วันนี้ (20 ส.ค.) เมื่อเวลา 12.30 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.) แถลงว่า จำนวนผู้ป่วยผู้ติดเชื้อในชุมชนหลายวันในกรุงเทพฯและปริมณฑลคิดเป็น 41 เปอร์เซ็นต์ ส่วนต่างจังหวัด 59 เปอร์เซ็นต์ แต่ดูทิศทางแล้วเป็นไปได้ว่าแนวทางคงที่และไม่ได้สูงขึ้นเหมือนแต่ก่อนและแม้จะฉีดวัคซีนครบสองเข็มแล้ว แต่ก็ประมาทไม่ได้มีโอกาสที่จะเป็นผู้ติดเชื้อได้ และเริ่มมีการรายงานผู้ป่วยเสียชีวิตในพื้นที่ต่างจังหวัดนอกเหนือจากกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีรายงานการศึกษาวัคซีนเข็มสามวัคซีนไขว้ โดยเป็นการศึกษาของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และศิริราชพยาบาลต่อการติดเชื้อสายพันธุ์เดลตา โดยมีผู้เข้าร่วมการศึกษา 125 ราย แบ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับวัคซีนกลุ่มที่ 1 ซิโนแวค+ซิโนแวค 2 เข็ม พบค่าภูมิคุ้มกันที่ได้ 24.31 กลุ่ม 2 แอสตร้าเซนเนก้า ทั้ง 2 เข็ม พบค่าภูมิคุ้มกันที่ได้ 76.52 กลุ่มที่ 3 ซิโนแวค เข็มที่ 1 แอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 2 พบค่าภูมิคุ้มกันที่ได้ 78.65 และกลุ่มที่ 4 ของบุคลากรทางการแพทย์ที่ได้รับการกระตุ้นหลังจากฉีดซิโนแวค 2 เข็ม และตามด้วยแอสตร้าเซเนก้าเข็ม 3 ค่าภูมิคุ้มกันที่ได้ขึ้นไปที่ 271.7
ในที่ประชุมศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศปก.ศบค.) กรุงเทพฯรับนโยบายการฉีดวัคซีนไขว้ไปปฏิบัติ และการศึกษาพบว่าการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยการใช้วัคซีนไขว้ด้วยการใช้วัคซีนซิโนแวคตามด้วย แอสตร้าเซนเนก้า พบว่าได้ผลดี รวมถึงใช้ระยะเวลาระหว่างเข็ม 1 เข็ม 2 เพียง 3 สัปดาห์ ทำให้มีความเหมาะสมกับบริบทการติดเชื้อในสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อเดลตาที่ขยายวงกว้าง
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยคลินิกคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ได้ทำการวิจัยวัคซีนต่างชนิดทั้งในส่วนเข็ม 1 และเข็ม 2 ที่มียี่ห้อต่างกันและมีการกระตุ้นด้วยเข็ม 3 โดยยังคงมีการศึกษาในหลายงานวิจัย