“ไทยสร้างไทย” ห่วง “พันธุ์เดลตา” อาละวาดในไทย กระตุกนายกฯ หยุดละเมิดสิทธิการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ ชี้ ภาษี ปชช.ต้องซื้อวัคซีนที่ทุกคนเชื่อมั่น สับ “วัคซีนที่มี” ทำหมอเสี่ยงสูง-ปชช.เสี่ยงยาว เหน็บ “จ่ายภาษีแบบบังคับ แล้วรอรับวัคซีนแบบชิงโชค”
วันนี้ (2 ก.ค. 64) น.ส.สุวดี พันธุ์พานิช รองโฆษก และคณะทำงานด้านสาธารณสุข พรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ของรัฐบาล ว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นในวัคซีนที่รัฐดำเนินการจัดซื้อ เนื่องจากพบว่าวัคซีนทั้ง 2 ยี่ห้อ ที่ฉีดแก่บุคลากรทางการแพทย์และประชาชนมีประสิทธิภาพต่ำในการป้องกันสายพันธุ์เดลตา (อินเดีย) ในขณะที่สายพันธุ์ดังกล่าวกำลังระบาดไปทั่ว สอดคล้องกับที่ นพ.นิธิพัฒน์ เจียรกุล แพทย์โรงพยาบาลศิริราช ได้ให้ข้อมูลว่า พบสายพันธุ์เดลตาอาจจะเกินกว่าครึ่งของผู้ติดเชื้อในโรงพยาบาลศิริราช
“โดยสายพันธุ์นี้นอกจากจะแพร่ได้ง่ายไปสู่ทั้งเด็ก คนท้อง และคนชรา ยังอาจจะเกิดปอดอักเสบได้เร็ว และได้แรงกว่าสายพันธุ์เดิม ขณะที่ หมอยง (ศ.นพ.ยง ภู่วรวรรณ) ก็ได้ออกมาเตือนว่า ในอีก 4 เดือนข้างหน้า สายพันธุ์เดลตาจะมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นจนเข้ามาแทนที่สายพันธุ์อัลฟา (อังกฤษ)” น.ส.สุวดี ระบุ
น.ส.สุวดี กล่าวต่อว่า แม้ว่าจะมีกระแสเรียกร้องวัคซีนยี่ห้ออื่น แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ยังเดินหน้าสั่งซื้อวัคซีนตัวเดิมอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เร่งนำเข้าวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง และไม่มีทีท่าประกาศหาวัคซีนใหม่ทดแทนวัคซีนที่จัดซื้อง่าย และผลิตได้ในประเทศ ทั้งที่วัคซีนดังกล่าวยังปรากฏปัญหาต่อเนื่อง ทั้งอัตราการแพ้วัคซีน ประสิทธิภาพการป้องกัน รวมถึงการพบความผิดปกติของสารละลายวัคซีน ที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เพิ่งมีคำสั่งให้ระงับการฉีด กรณีดังกล่าวยิ่งบั่นทอนความเชื่อมั่นที่มีการทำหน้าที่รัฐมากขึ้น
น.ส.สุวดี กล่าวด้วยว่า บทบัญญัติรัฐธรรมนูญ มาตรา 55 กำหนดว่า “รัฐต้องดำเนินการให้ประชาชนได้รับบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพอย่างทั่วถึง เสริมสร้างให้ประชาชนมีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการส่งเสริมสุขภาพ และการป้องกันโรคและส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาภูมิปัญญาด้านแพทย์แผนไทย ให้เกิดประโยชน์สูงสุด บริการสาธารณสุข ตามวรรคหนึ่งต้องครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ การควบคุม และป้องกันโรคการรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสุขภาพด้วย รัฐต้องพัฒนาการบริการสาธารณสุขให้มีคุณภาพและมาตรฐานสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” จึงขอเตือนนายกฯ ในฐานะประชาชนคนหนึ่ง ให้หยุดการละเมิดสิทธิสิทธิการเข้าถึงบริการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ หยุดการสั่งซื้อวัคซีนที่ประชาชนไม่เชื่อมั่น โดยให้คำนึงถึงประชาชนที่ต้อง “จ่ายภาษีแบบบังคับ แล้วรอรับวัคซีนแบบชิงโชค” เสี่ยงแพ้ เสี่ยงติด เสี่ยงตาย ด้วย
“การใช้ภาษีประชาชนต้องเพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงวัคซีนที่มีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และต้องเป็นวัคซีนที่ดีที่สุด ไม่เพียงแค่บุคลากรทางการแพทย์ที่จะต้องเสี่ยงสูงในการดูแลผู้ป่วย แต่หมายรวมถึงผู้คนที่ในประเทศที่จะต้องเสี่ยงอีกยาวนานด้วย โควิดจะยืดเยื้อ เศรษฐกิจจะย่ำแย่ เราจะสูญเสียอีกมาก หากวัคซีนที่มีไม่ใช่วัคซีนที่ดีที่สุด” รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าว
