ท้าทายจนได้เรื่อง มิสแกรนด์ แฉสั่งถอดมาสก์ทำกิจกรรม ถอนตัวปรับ 6 หมื่น เผย “ณวัฒน์” ไปร่วม “ส.ว.สมชาย-โหรฟองสนาน” ซัด สามกีบด้อยค่าวัคซีน จนเกิดเรื่องเศร้า ที่ปรึกษา ศบค. จวก สร้างความกลัวให้คนไทย คุณกำลังทำบาป!
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (9 ก.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น “นางงามติดโควิด เวทีมิสแกรนด์ แฉ สั่งถอดมาสก์ทำกิจกรรม ใครถอนตัวถูกปรับ 6 หมื่น เผย “ณวัฒน์” ไปร่วมปลายเดือน มิ.ย.”
เนื้อหาระบุว่า จากกรณีที่ นายณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้อำนวยการกองประกวดมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล ได้ออกมาประกาศว่า ตัวเองติดเชื้อโควิด-19 ต่อมาก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ผมไม่สามารถสื่อสารได้ ช่วงนี้อนุญาตอัปเดต ค่าตัวเลขต่างๆไม่ค่อยดีมีเชื้อบางส่วนลงปอด กำลังเปลี่ยนแผนการรักษามีให้ออกซิเจน ตรวจเลือดเอกซเรย์ทุกวัน อยู่ช่วงเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ขอบคุณทุกกำลังใจครับ
ล่าสุด มีประเด็นร้อนแรง เรียกว่า ทำเอาผวากันเลยทีเดียว เมื่อมีการเปิดเผยว่า การประกวดมิสแกรนด์สมุทรสาคร ที่นายณวัฒน์ ไปร่วมเมื่อช่วงปลายเดือนมิถุนายน ตอนนี้มีนางงามติดโควิดจากการประกวดดังกล่าว 13 คน และพี่เลี้ยง 9 คน
โดยหนึ่งในนางงามที่เข้าประกวด ออกมาเปิดเผยถึงการประกวดดังกล่าว ว่า มีการสั่งให้ถอดมาสก์และทำกิจกรรมอย่างใกล้ชิด ไม่มีใครอยากประกวด แต่หากไม่ประกวดจะโดนปรับถึง 60,000 บาท แถมกองประกวดยังไม่ประกาศเรื่องนางงามติดโควิดให้ผู้ร่วมงาน 100 กว่าคนทราบ จะได้ทำการกักตัวและไปตรวจหาเชื้อ หวั่นจะเป็นคลัสเตอร์นางงาม
โดยหนึ่งในผู้เข้าประกวดได้ออกมาเปิดเผยถึงการประกวดดังกล่าว ว่า ที่ต้องออกมาพูดวันนี้ เพราะกลัวว่าคนที่ไปร่วมงานจะติดค่ะ ทางกองประกวดไม่มีการประกาศผ่านเพจบอกให้ทุกคนรู้เลยว่า มีนางงามติดโควิด ตอนนี้มีนางงามติดโควิด 13 คน พี่เลี้ยง 9 คน ซึ่งเป็นการรู้โดยการบอกต่อๆ กันมา ไม่มีการประกาศจากทางกอง นี่อาจจะเป็นคลัสเตอร์ใหญ่ควรจะแจ้งให้คนที่อยู่ในงานได้ทราบ เพราะคนไปร่วมงานก็น่าจะ 100 กว่าคน
จริงๆ แล้ว นางงามทุกคนไม่ได้มีใครอยากประกวดเลย เพราะสถานการณ์เป็นพื้นที่สีแดง พวกเราทุกคนไม่มีใครอยากไป หนูก็เครียดมาก เราดูแลตัวเองอย่างดี เรียนออนไลน์ ไม่ออกไปไหน ดูแลตัวเองอย่างดี ตอนจะออกมาประกวดก็กลัวเหมือนกัน ก็แจ้งทางกองไปว่า จะไม่ไปประกวดยินดีจ่ายค่าปรับ 5,000 บาท ซึ่งอันนี้เป็นข้อความในสัญญาตอนที่สมัครว่าปรับ 5,000
