วันนี้ (12 ก.ค.) นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในรายการสดวิเคราะห์การแข่งขันฟุตบอลแห่งชาติยุโรป 2020 หรือ ยูโร 2020 รอบชิงชนะเลิศ เมื่อคืนที่ผ่านมา ว่า ตามที่รัฐบาลโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ดำริให้ดำเนินการประสานนำการแข่งขันฟุตบอลยูแห่งชาติยุโรป 2020 หรือ ยูโร 2020 มาถ่ายทอดสดให้ประชาชนคนไทยได้ชมฟรีทุกคู่ ตั้งแต่ช่วงพิธีเปิดตลอดจนจบการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศ ระหว่างวันที่ 11 มิถุนายน - 11 กรกฎาคม 2564 นั้น ตนได้รับคำแนะนำและความร่วมมือและจากหลายฝ่าย อาทิ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี นายสุพัฒนพงศ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม โดยได้รับความอนุเคราะห์จาก นายโกมล จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริหารบริษัท ซัมมิทฟุตแวร์ จำกัด เจ้าของผลิตภัณฑ์ แอโรซอฟต์ เป็นผู้สนับสนุนหลักในการจัดซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดครั้งนี้
สำหรับการถ่ายทอดสดได้รับความร่วมมือจาก NBT โดยกรมประชาสัมพันธ์ และผู้ร่วมถ่ายทอดในคู่ที่มีการเตะในเวลาเดียวกัน คือ สถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3HD สถานีโทรทัศน์ PPTV และ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ทำให้คนไทยได้ดูการแข่งขันทุกนัดอย่างจุใจ ไม่มีตกหล่น รวมทั้งสิ้น 51 นัด
รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า การนำกีฬาที่คนทั่วโลกรวมทั้งคนไทยชื่นชอบมาออกอากาศให้ประชาชนคนไทยได้ชมฟรี เป็นสิ่งที่รัฐบาลส่งมอบความสุขให้ประชาชนในช่วงที่ประเทศประสบความทุกข์ยากจากสถานการณ์แพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งหวังว่าจะมีส่วนช่วยสร้างความสุขให้แฟนกีฬา และเป็นแรงบันดาลใจให้เกิดการพัฒนาฟุตบอลไทยสู่สากล ขณะเดียวกัน ยังมีอีกหนึ่งการแข่งขันระดับโลกที่ทุกคนรอคอย คือ การแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ ครั้งที่ 32 หรือ โตเกียว 2020 ที่มีนักกีฬาของไทยเข้าร่วมการแข่งขัน 42 คน จึงขอเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมเป็นแรงใจเชียร์นักกีฬาไทยและติดตามการถ่ายทอดสดระหว่างวันที่ 22 กรกฎาคม - 8 สิงหาคม 2564 ซึ่งจะมีการถ่ายทอดสดผ่านทาง NBT เช่นเดียวกัน
ขณะที่ผลการแข่งขันนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2020 เป็นการพบกันระหว่าง อิตาลี-อังกฤษ ซึ่ง NBT มีการถ่ายทอดบรรยากาศสดจากสนามเวมบลีย์ สเตเดียม กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ผลปรากฏว่า การแข่งขันครบ 90 นาที ทั้งคู่เสมอกัน 1-1 และช่วงเวลาก็ไม่สามารถทำประตูได้ จึงต้องดวลจุดโทษ ซึ่งอิตาลีทำประตูได้มากกว่า จึงสามารถเอาชนะไป 3-2 ปิดฉากการแข่งขันฟุตบอลยูโร 2020 ไปอย่างสวยงาม