นายกฯ เปิดทำเนียบ พบเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ เน้นย้ำความร่วมมือด้านการฟื้นฟูภายหลังโรคโควิด-19 และการพัฒนาอย่างยั่งยืน เห็นพ้องคงเป็นคู่ค้าที่สำคัญ
วันนี้ (29 ก.ค.) เวลา 13.30 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายเกส ปีเตอร์ ราเดอ (H.E. Mr. Kees Pieter Rade) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลางโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมบทบาทของเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ที่ได้ปฏิบัติงานอย่างแข็งขันตลอด 3 ปีที่ผ่านมา ได้ผลักดันความร่วมมือระหว่างไทย-เนเธอร์แลนด์ อย่างรอบด้าน โดยเฉพาะในด้านสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จนนำไปสู่การลงนามความตกลงด้านการบริหารจัดการน้ำระหว่างไทยกับเนเธอร์แลนด์ พร้อมอวยพรให้มีความสุขในวัยเกษียณ และหวังว่าจะยังคงผลักดันความร่วมมือระหว่างกันต่อไปหากมีโอกาส
ด้านเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ยินดีที่ได้ดำรงตำแหน่งในไทย ซึ่งตลอดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งเป็นช่วงเวลาที่น่าประทับใจ ได้รับการสนับสนุนและความร่วมมือจากรัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศตลอดระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่ง ทั้งนี้ ไทยและเนเธอร์แลนด์มีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมายาวนาน มีการแลกเปลี่ยนการเยือนอย่างสม่ำเสมอ และมีความร่วมมือใกล้ชิดในหลากหลายด้าน เนเธอร์แลนด์ยินดีร่วมมือกับไทยขยายความร่วมมือในสาขาที่สร้างผลประโยชน์ร่วมกันได้มากขึ้น อาทิ ด้านเทคโนโลยีการบริหารจัดการน้ำ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาอย่างยั่งยืน และสิ่งแวดล้อม
นายกรัฐมนตรีและเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ เห็นพ้องว่า ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างผลกระทบอย่างมากต่อทั้งสองประเทศ จึงควรแสวงหาความร่วมมือในการบริหารจัดการวัคซีน และการฟื้นฟูหลังโรคโควิด-19 ร่วมกัน ซึ่งในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการบริหารจัดการเพื่อควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค การบริหารจัดการด้านการให้บริการวัคซีนแก่ประชาชน ซึ่งเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ เชื่อมั่นในการทำงานของรัฐบาล พร้อมหวังว่าไทยจะประสบความสำเร็จในการจัดการปัญหาโรคโควิด-19 โดยเนเธอร์แลนด์พร้อมให้ความร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลในด้านการบริหารจัดการวัคซีนกับไทย
สำหรับความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่ไทยและเนเธอร์แลนด์เป็นคู่ค้าที่สำคัญของกันและกัน โดยเนเธอร์แลนด์ลงทุนในไทยมากเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มสหภาพยุโรป โดยเฉพาะโครงการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ในขณะที่ไทยก็ลงทุนในเนเธอร์แลนด์มากเป็นอันดับที่ 1 ในกลุ่มสหภาพยุโรปเช่นกัน นายกรัฐมนตรีกล่าวเชิญชวนให้เนเธอร์แลนด์เพิ่มการลงทุนใน EEC ในอุตสาหกรรมเป้าหมายที่เนเธอร์แลนด์มีศักยภาพ อาทิ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ โลจิสติกส์ การบิน การต่อเรือ และอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ พร้อมเสนอให้ทั้งสองฝ่ายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ด้านเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาที่ยั่งยืน รวมทั้งโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว (BCG) โดยเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ชื่นชมแนวนโยบายของไทย และพร้อมร่วมมือกับไทยในเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน และเศรษฐกิจสีเขียว ที่สอดคล้องกับการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายพร้อมขยายความร่วมมือในกรอบไทย เนเธอร์แลนด์ และอาเซียน โดยเนเธอร์แลนด์ชื่นชมบทบาทของไทยในภูมิภาค และบทบาทของอาเซียนในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก ทั้งสองฝ่ายหวังว่า ไทย เนเธอร์แลนด์ และอาเซียน จะสามารถสร้างความร่วมมือที่สร้างสรรค์และเอื้อประโยชน์ต่อกันต่อไป
(ภาพนิ่ง) นายเกส ปีเตอร์ ราเดอร์ (H.E. Mr. Kees Pieter Rade) เอกอัครราชทูตราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย เข้าอำลานายกรัฐมนตรี ในโอกาสพ้นหน้าที่
ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล 29 กรกฎาคม 2564