xs
xsm
sm
md
lg

“พรรคกล้า” แฉกระบวนการซื้อ-ขายคิวตรวจโควิดฟรีของ กทม.ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พรรคกล้า” แฉกระบวนการซื้อ-ขายคิวตรวจโควิดฟรีของ กทม. ขอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ แนะจัดเพิ่มจุดตรวจลดแออัด หวั่นอาจเกิดเป็นคลัสเตอร์ ร้องทบทวน 120 วันเปิดประเทศ หลังผู้ติดเชื้อพุ่ง นายกฯ ยังต้องกักตัว

วันนี้ (10 ก.ค.) นายเอกชัย ผ่องจิตร์ เลขานุการกลุ่มกรุงเทพ พรรคกล้า ลงพื้นที่แจกหน้ากากอนามัยและกำลังใจพ่อค้าแม่ค้าและประชาชน ตลาดบางแคภิรมย์ เขตบางแค ซึ่งเป็นที่ตั้งจุดตรวจโควิด-19 เชิงรุก ที่ทางกรุงเทพมหานครตั้งขึ้น ให้บริการโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย รองรับผู้ตรวจได้ 1,300 คนต่อวัน แต่ขณะนี้มีประชาชนจำนวนมากเข้าคิวตรวจหาเชื้อโควิด-19 เกิดความไม่สะดวกและแออัดระหว่างรอรับการตรวจ และยังมีการร้องเรียนมายังตนเองว่า มีการซื้อ-ขาย คิวระหว่างผู้ที่รอตรวจหาเชื้อ ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงอยากเรียกร้องให้ทาง กทม. มีมาตรการในการจัดลำดับคิวที่แน่นอนรัดกุม จัดระเบียบโดยคำนึงถึงหลักการรักษาระยะห่างทางสังคม เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคลัสเตอร์ใหม่ รวมทั้ง ควรเพิ่มเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจ เพื่อลดความแออัดสำหรับประชาชนที่มารอตรวจด้วย

“มีประชาชนมาร้องเรียนกับผมและพรรคกล้าว่า มีการซื้อ-ขาย คิวตรวจกันแล้ว ราคาอยู่ที่ 200-500 บาท ถือเป็นเรื่องที่รับไม่ได้ เพราะพี่น้องประชาชนจำนวนมาก มารอคิวการตรวจกันแบบข้ามวันข้ามคืน บางคนรอตั้งแต่ 1 ทุ่ม ก่อนที่จะได้ตรวจในวันถัดไป แต่กลับถูกคนเห็นแก่ตัวใช้เงินไม่กี่ร้อยบาท เพื่อให้ได้สิทธิ์ในการตรวจก่อน จึงขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ และแก้ปัญหาโดยด่วนด้วยครับ” นายเอกชัย กล่าว

นายเอกชัย กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการ ศบค. ที่เพิ่งออกมา จำกัดการเคลื่อนย้ายและการรวมกลุ่มบุคคลให้มากที่สุด เน้นการทำงานแบบ Work Form Home งดการรับประทานอาหารภายในร้าน จำกัดเวลาเปิดปิดห้างสรรพสินค้าและร้านสะดวกซื้อ เป็นต้น เป็นมาตรการอย่างเข้มข้นคล้ายกับในช่วงของเดือนเมษายน 2563 ที่ผ่านมา แต่นอกจากการล็อกดาวน์แบบนี้แล้ว อยากจะให้ทางรัฐบาลเร่งการหาวัคซีนเพื่อฉีดให้ประชาชน และอยากให้รัฐบาลทบทวนแผน 120 วันเปิดประเทศอีกครั้ง อย่างการเปิดโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ ที่ จ.ภูเก็ต 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรียังอยู่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ จนกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงต้องกักตัวเองเพื่อดูอาการเสียเอง ดังนั้น หากจะเปิดประเทศ ก็ขอให้ประเมินความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ และชีวิตของประชาชนภายในประเทศ แต่เบื้องต้นขอให้เยียวยาประชาชนให้เพียงพอเสียก่อน

“ผมขอบคุณท่านนายกฯ และรัฐมนตรีหลายท่าน ที่ประกาศว่าจะไม่รับเงินเดือน 3 เดือน เพื่อแบ่งเงินมาแก้ไขสถานการณ์ แต่อยากเสนอเพิ่มเอางบประมาณแต่ละกระทรวง งบงานประจำที่ไม่จำเป็น ตัดมาช่วยเหลือเยียวยาประชาชนก่อน ทั้งเรื่องดอกเบี้ยธนาคาร ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเช่า หากล็อคดาวน์ ต้องเยียวยาให้รอบด้าน ทั้งในระบบและนอกระบบประกันสังคมด้วย” นายเอกชัย กล่าว










กำลังโหลดความคิดเห็น