ภูเก็ตงานเข้า มีเที่ยวบินพบผู้ติดเชื้อโควิด ต้อนรับการเปิด "ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์" ขณะที่ห้างเซ็นทรัล ภูเก็ต เปิดปฏิบัติการ Extra Deep Cleaning พ่นยาฆ่าเชื้อทุกจุด หลังพบผู้ติดเชื้อเข้าใช้บริการ นายกฯเตรียมเปิดเพิ่มอีก 3 เกาะ รับนักท่องเที่ยว
หลังจาก จ.ภูเก็ต เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ตามโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ที่เดินทางเข้าภูเก็ต ต้องได้รับวัคซีนครบโดส มีการตรวจหาเชื้อโควิด ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามา และในขณะที่อยู่ภูเก็ต จะต้องตรวจหาเชื้ออีก 2 ครั้ง และจะต้องอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ครบ 14 คืน
ล่าสุด "ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต" ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอความร่วมมือ ผู้ที่เดินทางมาด้วยเที่ยวบิน Thai Smile เที่ยวบิน WE201 เดินทางวันที่ 1 ก.ค.64 เวลา 07.40 น. เส้นทางสุวรรณภูมิ - ภูเก็ต มีผู้ป่วยโควิดเดินทางมาด้วย จึงอยากให้ผู้โดยสารที่ใกล้เคียง เข้าตรวจหาเชื้อ โดยวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเพจฯ ได้ออกประกาศเตือนว่า ผู้ที่เข้าใช้บริการ ร้านสตาร์บัคส์ สาขา และวันเวลาดังต่อไปนี้
สาขา เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า ภูเก็ต ชั้น G (1) 25/6/64 เวลา 12.30 - 13.50 น. (2) 27/6/64 เวลา 9.00 - 12.00 น. (3) 28/6/64 เวลา 10.00 - 19.00 น. (4) 29/6/64 เวลา 10.00 - 13.00 น.
สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต ชั้น 1 (ฝั่งเฟสติวัล) วันที่ 27/6/64 เวลา 13.00-13.45 น.
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่ตำหนิว่าการสื่อสาร แจ้งข่าวล่าช้าเกินไป เนื่องจากผู้ป่วยเข้าใช้บริการตั้งแต่ วันที่ 25 มิ.ย. แต่เพิ่งจะแจ้งเตือน (4 ก.ค.) ซึ่งอาจจะไม่ทันการณ์ ผู้ป่วยและกลุ่มผู้มีความเสี่ยง อาจเดินทางไป จ.อื่นแล้ว หรือไม่
วานนี้ (4 ก.ค.) เพจเฟซบุ๊ก “Central Phuket”โพสต์ข้อความแจ้งทางห้างได้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ Extra Deep Cleaning ทันทีทุกจุด ทั่วศูนย์ หลังได้รับทราบไทม์ไลน์ จากสาธารณสุขจังหวัด แจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อ 2 คน เข้ามาใช้บริการที่ร้านสตาร์บัคส์ ฝั่งฟลอเรสต้า ชั้น G
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ มีการป้องกันไว้ล่วงหน้า โดยคุมเข้มมาตรการเชิงรุกขั้นสูงสุด “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ”ครอบคลุมใน 5 แกนหลัก เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดของทุกท่านที่มาใช้บริการ โดยยึดหลัก
ปลอดภัย - พนักงานของศูนย์การค้าได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว 85% และได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA Plus + ด้วยมาตรการป้องกัน อย่างเคร่งครัด พร้อมด้วยการฆ่าเชื้อระบบปรับอากาศด้วยแสง UVC ตลอดเวลา เพื่อให้อากาศที่หมุนเวียนภายในศูนย์การค้า สะอาด และปลอดภัย
ทันที - ปฏิบัติการ Extra deep cleaning ทั่วทั้งศูนย์การค้า เป็นประจำทุกวัน และทำซ้ำ ทันทีที่ได้รับแจ้งเคสโดยล่าสุด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 ก.ค. 64
