โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วอนผู้ชุมนุมนึกถึงบ้านเมือง หลังราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศฯ ห้ามชุมนุม มีความผิดจำคุก 2 ปี ปรับ 40,000 บาท
วันนี้ (5 ส.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วอนผู้ที่จะเข้าร่วมกิจกรรมหรือชุมนุมทางการเมือง ห่วงใยความปลอดภัยของตนเอง ครอบครัว ชุมชน และบุคคลอื่นทั่วไป รวมทั้งยังมีความผิดทางอาญา โทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินในส่วนที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง เรื่อง การห้ามชุมนุม การทำกิจกรรม การมั่วสุม ที่ก่อให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ฉบับที่ 9 ได้ มีผลตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ยังอยู่ในข้อกำหนดของการบริหารสถานการณ์ในฉุกเฉิน ห้ามการรวมกลุ่มและจำกัดการเคลื่อนที่ของบุคคล เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้แจ้งเตือนตลอดว่า การที่มีบุคคลจำนวนมากมารวมตัว ยิ่งเพิ่มโอกาสในการแพร่/รับเชื้อไวรัส โควิด-19 และอาจจะนำปสู่การแพร่ระบาดในครอบครัวหรือชุมชนมากยิ่งขึ้น ทำให้การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 มีปัจจัยเสี่ยงเพิ่มมากขึ้น อย่างไรก็ตาม รัฐบาลขอยืนยันว่า ประชาชนยังคงมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง อย่างสุจริต และยังสามารถแจ้งข้อร้องเรียนเบาแสะการกระทำผิดถึงนายกรัฐมนตรีโดยตรงผ่านช่องทาง 1111 ด้วย จึงอยากขอความร่วมมือจากกลุ่มผู้ชุมนุม รวมทั้งผู้ที่จะเข้าร่วมการชุมนุมอีกครั้ง ให้คำนึงถึงประเทศชาติ และความพยายามของทุกฝ่ายในการควบคุมการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 เพราะทุกคนคือคนไทย และขอขอบคุณประชาชนส่วนใหญ่ที่ให้ความร่วมมือกับมาตรการต่างๆ ที่ทาง ศบค.ประกาศออกมาแล้วก่อนหน้านี้