xs
xsm
sm
md
lg

แฉ “ศาสดาลี้ภัย” บิดเบือน “ในหลวง ร.๙” เห็นชอบรัฐประหาร 2500 จิ๊กซอว์สำคัญ “เพนกวิน-ติ่งส้ม” เชิดชู “จอมพล ป.”

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ แกนนำคณะราษฎร์ 2475 และคณะราษฎร 2563 จากแฟ้ม
แฉ “จรัล” อยู่เบื้องหลังบิดเบือนข้อมูล ล้างสมองคนรุ่นใหม่ กล่าวหา “ในหลวง ร.๙” เห็นชอบรัฐประหาร 2500 ของ “จอมพลสฤษดิ์” โค้นล้มอำนาจแบบถอนรากถอนโคนคณะราษฎร เผยจิ๊กซอว์ “เพนกวิน-ติ่งส้ม” เชิดชู “จอมพล ป.”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (5 ก.ค. 64) เพจเฟซบุ๊ก คณะร่านฯ โพสต์ข้อความระบุว่า

“เมื่อไม่กี่คืนมานี้ มีผู้ใหญ่ผู้น้อยหลายคนวิ่งโร่มาฟ้องพ่องงี้ ๆๆๆ

ทำนองว่า จริงหรอพ่อ ที่ในหลวง ร.๙ “เห็นชอบ” กับการรัฐประหาร พ.ศ. 2500 ที่ น้องหลิด (สฤษดิ์) ได้ปฏิวัติยึดอำนาจจากจอมพล ป.
เรื่องงี้พ่อขอออกตัวก่อนนะว่า
พ่อ get involved น้อยมากกกกกกกกกกก (ก.ไก่ ล้านตัว)
แต่ถ้าละไว้ไม่พูด เด็กรุ่นหลังหรือคนทั่วไปจะถือเปนเรื่องจริง

เรื่องนี้สืบไปสืบมาปรากฏว่า ต้นเหตุเกิดจากการที่ลูกร่านโพ้นทะเล คือ จรัล นักเคลื่อนไหวรับจ้างทางการเมืองชาวไทย ที่หนีหัวซุกหัวซุนขอลี้ภัยมายัง France เช่นเดียวกับพ่อ แต่ประธานโทษเถอะ ! ลูกจรัลอย่าสะเออะมาเทียบชั้นกับพ่อ

เพราะสถานะแห่งลูกจรัลนี้เวทนาแสนต่ำต้อย ต้องมาตกระกำลำบากเปนคนสวนเก็บหัวหอมตุปั๊ดตุเป๋

ต่างกับพ่อที่ออกมาไทยอย่างปัญญาชนเช่นไร ก็อยู่ที่นี่สืบไปฉันท์ปัญญาชนเท่านั้น อิว์ อิว์ อิว์

ทั้งนี้ ลูกจรัลได้สรุปความเอกสาร เปนต้นว่า
1. นายพจน์ สารสิน มาขอร้องให้ทูตอังกฤษเชื่อว่าในหลวง ร.๙ รับรู้ถึงแผนการทำรัฐประหารทุกขั้นตอน และไม่ได้ถูกข่มขู่อย่างใด
2. ทูตอเมริกาเข้าเฝ้าฯในหลวง ร.๙ และยืนยันว่า ทรงยอมรับแผนการของสฤษดิ์และพวกด้วยความสมัครใจ และพระองค์เจ้าธานีนิวัต ยังย้ำเป็นการส่วนตัวกับทูตอังกฤษว่า “รัฐประหารนี้คือสิ่งที่วังต้องการ”

ลูกๆ สามารถดูโพสต์ต้นฉบับใต้โพสต์นี้นะจ๊ะลูก
พ่องี้อ่านแล้วรู้สึกวูบวาบ ครั้นเนื้อครั่นตัว ถึงกับใช้ให้อ้ายปื๊ด (เด็กรับใช้) ตีตั๋วบินไปเกาะอังกฤษ

แล้วระดมทุบเคาะประตูเรียกบรรณารักษ์ให้ไปค้นเอาเอกเอกสารชุดนั้นทำซีร๊อคมาให้พ่ออ่านทีเดียว

ภาพ เอกสารอ้างอิง ข้อมูลบิดเบือน ขอบคุณเพจเฟซบุ๊ก คณะร่านฯ
พอเอกสารอยู่ในมือ
พ่อก็กวาดลูกตาอ่านเอกสารพวกนี้โดยพิสดาร ลงท้ายจึงตบเข่าดังฉาด !
อ้ายจรัล ! อ้ายหะ !

