ข่าวปนคน คนปนข่าว
** ช่างขัดแย้งในอารมณ์ ขณะที่“ลุงตู่”และครม.มีความสุขกับการเปิด “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” รับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่ หมอ พยาบาล น้ำตาร่วงกับภาพคนไข้ล้นโรงพยาบาล โควิดระบาดหนักขึ้นทุกวัน
ในวันที่คนตายครึ่งร้อย คนติดเชื้อโควิดครึ่งหมื่น ทำ “นิวไฮ” ต่อเนื่อง ระบบสาธารณสุขวิกฤต เตียงไม่พอ หมอและพยายบาล ทำงานไม่ได้พัก รองปลัดสธ. น้ำตาคลอขณะขอให้หมอจบใหม่มาช่วย เพราะวิกฤตไม่ไหวแล้ว คนหน้างานหลั่งน้ำตา ประชาชนฆ่าตัวตาย แต่ผู้บริหารประเทศไป "อารมณ์ดี มีความสุข" ถ่ายรูปลั้ลลาที่ภูเก็ต ท่ามกลางลูกน้องที่ห้อมล้อมสอพลอ
เหล่านี้เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ ในโซเชียลฯ เมื่อวานนี้ (1ก.ค.) ซึ่งเป็นวันที่ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรียกทีมครม.ชุดใหญ่ ลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ต้อนรับนักท่องเที่ยว ตามโคงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” พร้อมนำภาพและคลิปมาเผยแพร่ทางเพจไทยคู่ฟ้า
...วันนี้ผมมาภูเก็ตอารมณ์ดี มาตลอด นั่งบนเครื่องก็ถ่ายรูปมาตลอดเมฆฟ้า ทะเลสวย ลงพื้นที่ได้รับการต้อนรับดี ผู้คนยิ้มแย้มแจ่มใส ผมก็มีความสุข...
ช็อตที่ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์กันมาก ก็คงเป็นช่วงที่ “ลุงตู่” พักผ่อนอริยาบท ริมทะเลภูเก็ต ร่วมกับรัฐมนตรีอีกหลายคน ระหว่างรอต้อนรับนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนหนึ่งไม่ได้สวมหน้ากากอนามัย พูดคุยพร้อมกับมีเสียงหัวเราะอย่างมีความสุข
ยังมีช่วงที่ “ลุงตู่และคณะ” ไปที่อุทยานแห่งชาติ สิรินาถ เพื่อปลูกต้น" จิกทะเล" ก็กล่าวกับต้นไม้ว่า "โตไวๆนะ ห้ามตาย ขอให้ร่มเย็นเป็นสุข" จากนั้นเดินไปปล่อยเต่าที่ชายหาด ก็กล่าวกล่าวกับเต่าว่า "ไปลงทะเล ลืมตาได้แล้ว"
หรือในช่วงที่ “ลุงตู่” เปิดโครงการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว “HUG THAIS HUG PHUKET” ที่ศูนย์การค้า เซ็นทรัลภูเก็ต ก็บอกว่า มาติดตามโครงการ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เพื่อสร้างให้ภูเก็ตเป็น “ปราสาททราย” ก็ถูกนำมาล้อเลียน เพราะความหมายของ “ปราสาททราย” น่าจะทำให้คิดถึงความฝันที่สวยหรู แต่ไม่จีรังยั่งยืน แค่ถูกลมพัด น้ำเซาะก็พังครืน ขณะที่คำว่า “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” นั้นหมายถึงการใช้ ภูเก็ตเป็นแบบแผนในการวางยุทธศาสตร์ เป็นต้นแบบนำร่องในการเปิดรับนักท่องเที่ยวแบบไม่ต้องกักตัอยู่แต่ในห้องพัก 14 วัน
แบบว่าลุงตู่ ปล่อยไก่ แปลความ ของคำว่า “แซนด์บ็อกซ์” ไปคนละทิศ
ยังมีช่วงที่ “ลุงตู่” บอกับชาวภูเก็ต ให้ช่วยกันเปิดไฟ แสงสี สร้างบรรยากาศไม่ให้เงียบเหงา แต่พอถูกนักข่าวถามว่า มองยังไงในเรื่องที่ว่า นายกฯและผู้บริหารมารวมกันอยู่ที่ภูเก็ตกันหมด ขณะที่กรุงเทพฯ มีผู้เสียชีวิตจำนวนเพิ่มขึ้น เตียงรับคนไข้ก็ไม่พอ แต่นายกฯไม่ตอบ หันหลังเดินหนีไปเลย
…. ตัดภาพมาที่ กรุงเทพฯ ที่บุคลากรทางการแพทย์ ประชุมเครียด เพื่อรับมือกับการแพร่ระบาดที่นับวันยิ่งเพิ่มมากขึ้น โดยไม่มีทีท่าจะลดลง ผู้ป่วยหนักขั้นวิกฤตล้นเตียง ไม่สามารรับคนไข้ที่อยู่ในเกณฑ์ “สีแดง” ได้ แถมยังมีเชื้อกลายพันธุ์ ระบาดเพิ่มอีก หมอ พยาบาล ทำงานแทบไม่มีเวลาพัก
ภาพของ “นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร” รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข ที่กล่าวด้วยเสียงสั่นเครือ กับหมอ พยาบาลอาสา และผู้ที่เพิ่งจบใหม่ ว่า ต้องขอโทษ และขอบคุณในขณะเดียวกที่มาช่วยกันดูแลคนไข้ เพราะกรุงเทพฯ และปริมณฑล อยู่ในขั้น “วิกฤตจริงๆ”
...ปีนี้ยอมรับว่าเป็นสายพันธุ์ที่เราคุมยาก กระจายไปทั่วหมด วันนี้เอาไม่อยู่จริงๆ เลยต้องเกณฑ์พวกเรา ต้องขอบคุณจริงๆ และพร้อมขอโทษด้วย... รพ.บุษราคัม ดูแลผู้ป่วยสีเหลืองขนาด 2 พันเตียง จะขยายอีก 1.5 พันเตียง เป็น 3.5 พันเตียง ถือเป็นประวัติศาสตร์ของพวกเรา ชั่วชีวิตนี้เราไม่เคยผ่านสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ตอนนี้กำลังผ่านสงครามโรคที่ทั่วโลกกำลังสู้อยู่ ใครก็หลุดพ้นไม่ได้ ทุกคนกำลังต่อสู้กันหมด น้องๆ เป็นกำลังสำคัญ ทั้งต่างจังหวัด และกทม.ก็คือคนไทย เชื้อชาติไหนก็อยู่ในแผ่นดินไทยเช่นกัน ไม่ดูแลก็ไม่รอดเช่นกัน ทุกคนในแผ่นดินไทย ต้องรอดหมด ทิ้งใครไว้ข้างหลังไม่ได้ ถือเป็นครั้งแรกที่ระดมทำกันอย่างนี้ ถ้าไม่ทำคงเจอคนนอนตายที่บ้าน และไม่มีที่ไป ประเทศไทยไม่ควรเป็นเช่นนั้น ที่จะต้องเลือกว่าใครจะอยู่ใครจะไป ไม่อยากเห็นภาพนั้น...
