“ธีรัจชัย” เผย กมธ.แก้ รธน.จ่อเคาะอำนาจแก้ไข รธน. 13 ก.ค.นี้ หวั่นพรรคใหญ่สอดไส้แก้ไขเกินหลักการ แนะถอนร่างไปทำให้สมบูรณ์
วันนี้ (8 ก.ค.) นายธีรัจชัย พันธุมาศ ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมาธิการ (กมธ.) พิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พุทธศักราช …. (แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 83 และมาตรา 91) แถลงความคืบหน้าการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของคณะ กมธ. ว่า ในการประชุมคณะ กมธ. เมื่อวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา มีการหยิบยกประเด็นว่าร่างแก้ไขของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านการรับหลักการของรัฐสภา จะสามารถแก้ไขมาตราอื่นๆ ที่ไม่ได้ระบุในหลักการของร่างพรรคประชาธิปัตย์ได้หรือไม่ เนื่องจากในหลักการระบุไว้เพียงแก้ไขมาตรา 83 และ 91 ซึ่งแตกต่างจากร่างของพรรคเพื่อไทย และพรรคพลังประชารัฐ ที่ระบุในหลักการชัดเจนว่า แก้ไขระบบเลือกตั้ง แต่พรรคประชาธิปัตย์ระบุเพียง 2 มาตรา โดยที่ไม่ได้บอกว่าแก้ไขระบบเลือกตั้ง ทำให้ กมธ.มีความเห็นแตกต่างกัน บางส่วนมองว่าสามารถแก้ไขมาตราอื่นได้ โดยเฉพาะประธานคณะ กมธ. ที่เห็นว่าสามารถทำได้ แต่ กมธ.บางส่วน โดยเฉพาะเสียงของพรรคฝ่ายค้าน ยืนยันว่า การแก้ไขจะต้องไม่ขัดต่อหลักการ เราจึงเห็นว่า ร่างของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ระบุแก้ไขเพียง 2 มาตรา ไม่ได้เป็นการแก้ระบบเลือกตั้งทั้งระบบ ร่างของพรรคประชาธิปัตย์จึงเป็นร่างที่ไม่สมบูรณ์ หากดึงดันให้ผ่านไปโดยไปแก้มาตราอื่นๆ ด้วย จะเป็นสิ่งที่ฝืนในหลักการกฎหมาย อาจจะเป็นการดันทุรังเพื่อให้ร่างนี้ผ่านไป
“การแก้ไขรัฐธรรมนูญควรเป็นการแก้ไขกติกาที่ไม่เป็นธรรม ไม่ใช่แก้เพื่อประโยชน์ของพรรคการเมืองใหญ่เท่านั้น แต่พรรคการเมืองขนาดเล็ก และขนาดกลาง ไม่ได้ประโยชน์เลย การกระทำที่ดันทุรังจะขัดกฎหมาย ขัดความรู้สึกประชาชน เราเห็นว่าไม่ควรทำ ถ้าจะทำควรให้รัฐสภาตัดสิน หรือถอนเรื่องนี้ไปทำให้สมบูรณ์ ไม่ควรแก้ระบบเลือกตั้งอย่างเดียว แต่ควรแก้ทั้งฉบับ” นายธีรัจชัย กล่าว
ด้าน นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล หนึ่งในกรรมาธิการ กล่าวว่า ร่างแก้ไขของพรรคประชาธิปัตย์เป็นร่างที่มีปัญหา และอาจจะนำไปสู่การที่รัฐสภาพยายามสอดไส้แก้ไขเพื่อบิดเบือนต่อหลักการ ประเด็นสำคัญถ้าเราปล่อยให้เกิดกระบวนการในการสอดไส้แบบนี้ ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่อันตราย เรื่องนี้ไม่ใช่แค่การขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา แต่จะเป็นรากฐานของการเมืองระบบรัฐสภา ที่เราจะสามารถพิจารณากฎหมายในรูปแบบไหนก็ได้ นอกจากไม่แก้ปัญหาเรากำลังจะทำลายรากฐาน และอำนาจรัฐสภา ด้วยการสอดไส้โดยพรรคการเมืองใหญ่โดยที่ไม่สนใจว่าประชาชนจะต้องการหรือไม่ด้วยซ้ำ
“ดังนั้น ใครก็ตามที่อยู่ใน กมธ.ชุดนี้ พวกท่านเป็นนักการเมืองหลายสมัย หลายคนได้รับการยอมรับจากประชาชน อย่าทำลายหลักการรัฐสภาในเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม หากจะยังพิจารณาก็ยังมีหนทางที่คุยกันได้ แต่ต้องไม่ใช่การสอดไส้ตามอำเภอใจที่ตัวเองปรารถนา”
อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 13 ก.ค.นี้ ที่ประชุมคณะ กมธ. จะมีการตัดสินว่าสุดท้ายขอบเขตของข้อบังคับการประชมรัฐสภาข้อ 124 ที่ห้ามไม่ให้มีการแก้ไขเกินหลักการจะเป็นอย่างไร สมมติ กมธ.เห็นว่า แก้ไขอย่างไรก็ได้ พรรคก้าวไกลคงไม่สามารถยอมรับกระบวนการแบบนี้ได้