แต่ทางกองเขาไปพิมพ์ในไลน์ว่า ถ้าไม่ประกวดโดนปรับ 60,000 บาท เราก็บอกว่า ไม่มีจ่าย แต่เขาไม่ยอมจะต้องให้จ่าย 60,000 ตอนสมัครก็บอกเสียค่าปรับ 5,000 แต่ตอนนี้จะมาเอา 60,000 บาท หนูก็เลยต้องไปประกวดเพราะเราไม่มีเงินจ่าย
สุดท้ายตอนนี้หนูติดโควิดและแฟนก็ต้องมาติดด้วย มั่นใจว่า ติดจากกองประกวดแน่ๆ เพราะเราไม่ได้ไปไหน ดูแลตัวเองอย่างดี เหตุการณ์มันเกิดตั้งแต่ตอนที่ซ้อมวันที่ 25 มิ.ย. มีการสั่งให้ถอดมาสก์ออก แล้วก็ไปซ้อมเต้นที่เดอะมูฟเม้นท์ก็ไม่มีใครใส่มาสก์เลย แล้วก็ไปซ้อมที่มิลินอาร์ซีเอ ซึ่งวันนั้นหมายเลข 21 เขาไอ จริงๆ มีอาการแบบนี้ก็ไม่ควรมาตั้งแต่แรกแล้ว แต่ถ้าไม่มาก็จะโดนปรับ 60,000 บาท
พอวันที่ 26 ก็ไปที่มิลินแล้ว ไปซ้อมเต้น ก็มีนางงามบางท่านที่ไม่ได้สวอปก็ไปสวอป เราก็ไปสวอป ผลเป็นลบ หลังจากนั้น ก็มีการจัดการประกวดพรีริม วันที่ 27 มามิลินเหมือนเดิม ซึ่งนางงามบางคนก็ไม่ได้เจอคุณณวัฒน์ ไม่ได้ติดจากณวัฒน์ แต่มีการให้ถอดมาสก์ให้ทำกิจกรรมใกล้ชิด
กระทั่งการประกวดเสร็จสิ้น หมายเลข 21 บอกว่า พี่ชายเขาติดเชื้อโควิด เขาเลยทำการตรวจเชื้อ ผลปรากฏว่า ติดโควิดเมื่อวันที่ 1 ก.ค. ก็เลยมีการโทร.แจ้งกันเองในกลุ่มผู้เข้าประกวดและพี่เลี้ยง ซึ่งตอนนั้นหนูเริ่มมีอาการตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย. ตัวร้อนไข้ขึ้นสูงไอมีเสมหะ 3 วัน ไปหาหมอคลินิกได้ยามาไข้ก็ลด แล้วก็ไปตรวจโควิดที่แล็บวันที่ 4 ก.ค. ผลออกมาติด ซึ่งเราไปตรวจแล็บเลยหาเตียงไม่ได้ ก็เลยต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาล เพื่อต้องการผลยืนยันเพื่อจะหาเตียง ไปโรงพยาบาลแรกเขาไม่ตรวจให้ ไปอีกโรงพยาบาล ตรวจให้แต่ไม่มีเตียงต้องรอเตียง
พอวันที่ 6 ทางโรงพยาบาลก็แจ้งมาว่า มีเตียงแล้ว แต่ต้องให้นั่งรถมาเองภายในตอนเที่ยง ซึ่งเราจะไปได้ยังไง ทางเขตเลยประสานโรงพยาบาลสนามให้
พอทางโรงพยาบาลสนามตรวจสอบอาการ เขาก็บอกว่าเราเป็นมาหลายวันแล้ว อาการมันดีขึ้นเรื่อยๆ แล้วก็แนะนำให้รักษาตัวที่บ้านจะดีกว่า เพราะที่โรงพยาบาลเชื้อเยอะ ทางเขตเลยประสานโรงพยาบาลปิยเวชให้ดูแลเราทางโทรศัพท์ พยาบาลก็จะสอบถามอาการผ่านออนไลน์ทุกวัน และแนะนำให้กินยาฟ้าทะลายโจร เสมหะ แก้ไอ มีไข้กินพารา เอายาดมเทใส่มือแล้วถูให้ร้อนดมสูดลึกๆ กินกระชายอุ่น น้ำขิงอุ่น มะนาว”
