ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ วีไอพีเสี่ยงทำพัง !?

เมืองไทย 360 องศา



ต้องบอกว่าได้ลุ้นกันทุกนาทีเหลือเกินสำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 เพราะตามตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ วันที่ 5 กรกฎาคม ก็ยังอยู่ในระดับตัวเลข 6,166 และยอดเสียชีวิต 50 ราย ถือว่าเป็นอัตราเพิ่มที่ทรงตัวในตัวเลขที่สูงสำหรับประเทศไทยมานานนับสัปดาห์แล้ว

ขณะเดียวกัน อีกด้านหนึ่งก็มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง ก็คือ นโยบายในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวเพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนเศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง ซึ่งมีการประกาศนับถอยหลัง 120 วัน และที่น่าลุ้นก็คือ โครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่รัฐบาล โดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้นำคณะลงไปเปิดนำร่องไปเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา

ซึ่งเป็นที่รับรู้กันทั่วไปว่ามาตรการการควบคุมดูแลก่อนที่จะมาเป็น “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มีการเตรียมการอยย่างดีทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวในพื้นที่ต่างมีความร่วมมือและกระตือรือล้นเพื่อให้สามารถดำเนินการได้ตามเป้าหมาย

ในวันดังกล่าว นายกรัฐมนตรีก็ได้นำคณะลงไปกดปุ่มเปิดงานกันอย่างคึกคักและประทับใจนักท่องเที่ยวชุดแรกที่เดินทางมาถึง แม้ว่าจะมี “ดรามา” ตามมาบ้าง แต่พิจารณาดูแล้ว ถือว่ายังเป็นเรื่องเล็กน้อย

ที่ต้องมีการกล่าวถึง “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เนื่องจากถือว่า “มีเดิมพัน” สูงไม่เบา เพราะหากที่นี่สำเร็จ หรือมีผู้ติดเชื้อที่ยังอยู่ในสภาพควบคุมได้ ไม่เกินเพดานที่กำหนดเป็นเงื่อนไขทำให้ต้องยกเลิก หรือ “ปิดโครงการ” สเต็ปต่อไป ในกลางเดือนคือวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ จะมีโครงการเปิดในลักษณะเดียวกันนี้ที่ “เกาะสมุย พะงัน และเกาะเต่า” ตามมาอีก ดังนั้น หากที่ภูเก็ตล้มเหลว มันก็ย่อมส่งผลกระทบไปถึงที่อื่นๆ ตามมา รวมไปถึงพื้นที่อื่นๆ ที่วางแผนเอาไว้ในลำดับถัดไปในเดือนสิงหาคม และตุลาคม ตามลำดับ

ที่บอกว่ามี “เดิมพันสูง” เพราะการเปิดนโยบายดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ในประเทศระลอกใหม่ที่ยังไม่สามารถควบคุมได้ แต่ขณะเดียวกัน ประเทศไทยมีระบบเศรษฐกิจหลักที่ขับเคลื่อนโดยการท่องเที่ยว ก็ต้องหาทางฟื้นฟูให้กลับมาอีกครั้ง ซึ่งจะดำเนินการในแบบค่อยเป็นค่อยไปในบางพื้นที่ที่คาดว่าสามารถควบคุมได้ เช่น ในพื้นที่เป็นเกาะ เป็นต้น พร้อมๆ กับมาตรการอื่นๆ ควบคู่กันไป เช่น การระดมฉีดวัคซีนให้ได้ตามเป้าหมาย

สำหรับโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ที่ดำเนินการมาตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม ที่ผ่านมา อีกด้านหนึ่งมันก็ทำให้ “ลุ้นระทึก” ได้ตลอดเวลาว่า “จะไปรอด” หรือไม่ ในท่ามกลางการระบาดระลอกใหม่ทั่วโลก โดยเฉพาะในประเทศไทยด้วย จาก “สายพันธุ์กลายพันธุ์เดลตา” ซึ่งมีการลุ้นตลอดเวลาว่า อย่าให้มีการติดเชื้อไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ หรือชาวไทย

อย่างไรก็ดี ได้เกิดความหวาดหวั่นขึ้นมาทันทีเมื่อล่าสุดปรากฏเป็นรายงานข่าวว่า ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ “นายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์” ติดเชื้อโควิด ระหว่างไปร่วมงาน “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม และยังมีการถ่ายภาพเซลฟีอย่างใกล้ชิดกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี อีกด้วย ทำให้นายกรัฐมนตรีต้อง “กักตัว” เป็นเวลา 7-14 วัน ตั้งแต่เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ตามมาตรการสาธารณสุข

แต่คำถามก็คือ ประธานหอการค้าสุรินทร์คนนี้ ติดเชื้อได้อย่างไร และมีการฉีดวัคซีนแล้วหรือไม่ ครบตามจำนวนที่กำหนดไว้เป็นมาตรฐานหรือไม่ อีกทั้งเมื่อพิจารณาทั้งจากตำแหน่ง ก็ถือว่าไม่ใช่เกี่ยวข้องโดยตรง และยังมีการถ่ายรูปแสดงความใกล้ชิดกับนายกรัฐมนตรีเสียอีก

แน่นอนว่า สำหรับ นายวีรศักดิ์ พิษณุวงษ์ ที่เป็นประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์ มีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับงานในครั้งนี้ หรืออาจเป็นเพราะ “หอการค้า” มีส่วนร่วมในงาน ก็ว่ากันไป แต่สิ่งที่อดเป็นห่วงไม่ได้ก็คือ การอาศัยความเป็น “วีไอพี” หรืออีกความหมายหนึ่งก็คือ พวก “อภิสิทธิ์” นี่แหละ จะทำให้ “พัง” กันทั้งหมด

เพราะหากพิจารณาตามมาตรฐานการควบคุมโรค ก็ต้องมีการ “เว้นระยะห่าง” แต่เมื่อพิจารณาตามภาพจะเห็นถึงความแออัด และยิ่งได้เห็นภาพของ ประธานหอการค้าจังหวัดสุรินทร์คนนี้ มีความใกล้ชิด มันก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความ “หละหลวม” ไม่เอาจริงเอาจัง ทุกอย่างจึงกลายเป็นว่า “ดีแต่พูด” แต่ไม่ได้ปฏิบัติจริงตามที่กำหนดเอาไว้

แม้ว่าทุกอย่างในตอนนี้ยังอยู่สภาวะควบคุมได้ แต่เมื่อได้เห็น “ช่องโหว่” บางอย่างมันก็อดเป็นห่วงไม่ได้ และที่สำคัญไม่อยากให้เกิดความล้มเหลวเหมือนกับบางประเทศที่ดำเนินการในลักษณะแบบเดียวกันจนเกิดการระบาดและต้องพับไปในที่สุด ขณะที่ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เป็นโครงการนำร่องที่ถูกจับตามองทั่วโลก ซึ่งมันก็เป็นทั้งทางรอดและหายนะพร้อมๆ กัน อย่าให้พังง่ายๆ ในลักษณะ “อภิสิทธิ์ชน” เกิดขึ้นเลย !!