พ่องี้ความดันพุ่งปรี๊ดๆๆๆๆ แต่ไม่ใช่เพราะอะไรนะลูก เพราะแม่งเสียเวลาชิบหายเลยที่ต้องมาตามเช็ดขี้เช็ดเยี่ยวกับสิ่งที่มันมาพ่นปฏิกูลเรี่ยราดไว้ !
คืองี้นะ...
หากเชื่อตาม จรัล ว่า “ร.๙ รับรู้ถึงแผนการทำรัฐประหารทุกขั้นตอน”
แต่พ่อพบว่าประโยคนี้แมร่งมันแหม่งๆ

กล่าวคือ จากประโยคเต็มที่ว่า
“the King had been consulted at every step since the original coup”
หมายความว่า
ในหลวงทรงได้รับ “การเข้าเฝ้าฯเพื่อขอคำปรึกษาหารือ” โดยผู้ก่อการรัฐประหาร (สฤษดิ์และพวก) ตั้งแต่วันที่เริ่มก่อการยึดอำนาจสำเร็จ

นี่ตรงตัวตามนัยของคำว่า “original coup” นะลูกนะประโยคจึงนี้ไม่ได้หมายถึง “ในหลวงรับรู้แผน/ไปจนถึงได้ให้คำปรึกษาทุกๆ ฝีก้าวก่อนทำรัฐประหาร” แบบที่แปลอย่างโง่ๆ ด้านบน

เพราะถ้าจะแปลได้เช่นนี้ ก็ต้องเปลี่ยน กูต์ (coup) เป็น พล็อต (plot) นะซี !

ดังนั้น การรัฐประหารได้เกิดขึ้นสำเร็จลุล่วงไปแล้ว (ดูคำว่า since)
สฤษดิ์จึงขอเข้าเฝ้าเพื่อขอคำปรึกษาหารือ

ซึ่งอันนี้ก็อีหรอบเดียวกับการที่พวกพ่อทำการปฏิวัติยึดอำนาจ ร.7 ในปี พ.ศ. 2475 พอยึดกรุงเทพฯได้ พวกพ่อฯก็ส่งหลวงศุภชลาศัยมา “ขอคุย” กับในหลวง ร.7 ที่หัวหินแล้วร้าบาลพวกพ่อฯ ก็ติดต่อกับ ร.7 เสมอมา จนกระทั่งร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับ 10 ธันวาคม 2475 สำเร็จทำนองนั้นแล

นี่น้า... ถ้าลูกเชื่อเปนแม่นมั่นว่าในหลวง ร.๙ ทรงให้ “ไฟเขียว” แก่สฤษดิ์จริง หรือที่ลูกๆ บางคนเพ้อเจ้อถึงกับพูดว่า นี่เปนการรัฐประหารโดยพระมหากษัตริย์ (คนพวกนี้มีอยู่จริง)

พ่อขอให้ลูกๆ ลองชำเลืองตามองในอีกประโยคที่บอกว่า
“For the rest Sarit has been at pains to seek Constitutional backing with royal decrees in each step.”
ซึ่งแปลได้ว่า
หลังจากนั้น สฤษดิ์ต้อง “ทรมานวิญญาณเปนอย่างมาก” ที่จะหาหนทางให้ได้รับ “ความชอบธรรม” ด้วยการออกพระราชกฤษฎีกา “ตามวิธีทางรัฐธรรมนูญ” ในทุกๆ ขั้นตอน

อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ นั่นหมายความว่า แม้แต่สฤษดิ์เองก็ยังต้องระมัดระวัง ในการออกกฎหมายต่างๆ ว่าจะไม่ไปขัดแย้งกับวิถีทางตามระบอบรัฐธรรมนูญ

เพราะถ้ากฎหมายที่ออกมาด้วยผู้ก่อการฯ ขัดแย้งกับวิถีทางตามรัฐธรรมนูญ สฤษดิ์ก็เปงเคียดกังวลว่า ในหลวงก็คงจะไม่ผ่านกฎหมายเหล่านั้นให้นั่นเองนะจ๊ะลูกจ๋า

นี่สิ ถึงเรียกว่า เจ็บปวดมั๊กๆๆๆๆๆ อิว์ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
อ้อ.. แล้วคนที่มารายงานทูตอังกฤษเนี่ยคือ “ตาพจน์” นะจ๊ะลูกจ๋า
แล้วตาพจน์เปนใคร ทำหน้าหน้าที่อะไรในคน้าร้าบาน ลูกรู้ไหมย์ ?
ตาพจน์ คือ นาโย๊กกกกกกกกก ใช่ นายกร้ามนตรี !!!
ธรรมชาติของร้าบาลจัดตั้งใหม่นะลูก พวกเขาต้องการให้ประชาคมต่างประเทศรับรองรัฐบาลพวกเขา