“ซึ่งตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว ไม่เหมือนตอนแรกๆ กลัวมาก กลัวลงปอด แฟนก็ร้องไห้กลัวเราตาย เพราะเราเป็นไฮเปอร์เวน จะมีอาการหายใจเร็วผิดปกติเวลาที่เหนื่อยร้อนมากๆ จะชักได้ แรกๆ คือ คุยโทรศัพท์นานๆ ไม่ได้เลยมันเหนื่อยต้องขอวางสายก่อนก็กลัวว่าเราจะเป็นอะไรหรือเปล่า แต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นแล้ว และยังอยู่ในช่วงที่ต้องกักตัวและโรงพยาบาลจะโทร.มาทุกเช้า ถ้าอาการแย่โรงพยาบาลถึงจะส่งรถมารับ
สิ่งที่เกิดขึ้นทางกองประกวดไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไร ตอนแรกบอกว่า ถ้าใครมาประกวดแล้วติดจะดูแล แต่ตอนหลังมาบอกว่า ให้รักษาตามระบบ ก็เข้าใจนะว่าให้รักษาแบบนั้น แต่เราหายกลับมาร่างกายกลับมาไม่เหมือนเดิม เราหายใจเองยังยากเลย กระทั่งตอนนี้ก็ไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไร และไม่ประกาศบอกให้ผู้ร่วมงานทราบว่า มีการติดโควิดในกองประกวด ถ้าเขาประกาศจะได้มีคนไปกักตัวหรือไปตรวจ คนอื่นๆ จะได้ไม่ติดด้วย อย่างหมายเลข 3 พ่อแม่เขาก็ต้องมาติดโควิดจากเขา”
ที่เศร้าไปกว่านั้น เพจเฟซบุ๊ก THE TRUTH โพสต์ประเด็น “ส.ว.สมชาย-โหรฟองสนาน” ซัดสามกีบ? ด้อยค่าวัคซีนจนเกิดเรื่องเศร้า ขณะที่ปรึกษา ศบค. ฉะสร้างความกลัวให้คนไทย คุณกำลังทำบาป!?”
โดยระบุว่า “จากกรณีที่มีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิต ในห้องพักที่แฟลตดินแดง โดยผู้เสียชีวิตคือแม่ ส่วนพ่อ ลูก และญาติๆ อีก 4 คน ทราบผลติดเชื้อ และผ่านมา 5 วัน ยังไม่ได้รับการรักษา ซึ่งพื้นที่เกิดเหตุคือ แฟลตดินแดงตึก 56 ซอยประชาสงเคราห์ 11 เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร คนที่พักอยู่ภายในห้องเจ้าหน้าที่ได้มารับตัวไปรักษาหมดแล้ว เหลือแต่ศพผู้เสียชีวิตอยู่ภายในห้อง และปิดประตูไม่ให้คนเข้า
จากการสอบถามเพื่อนบ้าน ทราบว่า ผู้เสียชีวิตมีอาการไอ เจ็บคอ มาหลายวันแล้ว ซึ่งต่อมาลูกสาวของผู้เสียชีวิตบอกกับตนว่า แม่ติดเชื้อโควิด 19 ตนเลยปิดประตูไม่ออกมาสุงสิงกับใคร ส่วนการฉีดวัคซีน ผู้เสียชีวิตบอกกับตนว่าไม่กล้าฉีด รอของเอกชนดีกว่า แล้วต่อมาก็พาติดเชื้อกันทั้งบ้าน จำนวน 4 คน ส่วนการเสียชีวิตผู้ป่วยเสียชีวิตเมื่อเช้านี้ และกำลังรอหน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ เพื่อนำร่างไปทำพิธีตามศาสนาต่อไป
ในขณะที่ ฟองสนาน จามรจันทร์ โหราจารย์ชื่อดัง ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีดังกล่าว ว่า ปั่นกระแสด้อยค่าวัคซีนจนเกิดเรื่องเศร้า วัคซีนที่มีในประเทศตอนนี้ WHOหรือองค์การอนามัยโลกรับรองทั้งหมด-ฉีดแล้วติดได้-แต่ลดความรุนแรงของอาการลง อธิบายรูปที่หนึ่ง-#โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ ที่ #เชียงราย ทำศึกษาประสิทธิผลบุคลากรติด #โควิด19 หลังรับ #วัคซีนโควิด ( #Sinovac) พบว่าลดอาการป่วยได้จริง และมีผู้ติดเชื้อน้อยมากแค่ 1.55% โดยจากบุคลากร 3,161 คน พบว่ามีติดเชื้อเพียง 49 คน คิดเป็น 1.55%
