ส.ส.น่าน พท. ลั่น รบ.โง่-ส.ส.หิวแสง ชิงให้ข่าว ส.ส.- ส.ว.ขอฉีดวัคซีนเข็ม 3 ทำสมาชิกเสียหาย รอง ปธ.สภาฯ ยันแค่หารือสถานการณ์ว่าเอาไม่อยู่แน่ ต้องเตรียมเข็ม 3 ให้ ปชช.ทั้งประเทศ พร้อมขอโทษหากให้ข่าวคลาดเคลื่อน
วันนี้ (8 ก.ค.) นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรคเพื่อไทย กล่าวหารือถึงกรณีที่มีการแถลงข่าวว่า มติวิป 4 ฝ่ายจะให้ ส.ส. ส.ว. ฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 ว่า ในวันดังกล่าว นายสุชาติ และตนได้ร่วมเป็นหนึ่งที่นั่งประชุมในวันดังกล่าวด้วย ขอถามว่า วิป 4 ฝ่ายมีมติดังกล่าวตอนไหน เมื่อไหร่ อย่างไร เป็นมติจริงหรือไม่ ข่าวนั้นหลุดรอดออกไปได้อย่างไร เพราะคนที่เอาไปเผยแพร่เจตนาทำให้สมาชิกเสียหาย โดยเฉพาะคนพูดเป็นสมาชิกด้วยทำให้เสียเกียรติศักดิ์ของสภาแห่งนี้ หากเป็นข่าวจริงตนไม่ว่า การอยู่ตรงนั้นไม่มีมติแต่ประการใด เราปรึกษาหารือกันว่าจะประชุมกันต่อไป หรือไม่ ด้วยสถานการณ์โควิด ซึ่งหลายคนเห็นควรต้องประชุมต่อไป และต้องมีมาตรการเข้มข้นมาก โดยตนเสนอให้รัฐบาลต้องเป็นแบบอย่างในการควบคุมป้องกัน เพื่อทำให้กิจกรรมของเราดำเนินต่อไปได้โดยใช้วิธีอย่างเข้มขน โดยทุกคนที่เข้ามาในอาคารรัฐสภาต้องตรวจเชื้อrapid test ทุกคน เพื่อแยกผู้ที่เราไม่เชื่อมั่นว่าจะมีเชื้อเข้ามาหรือไม่ หากพบผลบวกแยกกักกันทันที
ส่วนประเด็นเรื่องวัคซีนนายสุชาติในฐานะประธานที่ประชุมได้ถามตนเรื่องนี้ ซึ่งคนก็ได้ตอบเชิงวิชาการว่าวัคซีนที่เรามีอยู่ขณะนี้ ทั้งแอสตร้า ซิโนแวค ซิโนฟาร์ม ฉีดแล้วมีผลการเจาะภูมิที่เกิดขึ้นในร่างกายดีในช่วงแรก แต่ต่อมาลดลง จึงต้องกระตุ้นเข็มที่ 3 สมาชิกทุกคนจำเป็นได้รับการกระตุ้นและควรเตรียมจัดหาวัคซีนที่ดีให้สมาชิกทุกคน รวมทั้งผู้ปฏิบัติงานในที่นี้ด้วย
“ผมใช้คำว่า กระตุ้น เพราะเป็นวิธีมาตรฐานทั้งโลกก็ทำ หากไม่กระตุ้นหมายถึงที่ฉีดมาไม่มีประโยชน์อะไร หากจะตีความว่าเข็ม 3 เป็นมติของสมาชิกเรียกร้องให้มาฉีดเป็นการแปลความที่ผิด ไม่ว่าหน่วยงานไหน โดยเฉพาะรัฐบาลไทยที่ทำงานแบบโง่ๆ จะต้องเตรียมเข็ม 3 ไว้แล้ว ใครที่แถลงข่าวต้องขอโทษสมาชิก และขอให้ตั้งกรรมการสอบ ผู้ที่ให้ข่าว เพื่อทำลายสภาฯ ด้วยกันเอง คิดว่าจะมีชื่อเสียงหรือได้ข่าว หากคิดแบบนั้นโง่มาก ดักดาน หิวแสง ต้องการสื่อประเภทพวกนี้” นพ.ชลน่าน กล่าว
ด้าน นายสุชาติ ชี้แจงว่า ตนได้ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุมวิป 4 ฝ่าย ตามดำริของ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา เพื่อหารือว่าควรดำเนินการประชุมหรือควรหยุดชั่วคราว โดยได้วิเคราะห์กันว่าควรจะประชุมต่อไป เพราะเป็นองค์กรหลักหนึ่ง จึงควรเป็นแบบอย่างในการป้องกัน และสะท้อนปัญหาและแก้ไขความเดือดร้อนของประชาชน มันเกี่ยวกับภาพลักษณ์ของเราด้วย หากเราหยุดการประชุมชั่วคราวจะเป็นภาพลักษณ์ที่ไม่ดี แต่ถ้าประชุมต่อไปต้องมีมาตรการที่เข้มข้น และยังวิเคราะห์การแพร่ระบาดของโควิดว่าระบาดหนักตัวเลขเพิ่มขึ้นทุกวัน ขนาดตรวจยังไม่มากพอตัวเลขยังเกิน 5 พันต่อวันแล้ว หากตรวจอย่างจริงจังจะต้องมากกว่านี้แน่นอน จึงได้วิเคราะห์ว่าเอาไม่อยู่ ดังนั้น จึงต้องมองไปข้างหน้าว่าจะควบคุมป้องกันอย่างไร จึงมีพูดถึงการฉีดกระตุ้นภูมิคุ้มกันขึ้นมาด้วยเข็มที่ 3 แต่เป็นส่วนรวมของประเทศ
“ผมยืนยันได้ว่า ที่ประชุมไม่ได้เอ่ยถึงว่าสภาฯจะต้องฉีดเข็มที่ 3 ดังนั้น ผู้ที่ไปให้ข่าวผมต้องขออภัย อาจผู้ให้ข่าว หรือผู้รับข่าวอาจจะคลาดเคลื่อน หากผิดพลาดไม่ตรงกับข้อเท็จจริงผมต้องขอโทษด้วย จะดูว่าใครเป็นผู้ให้ข่าวและจะเรียกมาคุยว่าจะดำเนินการอย่างไร” นายสุชาติ กล่าว