ทั้งนี้ การพูดคุย (โม้) กับทูตว่าในหลวงกับรัฐบาลเป็นเนื้อเดียวกัน ย่อมเป็นหลักหมายสำคัญที่ทำให้อังกฤษแน่ใจว่า ความยุ่งยากจากการตั้งรัฐบาลหรือความขัดแย้งระหว่างในหลวงกับนายกฯ จะไม่เกิดขึ้นอย่างเช่นในอดีต เช่น ในสมัยจอมพล ป. ก่อนหน้านี้

แล้วถ้าลูกรู้นะว่าบางทีทูตมันรายงานทุกอย่างกลับไปหมดตามที่มันได้รับทราบข่าว หรือไปคุยกะใครมา พวกนี้มีหน้าที่เป็นแค่ผู้ให้ข้อมูล กับทำสรุปสถานการณ์ในตอนท้าย

ดังนั้น การที่บอกว่าปริ้นซ์ธานีฯ บอกว่า “การร้าปาหารครั้งนี้เปนสิ่งที่ผู้จงรักผู้ภักดีต้องการ”

ก็ต้องใส่เครื่องหมาย (?) ไว้ก่อน เพราะเราก็ไม่รู้แน่ว่า ปริ้นซ์ธานีฯพูดแบบนี้จริงหรือไม่ ? สุดแล้วแต่ว่าผู้เขียนรายงานนี้ รายงานข้อเท็จจริง (facts) เพียงใด
(อันที่จริง การแปล Royalists ว่า ทางวัง คือการแปลที่โง่มาก
ที่ถูกควรแปลว่า ผู้จงรักผู้ภักดี)

ทั้งนี้ หลายครั้งความเห็นของพวกทูตก็ใช่ว่าจะถูกต้อง 100% เสมอไป เพราะบางที แมร่มมันก็รายงานข่าวลือด้วย ! (เพราะถือเปนกระแสสังคมต้องติดตาม)

เช่น ครั้งนึงมีรายงานจากเอกสารทางการทูตของอังกฤษว่า พี่น้องปราโมชสมรู้ร่วมคิดร่วมประชุมการรัฐประหารครั้งนี้

แต่ในเดือนถัดมา ทูตคนดังกล่าว ก็รายงานกลับไปยังอังกฤษว่า ทาน’โทษๆๆๆ ครับ เหมือนจะไม่ใช่พี่น้องปราโมชซะงั้น !
อั๊วะจำผิดคน !
เอ้า อห !

ดังนั้น ใครจะเชื่อเอกสารทางการทูต ก็ขอให้พิจารณาให้ถ้วนถี่ ให้มีสติ ขออย่าได้ตกเปนคนโง่ เพราะไปเชื่อตามอ้ายคนสวนขุดหัวหอมเรยหนา

เพราะตัวมันเอง มันยังเอาตัวไม่รอดเร้ยยยย
“นะจ๊ะ”
อิว์ อิว์ อิว์
//พ่อ PD ช่วงนี้เกลียดซุปหัวหอม แหวะ อี๋ๆๆๆๆๆๆๆๆ”

ภาพ ผู้มีบทบาทยุคการเมือง สามเส้า ขอบคุณภาพจากไทยโพสต์
อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากวิกิพีเดีย ระบุว่า รัฐประหาร 16 กันยายน พ.ศ. 2500 เป็นรัฐประหาร โดยมี จอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ เป็นหัวหน้า เพื่อโค่นรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม สมัยที่สอง เป็นการยุติยุคการเมืองสามเส้า (พ.ศ. 2490-2500) และเข้าสู่ยุคพ่อขุนอุปถัมถ์แบบเผด็จการและเผด็จการทหารที่ครองอำนาจจนถึงปี 2516 และการฟื้นฟูพระราชอำนาจที่เสื่อมลงตั้งแต่การปฏิวัติสยาม พ.ศ. 2475

ส่วน “ยุคสามเส้า” มีสาเหตุจากขั้วอำนาจของจอมพล ป. และ พลตำรวจเอก เผ่า พ่ายแพ้ต่ออิทธิพลของขั้วอำนาจกลุ่มเจ้าและอนุรักษนิยม ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยอาจมีชนวนเหตุมาจากความพยายามของ จอมพล ป. ในการนำตัว ปรีดี พนมยงค์ กลับประเทศเพื่อช่วยค้ำจุนอำนาจของตน ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และความเสื่อมนิยมอันเนื่องจากการเลือกตั้งสกปรกเมื่อต้นปี ทำให้ จอมพล สฤษดิ์ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นด้วย

ภาพ “เพนกวิน” ชู 3 นิ้วใส่จอมพลสฤษดิ์ ขอบคุณภาพ จาก LINE TODAY
จึงไม่น่าแปลกใจ ช่วงที่ เพนกวิน-พริษฐ์ ชีวารักษ์ ออกมาเชิดชู “จอมพล ป.” ต่อมา 15 ก.ย. 63 นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเฉลยว่า ทำไม...