เฝ้าระวัง - สำหรับพนักงานร้านค้าที่มีความเสี่ยงสูง จะต้องกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน นับจากที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนการรับมือสถานการณ์ ภายใต้มาตรการเชิงรุกอย่างเคร่งครัด
ป้องกันทุกวัน - มั่นใจสูงสุดด้วยการทำ Big cleaning ลงลึกทุกรายละเอียด และฉีดพ่นฆ่าเชื้อเชิงรุกหลังศูนย์ปิดทุกวัน และเน้นย้ำเป็นพิเศษในจุดที่มีการสัมผัสร่วมสูง
15 ก.ค.เปิดเกาะสมุย พะงัน เกาะเต่า
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวใน วันที่ 15 ก.ค.นี้ ตามแผน Samui Plus Modelเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า มั่นใจถึงมาตรการเตรียมความพร้อมในการที่จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวมานานแล้ว
นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผอ.รพ.เกาะสมุย เปิดเผยถึงตัวเลขของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ขณะนี้ประชากรได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 71.4% ของประชากรในพื้นที่
นอกจากนี้ ตามมาตรการสมุย โมเดล พลัส ยังให้มีมาตรการสำคัญการดูแลความปลอดภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยไว้ถึง 5 ประการด้วยกัน คือ 1. การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 2. การคัดกรองนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา 3. เฝ้าระวังเชิงรุกตรวจหาเชื้อในพื้นที่ 4. รพ.เกาะสมุย และรพ.เอกชนบนเกาะสมุย มีความพร้อมในการที่จะตรวจหาเชื้อได้เอง และ 5 รพ.เกาะสมุย มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ โดยมาตรการเหล่านี้ ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ในการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยว 3 เกาะ ตามแผน Samui Plus Model ด้วย
หลังจาก จ.ภูเก็ต เปิดรับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัว ตามโครงการ ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ที่เดินทางเข้าภูเก็ต ต้องได้รับวัคซีนครบโดส มีการตรวจหาเชื้อโควิด ตั้งแต่วันแรกที่เดินทางเข้ามา และในขณะที่อยู่ภูเก็ต จะต้องตรวจหาเชื้ออีก 2 ครั้ง และจะต้องอยู่ในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ครบ 14 คืน
ล่าสุด "ศูนย์ข้อมูลโควิดจังหวัดภูเก็ต" ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอความร่วมมือ ผู้ที่เดินทางมาด้วยเที่ยวบิน Thai Smile เที่ยวบิน WE201 เดินทางวันที่ 1 ก.ค.64 เวลา 07.40 น. เส้นทางสุวรรณภูมิ - ภูเก็ต มีผู้ป่วยโควิดเดินทางมาด้วย จึงอยากให้ผู้โดยสารที่ใกล้เคียง เข้าตรวจหาเชื้อ โดยวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมา ทางเพจฯ ได้ออกประกาศเตือนว่า ผู้ที่เข้าใช้บริการ ร้านสตาร์บัคส์ สาขา และวันเวลาดังต่อไปนี้
สาขา เซ็นทรัล ฟลอเรสต้า ภูเก็ต ชั้น G (1) 25/6/64 เวลา 12.30 - 13.50 น. (2) 27/6/64 เวลา 9.00 - 12.00 น. (3) 28/6/64 เวลา 10.00 - 19.00 น. (4) 29/6/64 เวลา 10.00 - 13.00 น.
สาขาเซ็นทรัล ภูเก็ต ชั้น 1 (ฝั่งเฟสติวัล) วันที่ 27/6/64 เวลา 13.00-13.45 น.
อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากชาวเน็ต ที่ตำหนิว่าการสื่อสาร แจ้งข่าวล่าช้าเกินไป เนื่องจากผู้ป่วยเข้าใช้บริการตั้งแต่ วันที่ 25 มิ.ย. แต่เพิ่งจะแจ้งเตือน (4 ก.ค.) ซึ่งอาจจะไม่ทันการณ์ ผู้ป่วยและกลุ่มผู้มีความเสี่ยง อาจเดินทางไป จ.อื่นแล้ว หรือไม่
วานนี้ (4 ก.ค.) เพจเฟซบุ๊ก “Central Phuket”โพสต์ข้อความแจ้งทางห้างได้ฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อ Extra Deep Cleaning ทันทีทุกจุด ทั่วศูนย์ หลังได้รับทราบไทม์ไลน์ จากสาธารณสุขจังหวัด แจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อ 2 คน เข้ามาใช้บริการที่ร้านสตาร์บัคส์ ฝั่งฟลอเรสต้า ชั้น G
อย่างไรก็ตาม ทางศูนย์ฯ มีการป้องกันไว้ล่วงหน้า โดยคุมเข้มมาตรการเชิงรุกขั้นสูงสุด “เซ็นทรัล สะอาด มั่นใจ”ครอบคลุมใน 5 แกนหลัก เพื่อความมั่นใจและความปลอดภัยสูงสุดของทุกท่านที่มาใช้บริการ โดยยึดหลัก
ปลอดภัย - พนักงานของศูนย์การค้าได้รับการฉีดวัคซีนครบแล้ว 85% และได้รับการรับรองมาตรฐาน SHA Plus + ด้วยมาตรการป้องกัน อย่างเคร่งครัด พร้อมด้วยการฆ่าเชื้อระบบปรับอากาศด้วยแสง UVC ตลอดเวลา เพื่อให้อากาศที่หมุนเวียนภายในศูนย์การค้า สะอาด และปลอดภัย
ทันที - ปฏิบัติการ Extra deep cleaning ทั่วทั้งศูนย์การค้า เป็นประจำทุกวัน และทำซ้ำ ทันทีที่ได้รับแจ้งเคสโดยล่าสุด เมื่อคืนวันเสาร์ที่ 3 ก.ค. 64
เฝ้าระวัง - สำหรับพนักงานร้านค้าที่มีความเสี่ยงสูง จะต้องกักตัวเพื่อเฝ้าดูอาการเป็นระยะเวลา 14 วัน นับจากที่ได้รับแจ้งว่ามีผู้ติดเชื้อ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามขั้นตอนการรับมือสถานการณ์ ภายใต้มาตรการเชิงรุกอย่างเคร่งครัด
ป้องกันทุกวัน - มั่นใจสูงสุดด้วยการทำ Big cleaning ลงลึกทุกรายละเอียด และฉีดพ่นฆ่าเชื้อเชิงรุกหลังศูนย์ปิดทุกวัน และเน้นย้ำเป็นพิเศษในจุดที่มีการสัมผัสร่วมสูง
15 ก.ค.เปิดเกาะสมุย พะงัน เกาะเต่า
นายวิชวุทย์ จินโต ผวจ.สุราษฎร์ธานี พร้อมหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้อง ทั้งเกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า เปิดเผยกับสื่อมวลชนถึงความพร้อมในการเปิดรับนักท่องเที่ยวใน วันที่ 15 ก.ค.นี้ ตามแผน Samui Plus Modelเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า
นายวิชวุทย์ กล่าวว่า มั่นใจถึงมาตรการเตรียมความพร้อมในการที่จะเปิดต้อนรับนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เนื่องจากในพื้นที่ทั้ง 3 เกาะ ได้มีการเตรียมความพร้อมในการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวมานานแล้ว
นพ.วีระศักดิ์ หล่อทองคำ ผอ.รพ.เกาะสมุย เปิดเผยถึงตัวเลขของผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน ทั้งในพื้นที่เกาะสมุย เกาะพะงัน และเกาะเต่า ขณะนี้ประชากรได้รับการฉีดวัคซีนไปแล้ว 71.4% ของประชากรในพื้นที่
นอกจากนี้ ตามมาตรการสมุย โมเดล พลัส ยังให้มีมาตรการสำคัญการดูแลความปลอดภัย รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการดูแลความปลอดภัยไว้ถึง 5 ประการด้วยกัน คือ 1. การสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ 2. การคัดกรองนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา 3. เฝ้าระวังเชิงรุกตรวจหาเชื้อในพื้นที่ 4. รพ.เกาะสมุย และรพ.เอกชนบนเกาะสมุย มีความพร้อมในการที่จะตรวจหาเชื้อได้เอง และ 5 รพ.เกาะสมุย มีความพร้อมในการรักษาผู้ป่วยติดเชื้อ โดยมาตรการเหล่านี้ ได้มีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว ในการที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามา
ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในวันที่ 15 ก.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปร่วมเปิดประตูรับนักท่องเที่ยว 3 เกาะ ตามแผน Samui Plus Model ด้วย