“แรมโบ้” โต้ “อนุสรณ์” นายกฯ ชื่นชมตำรวจที่ทำหน้าที่ตามกฎหมายก็ถูกต้องแล้ว ไม่เหมือนพรรคเพื่อไทย-ฝ่ายค้าน ชื่นชมม็อบ 3 นิ้ว ทำลายบ้านเมือง เพราะผลประโยชน์ทางการเมืองตัวเองเท่านั้น ถามกลับเพื่อไทยสนับสนุนคนทำลายสถาบันฯ ใช่หรือไม่
วันนี้ (9 ส.ค.) นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวหาว่า นายกฯ ให้ท้ายตำรวจใช้ความรุนแรงกับประชาชน โดยย้ำว่า การชุมนุมของกลุ่มเยาวชนปลดแอก หรือ ม็อบ 3 นิ้ว เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม ที่ผ่านมานั้น หากนายอนุสรณ์ได้เห็นจะพบว่าไม่เป็นไปตามกฎหมาย ทั้ง พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน อีกทั้งการชุมนุมยังสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชน มีการก่อเหตุรุนแรงก่อน มีการทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำลายทรัพย์สินของราชการ
นอกจากนี้ ยังมีการเตรียมพลุไฟ สิ่งเทียมวัตถุระเบิด, หัวนอต, หนังสติ๊ก, วิทยุสื่อสาร, เกราะอ่อนพลาสติก รวมถึงหมวกนิรภัย และหน้ากากป้องกันแก๊สน้ำตา น้ำเกลือจำนวนมาก เป็นที่ชัดเจนว่ากลุ่มผู้ชุมนุมตั้งใจที่จะสร้างความรุนแรงวุ่นวายให้เกิดขึ้นในบ้านเมือง
นายเสกสกล มองว่า การที่นายกฯ ออกมาชื่นชมและให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ตำรวจในการปฏิบัติหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยให้กับบ้านเมือง ทำตามกฎหมาย ก็ถือเป็นเรื่องที่ถูกต้องแล้ว ไม่มีใครจะไปชื่นชมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ไม่รักษากฎหมาย สร้างความรุนแรง ความไม่สงบให้กับบ้านเมืองหรอก หากไม่ใช่กลุ่มเดียวกัน หรือพวกเดียวกัน เช่น นายอนุสรณ์ หรือพรรคเพื่อไทย และพรรคฝ่ายค้าน
เพราะ นายอนุสรณ์ หรือพรรคเพื่อไทย อาจจะอยากให้ม็อบ 3 นิ้วสร้างความรุนแรงให้เกิดขึ้น เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง หวังว่า พรรคของตนเองจะได้ประโยชน์จากตรงนี้ โดยหากคิดแบบนี้ก็ถือว่าเป็นคนไม่รักชาติบ้านเมือง ไม่สนใจประชาชนว่าจะเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหน เพียงเพราะผลประโยชน์ทางการเมืองของตัวเอง ซึ่งคนประเภทนี้ก็ไม่เหมาะที่จะมาเป็นผู้แทนของประชาชนอีกต่อไปแล้ว
“การออกมาพูดสนับสนุนม็อบล้มเจ้า ล้มสถาบันฯ ของนายอนุสรณ์ รองหัวหน้าพรรค นั่นหมายความว่า พรรคเพื่อไทยเกี่ยวข้องสนับสนุนม็อบล้มเจ้าที่สร้างความรุนแรงวุ่นวายในบ้านเมืองใช่ไหม แสดงว่า นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรค อนุญาตใช่ไหม นายอนุสรณ์ จึงกล้าออกมาปกป้องและสนับสนุน จะได้ป่าวประกาศว่า พรรคเพื่อไทยเอาด้วยกับคนทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ ช่วยตอบด้วยครับ” นายเสกสกล กล่าว