วันนี้ (2 ส.ค.) นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับที่...) พ.ศ.... คนที่หก แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และ มาตรา 91 ว่าด้วยระบบเลือกตั้ง รัฐสภา กล่าวถึงการนัดประชุม กมธ. ในวันที่ 4 สิงหาคม เพื่อพิจารณาเนื้อหา ว่า ตนขอคัดค้านข้อเสนอของนายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ฐานะประธาน กมธ. ที่จะให้ตั้งคณะทำงานเพื่อจัดทำเนื้อหาตามคำแปรญัตติ เบื้องต้นเชื่อว่าคณะทำงานดังกล่าวจะถูกตั้งขึ้นเพื่อรวบรัดการทำงานและปิดปากการแสดงความคิดเห็น ถกเถียง อย่างรอบด้านของฝ่ายต่างๆ ในชั้นกรรมาธิการ
“เมื่อรัฐสภาตั้ง กมธ. แล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องตั้งคณะทำงาน เพื่อแยกไปทำงาน ควรให้ กมธ. ได้ทำหน้าที่แสดงความเห็น อภิปราย และถกเถียงในรายละเอียดให้รอบด้าน อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญรอบนี้มีเพียง 2 มาตรา จึงควรใช้ กมธ. พิจารณา และผมมองว่าการเสนอตั้งคณะทำงานนั้น คือ เหลี่ยมทางการเมือง ต้องการสร้างโอกาสให้มีบางคนที่เป็นฝ่ายรัฐบาล ทำมุบมิบ เขียนกติกาที่เอื้อประโยชน์ของพรรคการเมืองใหญ่ 2 พรรค ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน แทนการกำหนดกติกาที่เป็นธรรมกับทุกฝ่าย และเพื่อประโยชน์ประชาชน และใช้เสียงข้างมากโหวตตามความต้องการ” นายธีรัจชัย กล่าว
รองประธาน กมธ. คนที่หก กล่าวด้วยว่า ความพยายามเอาเปรียบทางการเมือง คือ การตอกย้ำว่าต้องการสืบทอดอำนาจและผลประโยชน์ของพรรคใหญ่ ทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน ดังนั้น กมธ.ซีกพรรคก้าวไกลจะคัดค้านเรื่องดังกล่าว แม้หากใช้เสียงลงมติจะแพ้ แต่เชื่อว่าจะได้เสียงของความชอบธรรม นอกจากนั้น ยังมีประเด็นที่ต้องโต้แย้ง คือ การเสนอคำแปรญัตติของพรรคพลังประชารัฐ และพรรคเพื่อไทย ที่เสนอเนื้อหาซึ่งรัฐสภาลงมติไม่รับหลักการเข้าสู่การพิจารณา แม้จะอ้างว่าการแปรญัตติเนื้อหาอื่นที่เกี่ยวข้อง ทำได้ตามข้อบังคับการประชุม แต่ต้องไม่ใช่ตีความเพื่อทำทุกอย่างที่ต้องการ ตามอำเภอใจ ส่วนตัวมองว่าการเสนอคำแปรญัตติที่รัฐสภาไม่รับหลักการ คือ สิ่งไม่ถูกต้อง และเป็นการเล่นเกมทางการเมือง ที่พยายามสร้างวัฒนธรรมทางการเมืองแบบตามอำเภอใจ และสร้างผลเสียหายต่อหลักนิติธรรมของบ้านเมือง