ต่อมา นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ได้มีการแชร์โพสต์ของฟองสนาน พร้อมกับระบุว่า ฝีมือจากหมอบาปและพรรคก้าวร้าว
ด้าน ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) โพสต์ภาพแคปหน้าจอรายงานข่าวดังกล่าว และระบุว่า “ใครที่สร้างความกลัวให้คนไทยไม่กล้าฉีดวัคซีนที่รัฐจัดให้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม ผมว่าคุณกำลังทำบาป”
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ ขณะบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข พยายามถึงที่สุดที่จะดูแลชีวิตคนไทย เตือนแล้วเตือนอีกจนปากแฉะ ให้ยกการ์ดสูง ฉีดวัคซีนที่รัฐจัดให้ วัคซีนที่ดีคือ วัคซีนที่ฉีดเข้าไปในร่างกาย ถ้าไม่ฉีดก็ไม่มีภูมิคุ้มกัน และอาการอาจรุนแรงจนเสียชีวิตได้
แต่กลับมีนักการเมืองบางพรรค สาวก “สามกีบ” พยายามด้อยค่าวัคซีนของรัฐบาลเพื่อเล่นเกมการเมือง โดยไม่สนใจชีวิตของประชาชนที่รับสื่อผิดๆ และรอฉีดวัคซีนยี่ห้อที่พวกสามกีบชี้ชวนปลุกระดม จนที่สุดโควิดมันไม่รอด้วย และก็เกิดเรื่องเศร้าจนได้
นอกจากนี้ คนที่ท้าทายโควิด-19 ก็ไม่รอดเหมือนกัน คงไม่ต้องบอกว่า เป็นใคร เพราะเขานั้นเองที่ปั่นกระแสด้อยค่าวัคซีนมาตั้งแต่ต้น จนวันนี้ แม้แต่ “เวทีมิสแกรนด์” ก็มีคนในออกมาแฉละเอียดยิบ ถึงความหละหลวมและท้าทายโควิด-19 ถึงขั้นสั่งให้ผู้เข้าประกวดไม่ต้องส่วนมาสก์ขณะทำกิจกรรมใกล้ชิดกัน แถมใครกลัว ใครอยากถอนตัว ต้องเสียค่าปรับเพิ่มจากที่ตกลงไว้อีกหลายเท่า คือ 6 หมื่นบาท จนจำต้องประกวด แล้วที่สุดก็ติดโควิดกันระนาว
เรื่องนี้จริงแท้แค่ไหน ต้องรอกองประกวดออกมาชี้แจงอีกครั้ง เพื่อให้ความเป็นธรรมกับกองประกวดด้วยเหมือนกัน
แต่เหนืออื่นใด สิ่งที่ทำให้ปัญหาโควิดแก้ไขยาก ส่วนหนึ่งมาจากกลุ่มคนที่ต่อต้าน พล.อ.ประยุทธ์ และต้องการปฏิรูปสถาบันฯ เพราะพวกเขาต้องการทำทุกวิถีทางเพื่อให้การแก้ปัญหาโควิดของไทยล้มเหลว โดยเฉพาะทำให้คนไทยไม่เชื่อมั่นในรัฐบาล และนายกฯ ให้กระทบชิ่งถึงสถาบันฯด้วย เพื่อผลประโยชน์ทางการเมือง ที่จะได้เข้าสู่อำนาจในทางใดทางหนึ่ง และแม้รู้ทั้งรู้ว่า สิ่งที่พวกเขาปลุกความกลัวที่จะฉีดวัคซีนมันคือ “ความตาย” ของผู้หลงเชื่อก็ตาม
อำมหิต ผิดบาปมั้ยล่ะ ลองคิดดู!!!