ส. ส.ว. และคณะรัฐมนตรี