โดยตอนหนึ่ง ระบุเรื่องราวของ “จอมพล ป.” ว่า “ต้นปี พ.ศ. 2469 ร่วมเป็นสมาชิกคณะราษฎรยุคก่อตั้ง ซึ่งมีทั้งหมด 7 คน โดยมีการประชุมครั้งแรกของคณะราษฎรที่ยาวนานติดต่อกัน 4 คืน 5 วัน ที่ประเทศฝรั่งเศส

โดยร้อยโทแปลก (ขณะนั้น) ได้เสนอว่า หลังเปลี่ยนแปลงการปกครองแล้ว
**ให้สำเร็จโทษพระบรมวงศานุวงศ์ทุกพระองค์...

รวมทั้งชี้ว่า การรัฐประหารของ จอมพล สฤษดิ์ (พ.ศ. 2500) คือ การโค้นล้มอำนาจ แบบถอนรากถอนโคนของ “คณะราษฎร์” ได้ในที่สุด

เพราะฉะนั้นจอมพลสฤษดิ์ จึงถือว่า เป็นศัตรูของคณะราษฎร และก็ถือเป็นศัตรูของ “ติ่งส้ม” ไปโดยปริยาย
“ทีนี่เข้าใจแล้วใช่มั้ยว่า ทำไม เพนกวินและติ่งส้มทั้งหลาย ยก 3 นิ้วใส่จอมพล สฤษดิ์ แล้วยก 2 นิ้วให้จอมพล ป. และยก 1 นิ้วกลางให้พลเอก ประยุทธ์

เพราะ จอมพล สฤษดิ์ และ พลเอก ประยุทธ์ คือ ขุนศึกคู่กู้บัลลังก์ ในขณะที่จอมพล ป. คือ ขุนพลผู้ล้มล้างราชบัลลังก์ โดยที่เคยเสนอว่า เมื่อปฏิวัติสำเร็จแล้วให้ฆ่าล้างราชวงศ์ ในการประชุมครั้งแรกของคณะราษฎรที่ฝรั่งเศส”...
อ่านฉบับเต็มได้ที่นี่:
https://www.facebook.com/1234993066616474/posts/3414407205341705/?extid=ks6dNWGfRhSjQLtg&d=n

ภาพ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร และนายณัฐพล ใจจริง จากแฟ้ม
แน่นอน, สิ่งที่น่าสนในขบวนการบิดเบือนข้อมูลเรื่อง “สถาบัน” ก่อนหน้านี้ (20 มี.ค. 64) ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร ได้ออกมาแฉ “วิทยานิพนธ์ปริญญาเอก” เรื่อง “การเมืองไทยสมัยรัฐบาลจอมพล ป. พิบูลสงคราม ภายใต้ระเบียบโลกของสหรัฐอเมริกา (พ.ศ. 2491-2500)” ของ นายณัฐพล ใจจริง รองคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ผู้แต่งหนังสือ “ขอฝันใฝ่ในฝันอันเหลือเชื่อ” และ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” ที่ตีพิมพ์ในวารสาร “ฟ้าเดียวกัน” มาแล้ว ว่า มีการอ้างข้อมูลที่มีไม่จริง แต่สาระสำคัญพยายามชี้ให้เห็นว่า สถาบันฯ เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการเมืองตั้งแต่สมัยนั้นแล้ว ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นสอบสวนข้อเท็จจริงของ จุฬาฯ

เรื่องนี้ก็เช่นเดียวกัน พยายามจะชี้ให้เห็นว่า การรัฐประหาร 2500 “ในหลวง ร.๙” เห็นชอบด้วย ความหมายก็ตรงตัวอยู่แล้ว

แล้วไม่แปลก ถ้าจะบอกว่า ทำไม “ฟ้าเดียวกัน” ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ จึงตีพิมพ์ “ขุนศึก ศักดินา และพญาอินทรี” ซึ่งเอาข้อมูลจากวิทยานิพนธ์เรื่องนี้

ขณะเดียวกัน ก็ไม่แปลกที่กลุ่มคน ผู้คลั่ง “คณะราษฎร์” ทั้งหลาย จะเชิดชู จอมพล ป. ซึ่งเป็นหนึ่งใน “คณะราษฎร์” ที่ต้องการล้มล้างสถาบันฯ

แล้วก็ไม่แปลก หากศาสดา “ล้มเจ้า” อย่าง “จรัล” จะอยู่เบื้องหลังการบิดเบือนข้อมูลรัฐประหาร 2500 ที่ว่า “ในหลวง ร.๙” เห็นชอบ เพื่อให้เข้ากับหนึ่งในข้อเรียกร้อง ของม็อบ “3 นิ้ว” อยู่เวลานี้ ที่ว่า ต้องไม่เซ็นรับรองการรัฐประหาร หรืออาจหมายถึง กล่าวหาว่า เห็นชอบกับการรัฐประหารหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น