ภาพที่ “ลุงตู่” และคณะ มีความสุขอยู่กับการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่ภูเก็ต ช่างขัดแย้งในอารมณ์กับภาพ หมอ พยาบาล บุคลากรทางการแพทย์ ที่กำลังเครียด กับจำนวนคนไข้ที่อยู่ในความรับผิดชอบ เป็นอย่างยิ่ง
**ปทท … sad but true! เมื่อ "น้ำชา ชีรณัฐ" โพสต์"เสียดาย" ประเทศไทย ฟาดคนหิวอำนาจ ชาวเน็ตขานรับกระหึ่ม ..อย่างงี้ ไหวมั้ยละลุง!
หลังจากนักร้องนักแสดงสาวชื่อดัง “น้ำชา” ชีรณัฐ ยูสานนท์ เจ้าของเพลง "รักแท้...ยังไง" โพสต์ข้อความในไอจี namcha_tea ที่มีคนติดตามกว่า 899,000 คนโดยบอกว่า “เสียดาย เสียดายคนเก่งๆ ที่ไปย้ายออกไปต่างประเทศ… เสียดายคนฉลาด ที่ไม่มีที่… เสียดายคนจน อยากมีอนาคต ที่ไม่มีโอกาส… เสียดายคนรวย ที่จะรวยได้อีก… ทุกอย่างโดนปิดกั้น โดนมัดมือ มัดเท้า ให้อยู่ภายใต้ความหิวอำนาจอย่างไม่มีวันจบสิ้น เสียดาย”
พร้อมข้อความว่า “ปทท … sad but true…”
โพสต์ดังกล่าวปรากฏว่า มีคนคนในวงการบันเทิง และชาวเน็ต เข้ามากดถูกใจมากกว่า 44,000คน ขณะที่เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากกว่าพันความเห็น รวมถึงโพสต์รูปอิโมจิ แสดงความรู้สึกต่างๆ เต็มอินสตาแกรมของเธอ
บ้างก็ว่า สงสารลูกหลานที่เกิดมาในยุคนี้ ขอบคุณที่ออกมาพูดแทน 7 ปีประเทศไทยควรไปไกลกว่านี้ พูดไม่ได้ เรียกร้องไม่ได้ มันหมดหวังไปหมดแล้ว บางครั้งสลิ่มก็ลืมหูลืมตาดูประเทศบ้าง ไม่ใช่หลับหูหลับตาเข้าข้างรัฐบาลอย่างเดียว วิกฤตครั้งนี้ไม่ใช่อาชีพใดอาชีพหนึ่ง กระทบทุกอาชีพ
เรียกว่าโพสต์เดียว เป็น call out ที่สร้างอารมณ์ร่วมให้กับสังคมออนไลน์ พูดแทนใจของคนอีกหลายล้านชีวิต จนกลายเป็นไวรัลที่ร้อนแรง สื่อหลักจับไปเป็นประเด็นสะท้อนอารมณ์ของสังคมในวันนี้ได้เป็นอย่างดี
นี่แทบไม่ต้องมีโพลมาสำรวจ ว่า “ความศรัทธา และ เชื่อมั่น” ต่อลุงผู้นำประเทศวันนี้ มันไม่มีเหลือจริงๆ ยิ่งอยู่ยิ่งเสื่อม ยิ่งสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ของประเทศไทยในตอนนี้ ตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งทำสถิติ คนเสียชีวิตทำนิวไฮ ทุกวัน
ในวันที่ “รัฐบาลลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พาประเทศมาถึงวันนี้ วันที่มองไปทางไหนก็หาทางออกทางรอดไม่เจอ กรณีระบายความอัดอั้นตันใจ จุกอก หมดหวังท้อแท้กับผู้นำประเทศคงไม่หยุดอยู่แค่ "น้ำชา" อย่างแน่นอน
โปรดติดตามการ call out ของเหล่าคนดังของทุกวงการ และการขานรับของประชาชน จากนี้จะยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ...อย่างงี้จะไหวมั้ยล่ะลุง.