ทีมโฆษก ศบค. เน้นย้ำเตียงมีจำนวนจำกัด เร่งตั้งศูนย์พักคอยรองรับสูงสุด 5 พันเตียง ตั้งเป้า 1 เขต 1 ศูนย์ เพิ่มหญิงตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ เป็นกลุ่มเสี่ยง ต้องเร่งฉีดวัคซีน
วันนี้ (21 ก.ค.) เวลา 12.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พญ.อภิสมัย ศรีรังสรรค์ ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 (ศบค.)
แถลงว่า รองอธิบดีกรมการแพทย์ได้รายงานความคืบหน้าเรื่องการจัดสรรเตียง จึงต้องขอเน้นย้ำกับประชาชนว่าศักยภาพเตียงมีจำกัด เตียงที่อาจจะพอมีในตอนนี้ กระทรวงสาธารณสุข และ กรุงเทพฯ พยายามเพิ่มศักยภาพเปิดเตียงและโรงพยาบาลสนาม แต่อย่างไรก็ตาม ต้องเน้นย้ำว่า การตอบโจทย์ คือ การแยกกักตัวที่บ้าน (home isolation) หรือการแยกกักในชุมชน (Community Isolation) โดยในกรุงเทพฯจะต้องมีการจัดตั้งเขตละ 1 แห่ง หรือ 2 แห่ง กทม.มี 50 เขต แต่ละศูนย์รับได้ 100 เตียง ทำให้มีเตียงรองรับประชาชนผู้ติดเชื้อได้ถึง 5,000 เตียง ถ้าบางเขตจัดตั้งได้เขตละ 2 ศูนย์ รองรับได้ 10,000 เตียง หรือบางเขตที่ได้ทำไปแล้ว 200 เตียง จะรองรับได้ 20,000 เตียง ทั้งนี้ การแยกจากในชุมชนต้องเน้นย้ำว่า ประชาชนที่ติดเชื้อที่มีอาการในระดับเขียว ผู้ป่วยเกือบ 80 เปอร์เซ็นต์ อยู่ในสีเขียว ซึ่งการแยกกักตัวที่บ้านจะตอบโจทย์ประชาชนในช่วงนี้ และกรุงเทพฯจัดตั้งศูนย์พักคอย เพื่อการส่งต่อแล้ว 49 แห่ง ในพื้นที่ 47 เขต เปิดดำเนินการเรียบร้อย รับผู้ป่วยแล้ว 19 แห่ง รองรับผู้ป่วยได้ 5,365 เตียง ตั้งเป้า 1 เขต 1 ศูนย์พักคอย
พญ.อภิสมัย กล่าวต่อว่า ในที่ประชุม กรมควบคุมโรค ได้เพิ่มกลุ่มหญิงตั้งครรภ์ที่ตั้งครรภ์เกิน 12 สัปดาห์ เป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่จะได้รับวัคซีนเป็นกลุ่มแรกด้วย เป็นการเพิ่มกลุ่มเสี่ยงต่อจากผู้สูงอายุ และกลุ่ม 7 โรคเรื้อรังด้วย ส่วนหญิงที่จะเข้ารับการฉีดวัคซีน แต่ไม่แน่ใจว่าจะตั้งครรภ์หรือไม่ ขอให้ตรวจครรภ์ก่อน ส่วนกลุ่มต่อไปหลังจากนี้จะได้รับวัคซีน คือ กลุ่มชาวต่างชาติ ที่ทำงานอยู่ในบริษัทกับคนไทย เป็นคู่สมรสของคนไทย และมีที่พักอยู่ในประเทศไทย รวมทั้งจะมีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มนักเรียนไทยที่จะต้องเดินทางกลับไปเรียนต่อในต่างประเทศด้วย