“ประยุทธ์” วิดีโอคอนเฟอเรนซ์ เปิด Samui Plus Model ย้ำเป้าหมายฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวหมู่เกาะทะเลใต้ ชูรูปแบบเที่ยวในพื้นที่ที่กำหนด ควบคู่มาตรการควบคุมโรคอย่างเคร่งครัด ย้ำ สื่อสารให้เข้าใจมีหลายประเด็นต่างจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์
วันนี้ (15 ก.ค.) เมื่อเวลา 18.40 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model โดยเชื่อมสัญญาณผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ไปยัง อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี นายกฯกล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ Samui Plus Model ถือเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนครบแล้วมาท่องเที่ยวในไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญ คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า และพื้นที่อื่นๆ ที่กำหนด โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวและประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก ขอชื่นชม จ.สุราษฎร์ธานี ที่รักษาสถานะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เป็นอย่างดี สะท้อนถึงการบริหารจัดการด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่เป็นไปตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการเฝ้าระวังพื้นที่ มาตรการป้องกันควบคุมโรค มาตรการป้องกันส่วนบุคคล มาตรการด้านสังคมและการกำกับติดตาม รวมทั้งระบบการรายงาน การส่งต่อ และการรักษาอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
นายกฯ กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม สำหรับการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ สิ่งสำคัญคือ การสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงเงื่อนไขการท่องเที่ยวในเกาะสมุย เนื่องจากมีหลายประเด็นที่แตกต่างจากการเปิดภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เช่น การกำหนดให้นักท่องเที่ยวอยู่ในที่พักช่วง 3 วันแรกภายใต้การดูแลร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ การสร้างความเข้าใจเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของบุคลากรที่เป็นพนักงานบริการ ด่านหน้า ก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจคลายความกังวลต่อนักท่องเที่ยว ตลอดจนการสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยที่จะมาประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมประชาสัมพันธ์เครื่องหมาย SHA Plus เพื่อการันตีความสะอาดปลอดภัยให้ผู้ประกอบการแหล่งท่องเที่ยว ตนเชื่อมั่นว่า ประชาชน ผู้ประกอบการชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จะสามารถผ่านสถานการณ์ความท้าทายนี้ไปได้ด้วยกัน ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทุกท่านทุกภาคส่วน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ที่เป็นส่วนสำคัญในการสื่อสารสร้างความเข้าใจ เน้นย้ำความพร้อมในพื้นที่ให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นและเดินทางมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพื่อจะฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและบริการของไทยให้กลับมาโดยเร็วที่สุด คืนรอยยิ้ม คืนความสุขกลับสู่คนไทยอีกครั้ง
ด้าน นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า นายกรัฐมนตรีได้แสดงความยินดีกับการเปิดรับนักท่องเที่ยวภายใต้รูปแบบ “Samui Plus Model” ซึ่งเป้าหมายสำคัญ คือ การฟื้นฟูเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของหมู่เกาะทะเลใต้ ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ตลอดจนพื้นที่อื่นๆ โดยเป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากโครงการ “Phuket Sandbox” จากที่ได้เปิดไปแล้วเมื่อในวันที่ 1 กรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนแล้วเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของนักท่องเที่ยวและพี่น้องประชาชนในพื้นที่เป็นหลัก
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังชื่นชมจังหวัดสุราษฎร์ธานีที่รักษาสถานะจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้อย่างดี สะท้อนถึงการบริหารจัดการด้านการแพทย์ และสาธารณสุขที่เป็นไปตามมาตรการอย่างเคร่งครัด ทั้งมาตรการการเฝ้าระวังพื้นที่ มาตรการป้องกันควบคุมโรค มาตรการป้องกันส่วนบุคคล มาตรการด้านสังคม และการกำกับติดตาม รวมทั้งระบบ
การรายงาน การส่งต่อ และการรักษา อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีย้ำสิ่งสำคัญในการเปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ คือ การสื่อสารให้นักท่องเที่ยวเข้าใจถึงเงื่อนไขการท่องเที่ยวในเกาะสมุย ที่แตกต่างจากการเปิด Phuket Sandbox เช่น การกำหนดให้นักท่องเที่ยวอยู่ในบริเวณโรงแรมที่พักในช่วง 3 วันแรก โดยอยู่ภายใต้การดูแลร่วมกับโรงพยาบาลในพื้นที่ การสร้างความเข้าใจในเรื่องการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ของบุคลากรที่เป็นพนักงานบริการด่านหน้าก็จะเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ คลายความวิตกกังวลต่อนักท่องเที่ยว ตลอดจนการสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยที่จะมาประเทศไทย ด้วยการส่งเสริมประชาสัมพันธ์เครื่องหมายมาตรฐาน SHA และ SHA PLUS เพื่อการันตีความสะอาดปลอดภัยให้กับผู้ประกอบการแหล่งท่องเที่ยว
ในช่วงท้าย นายกรัฐมนตรียังแสดงความมั่นใจว่า การจัดงาน “Samui Plus Grand Opening” จะประสบความสำเร็จ ด้วยความมุ่งมั่นทุ่มเทของเจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน ทั้งฝ่ายปกครอง สาธารณสุขอำเภอ อสม. ผู้ประกอบการท่องเที่ยว ประชาชน ชาวเกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จะสามารถผ่านความท้าทายนี้ไปได้ โดยเฉพาะประชาชนในพื้นที่ถือเป็นส่วนสำคัญในการที่จะช่วยสื่อสารสร้างความเข้าใจ เน้นย้ำความพร้อมในพื้นที่ ให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่น และเดินทางมาท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพื่อฟื้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและบริการของประเทศไทยให้กลับมาโดยเร็วที่สุด เพื่อคืนรอยยิ้ม คืนความสุขกลับสู่คนไทยอีกครั้ง